ไม่พ้นดราม่า! เมีย ผอ.รพ.ดังโคราช ได้ฉีดไฟเซอร์ จับผิดทำงานคลินิกแต่ไม่ใช่ด่านหน้า

ไม่พ้นดราม่า! เมีย ผอ.รพ.ดังโคราช ได้ฉีดไฟเซอร์ จับผิดทำงานคลินิกแต่ไม่ใช่ด่านหน้า

ไม่พ้นดราม่า! เมีย ผอ.รพ.ดังโคราช ได้ฉีดไฟเซอร์ จับผิดทำงานคลินิกแต่ไม่ใช่ด่านหน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สสจ.โคราช ตั้งกรรมการสอบ ผอ.โรงพยาบาลดังโคราช หลังเมียได้โควตาฉีดไฟเซอร์ ถ้าไม่ใช่ด่านหน้าเอาผิดแน่นอน

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีมีการแชร์ต่อในโลกโซเชี่ยล ถึงรายชื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โควตาของโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าในจำนวน 144 ราย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีรายชื่อของภรรยา ผอ.โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งทำงานอยู่ในคลินิกเอกชน และสามีของหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งเปิดร้านขายยารวมอยู่ด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เหตุใดจึงได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจัดสรรมาให้สำหรับฉีดบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั้น

ล่าสุด วันนี้ (17 ส.ค.64) นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามา ถึงกรณีดังกล่าว ขณะนี้ตนเองก็ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติแล้ว

โดยเบื้องต้นทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ชี้แจงว่าได้ทำการสำรวจรายชื่อบุคลากรทางการในโรงพยาบาล ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนไฟเซอร์ พร้อมทั้งบุคลากรในคลินิกเอกชน และเสนอชื่อมาทั้งหมดจำนวน 138 คน เป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล จำนวน 135 คน และคลีนิกเอกชน จำนวน 3 คน ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ จึงได้จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ไปให้ จำนวน 144 โดส โดย 138 โดส สำหรับฉีดให้กับผู้ที่เสนอชื่อมา และอีก 6 โดส ซึ่งบรรจุอยู่ใน 1 ขวด ให้ไปสำรองไว้กรณีเกิดการเสียหายหรือใช้การไม่ได้ และทางโรงพยาบาล ได้นำ 6 โดสที่ให้เกินไปฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ตั้งครรภ์ รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่จองวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 3 ไว้แต่ยังไม่ได้

ส่วนที่มีปัญหาร้องเรียนขณะนี้ คือการนำไปฉีดให้กับบุคคลที่ทำงานอยู่ในคลินิกเอกชน 3 คน ซึ่ง 2 ใน 3 คนนั้น เป็นภรรยาของ ผอ.โรงพยาบาลฯ และสามีของหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภคด้วย ทำให้เกิดข้อครหาถึงความไม่เหมาะสม เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์ล็อตแรกนี้ จะเน้นฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่ปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 จริงๆ ดังนั้นตนเองก็ได้ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปฉีดให้กับบุคคลดังกล่าว ถ้าไม่เกี่ยวข้องอะไรกับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ก็จะต้องดำเนินการเอาผิดทางวินัยกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งต้องขอเวลาสอบข้อเท็จจริงสัก 1 สัปดาห์ จึงจะรู้ผลและดำเนินการต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook