ผอ.รพ. ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เมีย อาจไม่ผิดอาญา ชงเรื่องให้ สสจ.เอาผิดทางวินัย
Thailand Web Stat

ผอ.รพ. ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เมีย อาจไม่ผิดอาญา ชงเรื่องให้ สสจ.เอาผิดทางวินัย

ผอ.รพ. ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เมีย อาจไม่ผิดอาญา ชงเรื่องให้ สสจ.เอาผิดทางวินัย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ ถึงรายชื่อผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ โควตาของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าในจำนวน 144 ราย ที่ได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ มีรายชื่อของภรรยา ผอ.โรงพยาบาล ที่ทำงานอยู่ในคลินิกเอกชน และสามีของหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค โรงพยาบาลดังกล่าว ซึ่งเปิดร้านขายยารวมอยู่ด้วย จนมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่า  ไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เหตุใดจึงได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ทำให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถึงกรณีที่เกิดขึ้น

ล่าสุด วันนี้ (22 สิงหาคม 2564) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นพ.วิชาญ คิดเห็น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะ ประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีดังกล่าว ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ตนเองได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริง และส่งเรื่องไปให้ นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพิจารณาแล้ว ซึ่งผลการพิจารณาโทษจะออกมาเช่นไร ก็อยู่ที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ จะพิจารณา

Advertisement

ถึงอย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ยังให้ ผอ.โรงพยาบาลดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม เนื่องจากช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่นนี้ บุคลากรทางการแพทย์มีน้อย จำเป็นต้องให้ทำงานมีความต่อเนื่อง และโทษอาจจะไม่ถึงกับปลดออกจากตำแหน่ง เพราะในหนังสือสั่งการให้สำรวจบุคลากรที่จะได้รับการฉีดวัคซีนนั้น ให้สำรวจบุคลากรทางการแพทย์ครอบคลุมถึงบุคลากรที่อยู่ในคลินิกเอกชนด้วย เพียงแต่วัคซีนไฟเซอร์ในล็อตแรก ทางสาธารณสุขจังหวัดฯ ได้เน้นย้ำว่าจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าก่อนเป็นลำดับแรก

ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ในคลินิกเอกชน จะได้รับการฉีดในล็อตถัดไป จึงอาจจะไม่เข้าข่ายผิดถึงคดีอาญา เพียงแต่ว่าในกรณีนี้ ผอ.โรงพยาบาลดังกล่าว และหัวหน้ากลุ่มเภสัชกรรมและคุ้มครองผู้บริโภค นำไปฉีดให้กับคู่สามี ภรรยาของตัวเอง ทำให้เกิดความไม่เหมาะสม และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งการของสาธารณสุขจังหวัด ที่เน้นย้ำว่าจะฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าก่อน ซึ่งขณะนี้ก็ต้องรอทาง สสจ.พิจารณาความผิดทางวินัยอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
kookkak

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบน
เว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่
นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้