ผงะ พบชิ้นส่วนมนุษย์ติดฐานล้อเครื่องบิน C-17 ของสหรัฐ ที่อพยพจากอัฟกานิสถาน
สหรัฐเตรียมสอบ กรณีพลเรือนอัฟกันเกาะล้อเครื่องบินหวังหลบหนี เผยพบชิ้นส่วนมนุษย์ในฐานล้อเครื่องบิน
กองทัพอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยว่าพบชิ้นส่วนมนุษย์ติดอยู่กับฐานล้อของเครื่องบินที่เดินทางมาจากกรุงคาบูล โดยพบว่าชิ้นส่วนดังกล่าวติดอยู่บริเวณฟันเฟือนและช่วงฐานล้อ (Landing gear) ของเครื่องบินลำเลียงแบบ C-17 ที่อพยพเจ้าหน้าที่ของสหรัฐจากสนามบินนานาชาติฮามิด กาไซ ในกรุงคามูล ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเกิดความโกลาหลที่พลเรือนชาวอัฟกันแห่ไปที่สนามบินเพื่อหวังลี้ภัยออกนอกประเทศ จากการที่กลุ่มตาลีบันผงาดขึ้นปกครองประเทศได้อีกครั้ง
ก่อนหน้านี้มีภาพที่ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ที่แสดงให้เห็นถึงความโกลาหลในสนามบินกรุงคาบูล ซึ่งพลเรือนอัฟกันจำนวนมากวิ่งตามเครื่องบินลำเลียงแบบ C-17 ของกองทัพสหรัฐฯ ในขณะกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน
โดยมีพลเรือนบางส่วนพยายามเกาะที่ฐานล้อของเครื่องบินปีนป่ายและเกาะภายนอกตัวเครื่อง หวังเดินทางออกจากประเทศอัฟกานิสถาน เป็นเหตุให้หลังจากนั้นมีภาพจากคลิปวิดีโออีกคลิปหนึ่งที่แสดงให้เห็นผลเรือนจำนวน 3 คน หล่นลงมาจากเครื่องบินของกองทัพที่ทะยานขึ้นจากสนามบิน ตกลงมาด้านล่างเสียชีวิต
เจ้าหน้าที่เผยว่าเครื่องบินลำดังกล่าวต้องลงจอดฉุกเฉิน เนื่องจากนับบินพบว่าไม่สามารถเก็บล้อได้ ก่อนที่จะตรวจสอบจึงพบศพในช่องเก็บล้อ คาดว่าเป็นชาวอัฟกันที่พยายามเกาะติดไปกับเครื่องบินเพื่อพยายามลี้ถัยออกนอกประเทศ
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสืบสวนพิเศษของกองทัพอากาศสหรัฐเปิดเผยว่า กำลังตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินและการสูญเสียชีวิตพลเรือน รวมถึงภาพจากวิดีโอดังกล่าวซึ่งถูกเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ไปทั่วโลก โดยกองทัพสหรัฐเผยอีกว่า ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาได้ทำการขนย้ายผู้ลี้ภัยจนเต็มความจุของห้องโดยสารเครื่องบินไปรวมแล้วกว่า 3,200 ราย
อีกด้านหนึ่ง รัฐบาลวอชิงตัน ได้ทวีตข้อความว่า คณะบริหารไบเดนกำลังพิจารณาแนวทางและความเป็นไปได้ในการส่งมอบความช่วยเหลือแก่ชาวอัฟกัน บัญชีทวิตเตอร์ประจำตัวประธานาธิบดีสหรัฐ (@POTUS) ทวีตข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
"เราไปยังอัฟกานิสถานเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนคือ จัดการกับกลุ่มผู้ลงมือก่อเหตุวินาศกรรม 9/11 และสร้างหลักประกันว่ากลุ่มอัลกออิดะห์จะไม่สามารถใช้อัฟกานิสถานเป็นฐานทัพในการโจมตีสหรัฐได้อีก และเราได้ทำสิ่งนั้นสำเร็จแล้วเมื่อสิบปีที่ผ่านมา"