สธ.ปัดเอี่ยวจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชิ้น เพื่อนรุ่น วปอ.61 ชนะประมูลไม่มีนอกใน แค่เคยบริจาค
สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปฏิเสธความเกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อ ATK 8.5 ล้านชุด ชี้เพื่อนร่วมรุ่น วปอ.61 ชนะการประมูล ไม่มีนอกใน เพียงแค่เคยร่วมบริจาคในนามรุ่นกับเพื่อนคนอื่นเท่านั้น
วันนี้ (16 ส.ค.) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. แถลงข่าวในประเด็นจัดหาชุดตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบแอนติเจน หรือ ATK (Antigen Test Kit) จำนวน 8.5 ล้านชุด มูลค่าเกือบ 600 ล้านบาท โดยยืนยันว่า สปสช. ไม่มีอำนาจในการจัดหาชุดตรวจ ATK เนื่องจากคำสั่ง คสช. ปี 2560 ที่กำหนดว่า สปสช.ไม่มีอำนาจในการจัดหา โดยหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดหา คือ รพ.ราชวิถี กับ องค์การเภสัชกรรม
ที่ผ่านมาทางทั้ง 2 หน่วยงานได้สอบถามมาที่ สปสช. เกี่ยวกับคุณสมบัติและคุณภาพต่างๆ แต่ สปสช.ได้แจ้งกลับไปว่าขอให้ทั้ง 2 หน่วยงานพิจารณาตามบทบาทหน้าที่ ทั้งการกำหนดคุณสมบัติ วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อให้ได้ชุดตรวจที่มีประสิทธิมากที่สุด
ส่วนกรณีประชาชนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับคุณภาพผลิตภัณท์ ก็มีปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานองค์การเภสัชกรรม สามารถดำเนินการตรวจสอบได้และยืนยันกับ สปสช. ว่า มีคุณภาพ ทาง สปสช.ก็ยินดีที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนอย่างรวดเร็ว แต่หากยังมีความสงสัยในตัวผลิตภัณฑ์ก็มีคณะกรรมการจัดซื้อเวชภัณฑ์ สปสช. ในการติดตามผลการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจว่าได้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ
ขณะที่ตัวแทนจากองค์การเภสัชกรรม ยืนยันว่าขั้นตอนการจัดซื้อจัดหาเป็นไปตามข้อกำหนดตามความต้องการของ สปสช. ที่เสนอผ่านมาทาง รพ.ราชวิถีและองค์การเภสัชกรรม
ด้าน นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า สำนักงานปลัด สธ.ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหา ATK 8.5 ล้านชุดตามโครงการพิเศษของ สปสช. แต่สำนักงาน ปลัด สธ.เพียงแต่ได้รับการประสานและร้องขอจาก สปสช.ในเรื่องการกระจายไปสู่ประชาชนในภูมิภาคต่างๆ เนื่องจาก สธ.มีหน่วยงานในภูมิภาคต่างๆ อยู่หมื่นกว่าแห่ง เพื่อนำ ATK เหล่านี้กระจายไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด รวมถึงวางแผนในการรับรองว่าหากผู้ตรวจหาเชื้อโควิดด้วย ATK แล้วมีผลเป็นบวก สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการรักษาและร่วมกับ สปสช.ในการประเมินคุณภาพชุดตรวจต่อไป
ขณะที่ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัด สธ. กล่าวชี้แจงกรณีหนึ่งในผู้เข้าเรียนหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 61 หรือ วปอ.61 เป็นผู้ชนะการประมูลเปิดซองในการจัดซื้อ ATK ล็อตดังกล่าวว่า ทาง วปอ.61 นั้น มีโครงการ CSR ทุกปี และมีการทำ CSR ใน วปอ.ทุกรุ่น ซึ่งรุ่น 61 มีการคุยกันว่า เนื่องจากทาง สธ.มีความต้องการจะใช้ชุดตรวจ ATK มาใช้ในการควบคุมโรค จึงมีมติว่าขอนำเงิน 5 แสนบาทต่อปี ร่วมกับการบริจาคของเพื่อนร่วมรุ่นใน วปอ.61 รวมเป็นเงิน 1.26 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อ ATK มามอบให้ สธ. เมื่อวันจันทร์ที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ สธ.ใช้เป็นการทั่วไป