ณุศาศิริ ไม่ทน! รุกนำเข้า ATK 8.5 ล้านชิ้น ขายปลีกพรีออเดอร์ให้คนไทยในราคา 75 บาท

ณุศาศิริ ไม่ทน! รุกนำเข้า ATK 8.5 ล้านชิ้น ขายปลีกพรีออเดอร์ให้คนไทยในราคา 75 บาท

ณุศาศิริ ไม่ทน! รุกนำเข้า ATK 8.5 ล้านชิ้น ขายปลีกพรีออเดอร์ให้คนไทยในราคา 75 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศิริญา เทพเจริญ หญิงเหล็กแห่ง "ณุศาศิริ" ประกาศก้อง "เราไม่ทน!" รุกเดินหน้านำเข้า ATK ยี่ห้อ LEPU 8.5 ล้านชิ้น ขายราคา 75 บาท หวังดันเศรษฐกิจไทยได้ไปต่อ

วันนี้ (23 ส.ค.) นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) และกรรมการบริหาร บริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นมหากาพย์กระบวนการจัดซื้อชุดตรวจหาเชื้อโควิดแบบ ATK จำนวน 8.5 ล้านชิ้น เป็นครั้งที่ 3 ในรอบกว่า 10 วัน

ซึ่งในวันนี้ ผู้บริหารของณุศาศิริประกาศเสียงดังฟังชัดว่า จะขอนำเข้า ATK 8.5 ล้านชิ้นซึ่งเป็นโควตาที่เตรียมไว้สำหรับส่งมอบให้กับภาครัฐหลังจากชนะการประกวดราคา มาเปิดขายปลีกแบบพรีออเดอร์ให้กับประชาชนทั่วไปในราคาชิ้่นละ 75 บาท

“ดิฉันขอประกาศแถลงการณ์ดังๆ ตรงนี้เลยว่า “ขอไม่ทน” อีกต่อไป ณุศาศิริ และ เวิลด์ เมดิคอล จะเป็นผู้นำเข้า ATK เพื่อคนไทย จำนวน 8.5 ล้านชิ้น มาขายให้ประชาชนคนไทยทุกคน ได้มีโอกาสเข้าถึงชุดตรวจโควิดด้วยตนเอง ในราคาเพียงชุดละ 75 บาท โดยเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาที่เราประมูลได้จากทางองค์การเภสัชกรรม ทุกท่านที่สนใจสามารถเข้าไป Pre Order ขั้นต่ำ 1 กล่อง (1 กล่อง มี 25 ชุด) ได้ตั้งแต่วันที่ 23 -31 ส.ค.นี้ (สินค้า Pre-Order รับชุดตรวจที่คลินิกและร้านขายยาที่ร่วมโครงการกับ MORHELLO ได้ภายใน 14-30 วัน นับจากรับยอดโอน) หรือติดต่อสั่งซื้อได้ทาง Line @Morhello ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมถึงภาคธุรกิจใดที่สนใจใช้ ATK เพื่อใช้กับพนักงานจำนวนมาก ก็อยากเป็นกระบอกเสียงสู่รัฐบาลในเรื่องการลดหย่อนภาษีตรงนี้ให้กับองค์กรต่างๆ ด้วย” นางศิริญา กล่าว

ชนะประกวดราคาแต่ตามมาด้วยปมคำถามมากมาย

นอกจากนี้ ผู้บริหารใหญ่ฝ่ายการตลาดของณุศาศิริในฐานะผู้กุมบังเหียนของบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งถือเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ATK ยี่ห้อ LEPU ในประเทศไทย ยังกล่าวย้ำอีกด้วยว่า ผลิตภัณฑ์ ATK ของ LEPU เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานได้รับการรับรองจาก อย. ที่ให้คณะแพทย์รามาฯ เป็นผู้ทดสอบ หรือหากจะเชื่อในมาตรฐาน อย.ของเยอรมนี ของสวิสฯ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศระดับแถวหน้าของโลก ก็จะต้องเชื่อใน LEPU เพราะมีการนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศเหล่านี้

"แล้วการอ้างว่าต้องเลือก ATK ที่ WHO รับรองเท่านั้น ก็ขอบอกเลยว่า ไม่มี ATK แบบ Home Use ยี่ห้อไหนเลยที่ WHO รับรอง แสดงว่าที่ออกมาประกาศว่าให้เลือกยี่ห้อที่มี WHO เท่านั้น ก็แสดงว่าคนไทยทั้งประเทศคงไม่มีทางได้ชุดตรวจด้วยตัวเองแล้ว" นางศิริญา ระบุ

ทั้งนี้ กรณีการจัดซื้อชุดตรวจโควิดแบบ ATK 8.5 ล้านชิ้น กลายเป็นอีกหนึ่งมหากาพย์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เพราะหลังจากที่มีการประกาศผู้ชนะการประกวดราคาจัดซื้อดังกล่าวว่าคือ บริษัท ออสท์แลนด์ แคปปิตอล จำกัด ด้วยข้อเสนอราคาต่ำที่สุดจากผู้เข้าร่วมเสนอราคา ก็เกิดคำถามและข้อสงสัยตามมามากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากชมรมแพทย์ชนบทที่เป็นหัวหอกติดตามประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง

เจอถล่มเรื่องคุณภาพสินค้า

เริ่มแรก ชมรมแพทย์ชนบท เปิดประเด็นว่าด้วยเรื่องสินค้าไม่ได้คุณภาพ ถูกสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) สั่งเก็บ ซึ่งทางตัวแทนจำหน่ายในไทยชี้แจงว่า ในความเป็นจริง ทางโรงงานผู้ผลิต Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่ได้ทำการยื่นขอขึ้นทะเบียน อย.ของ FDA สหรัฐอเมริกา จึงไม่ได้มีการนำเข้าอย่างถูกต้อง โดยมีผู้ประกอบการรายย่อยลักลอบนำเข้าไปขาย รวมถึงชุดตรวจที่เป็นปัญหาก็คือชุดตรวจหาเชื้อจากเลือด ไม่ใช่ตรวจหาเชื้อจากโพรงจมูก พร้อมกับมีการยืนยันหลักฐานว่า ผลิตภัณฑ์ LEPU เป็น ATK ที่มีคุณภาพระดับโลก ผ่านการรับรองมาตรฐานจากเยอรมนี มีมาตรฐานคุณภาพระดับยุโรป ในหลายประเทศใช้ ATK ของ LEPU เป็น ATK หลักของประเทศ เช่น ออสเตรียใช้ ATK ของ LEPU สำหรับให้เด็กนักเรียนใช้ก่อนเข้าเรียน และอีกมากมายกว่า 20 ประเทศทั่วโลกที่ยอมรับในคุณภาพของ LEPU ที่ผลิตจาก Beijing Lepu Medical Technology Co., Ltd. ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่มาตรฐานโลกที่ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำคัญๆ ของโลกมากว่า 20 ปี

ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ

ประเด็นต่อมาก็คือ การตั้งคำถามถึงผลงานวิจัยด้านคุณภาพและผลการทดสอบในประเทศปากีสถาน พบว่าในผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ LEPU มีความไวน้อย คือมีเชื้อ แต่ผลการทดสอบกลับเป็นลบ ซึ่งทางฝั่ง LEPU ชี้แจงว่า ในความเป็นจริงนั้น ประชาชนที่ปากีสถานมีการใช้งานชุดตรวจผิดประเภท คือ นำผลิตภัณฑ์ชุดตรวจหาเชื้อทางโพรงจมูก ไปใช้ตรวจหาเชื้อทางน้ำลาย ทำให้ผลที่ได้รับคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง นอกจากนั้น ทางชมรมแพทย์ชนบทยังประกาศกร้าวว่าหากมีการเซ็นสัญญาจัดซื้อชุดตรวจ ATK ยี่ห้อเจ้าปัญหาดังกล่าวมาใช้งานจริง ก็จะระดมทีมตรวจสอบคุณภาพทั้ง sensitivity และ specificity ว่าเป็นไปตามที่กล่าวอ้างหรือไม่ หากพบว่าคุณภาพต่ำเกินกว่าที่ควรจะเป็น จะดำเนินการค้นหาผู้รับผิดชอบต่อไป

ก่อนที่จะมาถูกสำทับอีกรอบด้วยข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า ให้เร่งดำเนินการจัดหาชุดตรวจเชื้อโควิด-19 แบบ Antigent Test Kit (ATK) ที่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีจำหน่ายในประเทศไทย มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก (WHO)

จนทำให้ นางศิริญา ในฐานะผู้บริหารของบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายชุดตรวจ ATK ยี่ห้อ LEPU ตัดสินใจยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงพร้อมแสดงหลักฐานระบุถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ LEPU ที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ และนำหลักฐานอ้างอิงว่า ณ ปัจจุบัน WHO ก็ยังไม่มีการอนุมัติชุดตรวจแบบตรวจหาแอนติเจนด้วยตนเองแก่บริษัทใดเลย จึงเป็นข้อสรุปได้ว่าหากใช้มาตรการดังกล่าวจะไม่สามารถมี ATK ชนิดตรวจหาเชื้อด้วยตนเองยี่ห้อใดเลยที่จะมีคุณสมบัติตรงใจชมรมแพทย์ชนบท

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ทางชมรมแพทย์ชนบทก็ตัดสินใจส่งจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรีเช่นกัน โดยเน้นย้ำให้มีการพิจารณาจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้นที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอนามัยโลก (WHO)

เชื่อมั่น ATK เป็นตัวช่วยฟื้นเศรษฐกิจ

เมื่อไล่เรียงเหตุการณ์และประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ในการแถลงข่าววันนี้จะได้ยินเสียงของนางศิริญาบ่นว่า "เหนื่อยเหลือเกิน" แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารหญิงแห่งณุศาศิริยังคงย้ำว่าตนเองเข้าร่วมประมูลการจัดซื้อชุดตรวจ ATK 8.5 ล้านชิ้นด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะเชื่อว่าการมีชุดตรวจหาเชื้อโควิดแบบแอนติเจนด้วยตนเองที่ราคาถูกและมีคุณภาพ จะเป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยโดยเฉพาะภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวได้ ผ่านการคัดกรองเพื่อแยกแยะคนป่วยและคนไม่ป่วยได้อย่างรวดเร็วขึ้นนั่นเอง

"ในภาวะที่ประเทศไทยเจอวิกฤติจากโควิดขนาดนี้ ประชาชนทุกคนเดือดร้อนแสนสาหัส ธุรกิจพังพินาศ การท่องเที่ยวที่เป็นเส้นเลือดรายได้หลักของประเทศดำเนินต่อไปไม่ได้ ประเทศเรา Shut Down ขนาดนี้ ดิฉันในฐานะภาคเอกชนที่คลุกคลีอยู่ในวงการ อสังหาฯ การท่องเที่ยว ก็พยายามช่วยคิดว่า ทำยังไงให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้ เราต้องอยู่กับโควิดให้ได้ ในเมื่อเราไล่มันไปจากชีวิตเราไม่ได้ เราก็ต้องมาคิดว่า เราจะอยู่กับมันอย่างไรให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม เศรษฐกิจเดินหน้าได้ การท่องเที่ยวกลับมายืนได้อีกครั้ง ก็หันมามองชุดตรวจ ATK ว่านี่แหละคือ ตัวช่วยให้เศรษฐกิจเราเดินต่อไปได้ ถ้าทุกภาคส่วนได้นำมาใช้คัดกรองตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองอย่างเต็มที่ เราก็จะสามารถรู้ได้เร็ว รักษาได้เร็ว กักตัวได้เร็วไม่กลายเป็นคลัสเตอร์ต่อไป ทำให้ทุกคนจะสามารถออกไปทำงาน เด็กได้ไปโรงเรียน ห้างร้านได้เปิด โรงงานได้กลับมาทำธุรกิจต่อ ร้านเสริมสวย ร้านทำฟัน ร้านอาหาร งานอีเวนท์ต่างๆ ก็จะกลับมาฟื้นได้เร็วขึ้น" นางศิริญา กล่าวสรุป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook