เปิดภาพลับ"ราเกซ"นั่งรถเข็นถึงจีน

เปิดภาพลับ"ราเกซ"นั่งรถเข็นถึงจีน

เปิดภาพลับ"ราเกซ"นั่งรถเข็นถึงจีน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯลั่นคดีราเกซสาวถึงนักการเมืองคนไหน ก็ต้องจัดการไม่ต้องเว้น เรื่องคดีต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีปกป้องคนผิด คดีปั่นหุ้นเบาะแสมีอย่างไรว่าไปตามนั้น

เมื่อเวลา 13.30น.วันที่ 30 ต.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีนายราเกซ สักเสนา ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ(บีบีซี)ว่า เรื่องคดีก็ต้องเดินหน้าไปตามอำนาจหน้าที่ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ตรงนี้เราให้ความมั่นใจอยู่แล้วในเรื่องคดีต่าง ๆ ว่าไปตามข้อเท็จจริง ว่ากันไป ตามกระบวนการข้อกฏหมายไม่มีอย่างอื่น เมื่อ มีการขอตัวกลับมาแล้วก็ต้องเอาตัวมาดำเนินการ ส่วนจะใช้โอกาสนี้เชื่อมโยงไปถึงคนที่ทำให้บีบีซีล้มหรือไม่นั้น ทั้งหมดจะต้องเดินหน้า เมื่อทำคดีแล้วจะต้องมีการขยายผล

ต่อข้อถามที่ว่าในส่วนของนักการเมืองอย่างกลุ่ม16 ที่มีส่วนเกี่ยวข้องพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยอภิปรายจะใช้ข้อมูลตรงนี้อย่างไร นายกฯกล่าวว่า ในส่วนของคดีจะมีการดำเนินการเพราะข้อมูลก็มีอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เคยเดินทางไปประเทศแคนาดา แล้วบอกว่าได้รายชื่อนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นั้น นายกฯกล่าวว่า ทุกคนต้องให้ความร่วมมือ กับการดำเนินคดี ส่วนใครจะมีบทบาทอย่างไรในรัฐบาลเวลานี้ก็ต้องดูตามข้อเท็จจริง

ถามว่า เรื่องคดีนายราเกซ ถือเป็นคดีเศรษฐกิจที่สำคัญ รัฐบาลควรจะต้องทำให้เห็นว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง นายกฯกล่าวว่า รัฐบาลก็เอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่เอาตัวกลับมา และเมื่อมาแล้ว ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อถามต่อว่า จะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่ปกป้องคนผิด นายกฯกล่าวว่า ไม่มีตนยืนยันว่าไม่มีการปกป้อง

"แนวทางการสืบสวนสอบสวนจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอง รัฐบาลคงไม่ชี้นำคดี เพราะถ้าชี้นำก็จะกลายเป็นว่าไปแกล้งคนนั้นคนนี้ ผมยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีแกล้ง ไม่มีช่วยใครทั้งนั้น เกี่ยวพันกับใครก็ต้องโดนทั้งนั้น" นายกฯกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้ในส่วนของนักการเมืองมีความพยายามที่จะอ้างว่าได้มีการประนอมหนี้แล้วจะรับผิดชอบ เฉพาะบางส่วนเท่านั้น นายกฯ กล่าวว่าเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะชี้ ส่วนเรื่องปั่นหุ้นให้มีการดำเนินการ คือมีเบาะแสอย่างไรก็ให้ดำเนินการเพื่อที่จะได้ความชัดเจนและมีการขยายผล

พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผบ.ตร.กล่าวว่า ในช่วงเช้าวันนี้ที่ตนเข้าพบนายกฯ ณ ทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นการรายงานความคืบหน้าคดีปั่นหุ้นและคดีนายราเกซ โดยคดีปั่นหุ้นนั้นอยู่ระหว่างการทำงานของพนักงานสอบสวนที่เขาจะต้องทำ ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนจากนั้น ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก็จะเข้ามาดูอีกครั้ง เวลานี้จึงยังไม่สามารถที่จะออกหมายจับใครได้

ขั้นตอนรับตัว"ราเกซ"จากสุวรรณภูมิ

เมื่อเวลา 15.20 น. ที่ บก.ป. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) หนึ่งในคณะพนักงานสอบสวนคดีนายราเกซ สักเสนา เปิดเผยขั้นตอนการดำเนินคดีในทันทีที่นายราเกซ เดินทางมาถึงประเทศไทยว่า เมื่อนายราเกซ เดินทางมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิทางพนักงานสอบสวนจะเข้าไปทำบันทึกจับกุมตัวภายในสนามบิน จากนั้นจะมีกำลังคอนมานโดกองปราบปรามควบคุมตัวนายราเกซ มาที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับที่มีอยู่แล้ว และทำการสอบสวน

ส่วนเรื่องสิทธิมนุษยชน และเรื่องสุขภาพของนายราเกซนั้น พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางคณะพนักงานสอบสวนได้เตรียมความพร้อมไว้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่ออกจากสนามบินมายังกองปราบปราม และในวันที่จะเดินทางไปศาล ส่วนในเรื่องการยื่นคำร้องขอประกันตัว หรือยื่นคำร้องขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น จนถึงขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการประสานงานในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

ล่าสุดได้มีการเปิดเผยภาพของนายราเกซนั่งรถเข็นขณะส่งตัวกลับประเทสไทยขณะนี้ถึงประเทศจีนแล้ว

โฆษกตร.จะสอบราเกซให้เสร็จภายในคืนเดียว

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา (สบ10) ฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ในฐานะผู้กำกับดูแลภาพรวมการรักษาความปลอดภัยและการดำเนินคดีนายราเกซ สักเสนา พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังการพล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยตัวแทนอัยการสูงสุด พนักงานสอบสวนจาก บก.ปอศ. บก.ป. บก.ทท. โรงพยาบาลตำรวจ และหน่วยคอมมานโด ร่วมประชุมเพื่อวางแนวทาง และซักซ้อมทำความเข้าใจในการสอบสวนดำเนินคดีตามขั้นตอนต่างๆตั้งแต่การควบคุมตัว การแจ้งข้อกล่าวหา การสอบสวน และนำตัวไปฝากขังที่ศาล ตลอดจนการรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางและสถานที่ควบคุมตัว

ทั้งนี้ภายหลังการประชุม พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวนายราเกซ สักเสนามาด้วยเที่ยวบินที่ TG 615 จากปักกิ่งลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 21.30 น. จากนั้นฝ่ายรักษาความปลอดภัยของการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะพาตัวนายราเกซออกทางช่องทางพิเศษมาที่กองปราบปราม ไม่ใช้ช่องทางร่วมกับผู้โดยสารทั่วไปเพื่อความปลอดภัยและไม่ต้องการรบกวนผู้โดยสารคนอื่น ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่าง การท่าอากาศยานฯและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดังนั้นขอให้สื่อมวลชนที่จะทำข่าวมารอติดตามได้ที่กองปราบปราม ซึ่งจะมีการจัดสถานที่ให้มีความเหมาะสม เนื่องจากการหารือร่วมกับตัวแทนอัยการสูงสุดเกรงว่า ผู้ต้องหาอาจหยิบยกเป็นข้ออ้างว่าถูกรบกวน อย่างไรก็ตามการทำข่าวเป็นสิทธิของสื่อมวลชนแต่ขอให้พบกันคนละครึ่งทาง

พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เมื่อนายราเกซมาถึงกองปราบปราม จะมีเจ้าหน้าที่จากสถานทูตแคนาดา ทนายความ และแพทย์เข้าตรวจร่างกายเบื้องต้น จากนั้นพนักงานสอบสวนจะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จสิ้นโดยจะควบคุมตัวไว้ที่กองปราบปราม 1 คืน จากนั้นวันที่ 31 ต.ค. จะส่งตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ และในวันที่ 2 พ.ย. จะส่งสำนวนคำให้การของนายราเกซให้พนักงานอัยการนำไปฟ้องร้องทางคดีต่อไป ทั้งนี้ในการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานั้น พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำต่อหน้าทนายความเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา หรือข้อถ้วงติงจากฝ่ายนายราเกซเหมือนที่เคยเกิดขึ้น แต่เป็นการปฎิบัติเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆจะไม่สิทธิมากกว่าใคร และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการยื่นขอประกันตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการดำเนินคดีกับนายราเกซนั้นทางคณะพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหากับนายราเกซตามหมายจับศาลอาญาที่ 2185/2548 ลงวันที่ 9 มิ.ย.2548 ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ และความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ โดยนายราเกซ ขณะนั้นเป็นที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชยการ จำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี ได้ร่วมกับนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี กับพวก ยักยอกทรัพย์สร้างความเสียหายกว่า 1,657 ล้านบาท

ทั้งนี้คดีดังกล่าวธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเกริกเกียรติ กับพวก โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และในฐานะเป็นผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้รับมอบหมายให้จัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือทรัพยืสินซึ่งผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยกระทำผิดหน้าที่ของตนด้วยประการใดๆโดยทุจริตจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินของผู้อื่น เหตุเกิดที่แขวงสีลม เขตบางรัก จนกระทั่งมีการสอบสวนรวบรวมหลักฐานออกหมายจับดังกล่าว

อย่างไรก็ตามในคดีตามหมายจับดังกล่าวนั้นเบื้องต้นมีรายงานว่าคณะพนักงานสอบสวนสามารถแจ้งข้อกล่าวหานายราเกซได้เพียงข้อหาตามความผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เท่านั้นเนื่องจากยังไม่ขาดอายุความตามที่กฎหมายระบุไว้ว่ามีอายุความ 15 ปี ส่วนในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญานั้นขาดอายุความไปแล้ว

ปานศิริเผยเตรียมล่ามไว้สอบปากคำราเกซ

พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต ที่ปรึกษา สบ 10 ในฐานะ หัวหน้าในการดูแลการรับตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธ.กรุงเทพพาณิชยการจำกัด (มหาชน) หรือ บีบีซี กล่าวว่า ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องประชุมเตรียมความพร้อมในการรับตัวนายราเกซกลับมาดำเนินคดียังประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วย พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ โฆษก ตร. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รองผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ พล.ต.ต. โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ ผบก.ปอศ. ผอ.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย การท่าอากาศยานกรุงเทพ พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจ และพนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ โดยที่ประชุมมีการวางแผนเรื่องการรักษาความปลอดภัยให้นายราเกซ การผ่านกรรมวิธีการเข้าเมือง การควบคุมตัว ซึ่งเรื่องการรักษาความปลอดภัย จะใช้เจ้าหน้าที่คอมมอนโดของกองบังคับการปราบปราม หรือ บก.ป.

พล.ต.อ.ปานศิริ กล่าวต่อว่า เมื่อนายราเกซมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับตัวมายัง บก.ป. ทันที เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและ ทำการสอบสวน ซึ่งการสอบสวนในครั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้เตรียมล่ามภาษาอังกฤษไว้ให้นายราเกซด้วย เนื่องจากนายราเกซอ้างว่าไม่ชำนาญในภาษาไทย โดยจะมีการพิมพ์สำนวนการสอบสวนการสอบปากคำ สองภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เมื่อสอบปากคำเสร็จจะควบคุมตัวไว้ที่ บก.ป. จากนั้นพรุ่งนี้เช้าจะนำตัวไปขอศาลอนุมัติฝากขัง โดยทางตำรวจไม่ขอรับตัวกลับมาเพื่อสอบสวนต่อ โดยทางเจ้าหน้าที่จะค้านประกันตัวอย่างแน่นอน

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook