เพื่อนบ้านสุดทน มนุษย์ป้าโปรยข้าวเลี้ยงนก ล้างขี้แมวหน้าบ้าน แถมทำลายกล้องวงจรปิด

เมื่อวันที่ 23 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านใน หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากเพื่อนบ้านรายหนึ่ง ที่นำข้าวสุกไปโปรยเกลื่อนริมกำแพง ในซอยเชื่อมต่อซึ่งเป็นทางสาธารณะ เพื่อให้นกพิราบบินมากินอาหารเป็นประจำทุกวัน จนทำให้ชาวบ้านในหมู่ดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากขี้นกพิราบที่บินมาเกาะบนหลังคาบ้าน

นอกจากนี้อาหารที่เหลือเน่าบูดส่งกลิ่นเหม็น รวมทั้งเวลาฝนตกไหลลงท่อระบายน้ำทำให้เน่าอยู่ภายในท่อและอุดตัน สร้างความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นรบกวนให้กับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงอีก ซึ่งที่ผ่านมาผู้เดือดร้อนได้แจ้งกรรมการหมู่บ้าน และเทศบาลเมืองบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง ให้เข้าตรวจสอบแล้ว แต่ก็ยังเป็นเหมือนเดิม จึงประสาน นายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอบางบัวทอง ร.ต.อ.ถาวร เพชรแท้ รองสว.ป.สภ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.บางบัวทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง และ ร.ต.ถวัลย์ ชุมภู นางเฉลา มากช่วย คณะกรรมการหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบตามเรื่องร้องเรียน    

โดยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นายจรยุทธ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านทาวส์เฮ้าส์สร้างติดกันจำนวนหลายหลังหันหน้าเข้าหากัน โดยมีถนนหมู่บ้านกั้นกลาง โดยจุดที่ให้อาหารนกเป็นซอยเชื่อมต่อกันสำหรับกลับรถของหมู่บ้านและใช้เป็นทางเดินสาธารณะ พบว่ามีกองเศษข้าวและอาหารนกจำนวนมาก เริ่มส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง โดยในระหว่างนั้นมีหญิงสูงอายุรายหนึ่ง นำแผ่นพลาสติกมาปิดทับกองเศษอาหาร ทราบชื่อต่อมาคือ นางศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 73 ปี พร้อมกับต่อว่านายจรยุทธต่างๆ นานา พร้อมประชดประชันด้วยการตักเศษข้าวที่นำมาโปรยไว้ไปทิ้งท่อหน้าบ้านของนายจรยุทธ์ต่อหน้าคณะกรรมการหมู่บ้าน

นายจรยุทธ ชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ กล่าวว่า ตนทำอาชีพขายอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ซึ่งภายในบ้านเก็บวัตถุดิบต่างๆไว้จำนวนมาก ต่อมาหญิงสูงอายุที่อยู่บ้านตรงข้าม  ชอบนำเอาอาหารเป็นข้าวสุกและอาหารนกมาโปรยเกลื่อนพื้นถนนที่ซอยข้างบ้าน ทำให้มีนกพิราบมากินและเกาะบนหลังคาบ้าน ถ่ายอุจจาระรดหลังคาตนเองและเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ เป็นประจำ และอาหารที่นกจิกกินแล้วบินขึ้นไปเกาะบนหลังคาบ้านยังหล่นหลังทำให้สกปรกเลอะเทอะอีกด้วย

ส่วนอาหารที่เหลืออยู่กับพื้น ทำให้เกิดการเน่าบูดส่งกลิ่นเหม็นเข้ามาภายในบ้าน รวมทั้งเวลาฝนตกก็ไหลลงท่อระบายน้ำเน่าค้างอยู่ในท่อ สร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนบ้านหลายหลัง ซึ่งต่อมามีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน ร้องเรียนเทศบาลไปแล้วจนเจ้าหน้าที่ต้องลงพื้นที่มาทำบันทึกข้อตกลงกันว่าจะไม่ทำอีก แต่สุดท้ายหลังเจ้าเดินทางกลับไปหญิงสูงอายุคนดังกล่าวก็นำอาหารกลับมาให้นกอีก

ต่อมาทางชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบพยายามเข้าพูดคุยกับหญิงสูงอายุคนดังกล่าว แต่ก็ไม่เป็นผลกลับถูกด่าทอกลับมาทุกราย จนไม่มีใครอยากยุ่งกับแกอีก แต่บ้านตนได้รับผลกระทบเต็ม ๆ  อยากให้หน่วยงานที่ดูอลช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาให้ทีเพราะชาวบ้านหลายหลังได้รับความเดือดร้อนในขณะนี้    

นายจรยุทธ กล่าวต่ออีกว่า หลังตนทำเรื่องร้องเรียนไปเมื่อวันที่ 15 ส.ค.64 ตนได้ติดกล้องวงจรปิดไว้ที่บริเวณรอบบ้าน 2 ตัว ซึ่งจะมองเห็นบริเวณหน้าบ้าน และซอยด้านข้างบ้านของตน เพื่อบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน เพราะหญิงคนดังกล่าวปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนให้อาหารนก ซึ่งหลักจากตนติดกล้องวงจรปิด ก็ถูกหญิงสูงอายุรายนี้นำไม้ขนาดยาวปัดให้กล้องวงจรปิดตัวที่อยู่ด้านข้างบ้านหมุนไปด้านอื่น และนำสิ่งของลักษณะคล้ายแป้งทาบริเวณตัวกล้อง โดยกระทำลักษณะนี้หลายครั้ง ทำให้กล้องวงจรปิดหักชำรุด ตนต้องนำกาวมายึดติดไว้เพื่อบันทึกภาพหลักฐานต่อไป พร้อมกับแจ้งความเอาผิดคนที่มาทำลายกล้องด้วย  ภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพของวันที่ 20 ส.ค.64 เวลาประมาณ 23.45 น. พบว่าหญิงสูงอายุรายนี้เดินถือบันไดผ่านหน้าบ้านไปที่กล้องวงจรปิดด้านข้างบ้านตน ก่อนจะปีนบันไดแล้วใช้มือบิดกล้องไปทางอื่น     

ด้านนายประสงค์ อายุ 71 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับบ้านหญิงสูงวัยรายนี้กล่าวว่า ตนได้รับความเดือดร้อนจากเพื่อนบ้านรายนี้มากว่า 5 ปีแล้ว ทั้งเรื่องของอุจาระนกที่ตกใส่บ้าน กลิ่นเหม็นจากอุจจาระแมวที่หญิงคนดังกล่าวนำมาล้างและตากที่หน้าบ้านทุกวัน แล้วน้ำล้างก็ไหลส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่วผ่านหน้าบ้านของเป็นประจำทุกวัน ร้องเรียนหน่วยงานใดๆไปก็เงียบ ไปคุยไปเตือนแกดีๆ ก็ถูกด่ากลับมาทุกครั้งโดยไม่ฟังเหตุผลใครทั้งนั้น เพราะถือว่าตัวเองเป็นพยาบาลเก่า จนกลายเป็นที่เอือมระอาของคนในละแวกหมู่บ้านนี้ไปหมดแล้ว

ทางนายวสันต์ ขาวสงค์ ปลัดอำเภอบางบัวทอง กล่าวว่า มีชาวบ้านหลายหลังคาเรือนร้องเรียนเรื่องนี้หลายครั้ง และได้มีการทำบันทึกข้อตกลงไปแล้วที่เทศบาลเมืองบางรักพัฒนา จนหญิงสูงอายุรายนี้มาก่อเหตุอีก จึงทำให้เพื่อนบ้านร้องเรียนมาอีกครั้ง ตนจึงได้เข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจกับหญิงรายนี้ว่า ถ้าครั้งนี้พูดคุยตกลงรับปากกันแล้วว่า จะไม่ให้อาหารนก หรือทำให้เพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนอีก 

หากยังฝ่าฝืนมีร้องร้องเรียนขึ้นมาอีก ทางอำเภอจะสั่งให้ทางเทศบาลดำเนินคดีตามขั้นตอน พ.ร.บ.สาธารณสุขทันที ไม่มีการเจรจาพูดคุยอีกต่อไป ส่วนคดีที่ทำให้กล้องวงจรปิดเสียหายทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกทั้งสองฝ่ายไปสอบปากคำ พร้อมทั้งไกล่เกลี่ย หากตกลงกันไม่ได้อาจมีโทษตามกฏหมายต่อไป