ศิริกัญญา นำทีม ส.ส.ก้าวไกล พาร้านนวด-สปา ฟ้องรัฐบาลเรียกค่าเสียหายปมแก้โควิดผิดพลาด

พรรคก้าวไกล นำกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด-สปา รวม 172 คน ยื่นฟ้องรัฐบาลต่อศาลแพ่ง เรียกค่าเสียหายปมบริหารนโยบายแก้ไขโควิดผิดพลาด พบเสียหายรวม 200 ล้านบาท

วันนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.00 น. นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นำทีม ส.ส.ก้าวไกล พร้อมด้วยทนายความ เดินทางมายังศาลแพ่ง เพื่อเป็นตัวกลางในการยื่นฟ้องแบบรวมกลุ่ม (Class Action) ต่อรัฐบาล ให้รับผิดชอบความเสียหายต่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการบริหารจัดการโควิด-19 โดยเป็นการยื่นฟ้องให้กลุ่มธุรกิจร้านนวดและสปา

นางอักษิกา จันทรวินิจ ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการร้านนวดและสปา โจทก์ยื่นฟ้องลำดับที่ 1 กล่าวว่า เป็นตัวแทนผู้ประกอบการร้านนวดและสปา ยื่นฟ้องต่อกระทรวงการคลังและพวก หมายถึงผู้มีส่วนร่วมในการบริการที่ผิดพลาด โดยก่อนจะมาถึงขั้นตอนการยื่นฟ้อง ได้มีการเรียกร้องในเรื่องของการขอเงินชดเชยเยียวยา รวมถึงให้ปลดล็อกคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม เช่น บางกิจการเป็นคลัสเตอร์แต่ปิด 3 วันแล้วเปิดใหม่ได้ ส่วนร้านนวดไม่เคยปรากฏเป็นคลัสเตอร์กลับไม่อนุญาตให้เปิด ทำให้เป็นประเด็นแรกที่ฟ้องร้องขอความเป็นธรรม ส่วนอีกประเด็นคือค่าชดเชยที่ไม่เคยได้รับ เบื้องต้นมีโจทก์รวมทั้งสิ้น 172 คน ความเสียหายส่วนใหญ่คือการจ่ายค่าเช่าทิ้งโดยไม่เกิดรายได้ รวมถึงค่าเสียโอกาสในการสร้างรายได้

อย่างไรก็ตาม นางอักษิกา ยังกล่าวถึงประเด็นวัคซีนโควิดด้วยว่า ช่วงแรกมีการระบุว่าอาชีพนวดเป็นอาชีพเสี่ยง แต่พอขอวัคซีนกลับได้รับการปฏิเสธว่าอาชีพนวดไม่ใช่กลุ่มอาชีพเสี่ยง นับว่าเป็นปัญหาเป็นอย่างมาก และยังคงมีหมอนวดอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ไม่สามารถเข้าถึงอะไรได้เลย

ด้าน นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่า คำสั่งภาครัฐสั่งให้ปิด ให้หยุดเชื้อเพื่อชาติ ให้เสียสละเพื่อชาติ กลุ่มร้านนวดและสปาเสียสละมามากพอแล้ว แต่รัฐยังไม่เคยให้ความสำคัญกับกลุ่มร้านนวดและสปาเลย ในวันนี้จึงมาพึ่งศาลแพ่งเพื่อขอความกรุณาจากศาลแพ่งว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ซึ่งผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนจากคำสั่งของรัฐทั้ง 38 ฉบับ จนหลายคนสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ล่าสุดได้สั่งปิดไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค. 64 ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่กลุ่มประกอบการเหล่านี้จะได้รับการเยียวยา

ขณะที่ ส.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า จากการที่ไม่ได้รับค่าชดเชยความเสียหาย ซึ่งเพิ่งจะมีมาสำหรับผู้ที่อยู่ในระบบประกันสังคม แต่ว่าไม่ได้สัดส่วนกับความเสียหายที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย หากรัฐยังเพิกเฉยต่อความเดือดร้อนของผู้ประกอบการเช่นนี้ จึงเป็นที่มาสำหรับการดำเนินคดีแพ่งเพื่อฟ้องร้องค่าเสียหายอย่างเป็นรูปธรรม สำหรับค่าเสียหายของผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนไว้ คิดเป็นมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ซึ่งอาจยื่นฟ้องร้องไม่ถึง 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ การยื่นฟ้องแบบรวมกลุ่ม (Class Action) กรณีดังกล่าว เป็นการยื่นฟ้องแบบกลุ่มต่อศาลแพ่งเป็นคดีแรกที่เกิดขึ้น การใช้วิธีนี้อาจทำให้ผู้ประกอบการที่โดนกระทำละเมิดแบบเดียวกัน ถูกกระทำโดยรัฐเหมือนกัน สามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้โดยเสียค่าใช้จ่ายหรือเป็นภาระน้อยกว่าการฟ้องทีละคน ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคดีตั้งต้น จากนี้จะขยายเพิ่มเติมไปยังกลุ่มอื่นๆ อาทิ  นักดนตรี คนจัดงานอีเวนท์ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ผับ บาร์ ญาติผู้เสียชีวิต กลุ่มแรงงานที่ถูกเลือกปฏิบัติจากมาตรการของรัฐที่มีการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานต่างชาติ และผู้ที่ทำงานในแคมป์ก่อสร้างหรือโรงงานขนาดใหญ่ โดยการแบ่งการฟ้องเป็นกลุ่มๆ เพราะการได้รับผลกระทบของแต่ละกลุ่มนั้นมีลักษณะค่าเสียหายที่เอามาคำนวณต่างกัน อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดศาลอาจเห็นสมควรให้รวมคดีก็เป็นได้

มีรายงานว่า หลังจากนั้น ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม ในวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป