แม่หอบลูกสาว 3 คน ตั้งใจวิ่งให้รถชนตายหมู่ น้อยใจผัวไปไหนไม่บอก กลัวถูกทอดทิ้ง

สาวหอบลูก 3 คน ตั้งใจวิ่งให้รถชนตายหมู่ น้อยใจผัวไปไหนไม่บอก กลัวถูกทอดทิ้ง พลเมืองดีช่วยชีวิตไว้ได้

(25 ส.ค.64) เมื่อเวลา 10.30 น. ศูนย์วิทยุแจ้งเหตุ สภ.ศรีราชา  ได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงอุ้มลูกน้อยจะคิดสั้นวิ่งไปกลางถนนให้รถชน  แต่มีพลเมืองดีช่วยกันควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมกับเด็กอีก 3 คน ที่   บริเวณหน้ากองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าศรีราชา ต.บางพระ อ.ศรีราชา   จ.ชลบุรี  จึงประสาน ร.ต.อ.พัฒนา หรั่งฟัก หัวหน้าสายตรวจป้อมยามบางพระ และหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา เข้าร่วมตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุบริเวณร้านเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน หน้ากองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 พบเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมทั้ง นายอธิวัตร โคตบุตร อายุ 29  ปี เจ้าของร้านเปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน กำลังพูดจาเกลี้ยกล่อมให้ น.ส.นุจรี อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดนครปฐม ที่นั่งร้องไห้ฟูมฟายให้อยู่ในอาการสงบ โดยมีลูกทั้ง 3 คน อายุประมาณ 1 ขวบ 7 ขวบ  และ10 ขวบ   ยืนอยู่ภายในร้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ซื้อน้ำให้ดื่มกินกันก่อน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที นางสาวนุจรีจึงอยู่ในอาการสงบ และเปิดเผยว่า ตนเองได้อาศัยอยู่กับแฟนหนุ่มจนมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 1 ขวบเศษ ส่วนอีกสองคนเป็นลูกที่เกิดกับแฟนเก่า โดยตนเองไม่ได้ทำงานอยู่บ้านเลี้ยงลูกเฉยๆ โดยให้สามีทำงานเลี้ยงครอบครัวอยู่เพียงคนเดียว จึงรู้สึกว่าตนเองและลูก จะอยู่เป็นภาระให้กับแฟน ซึ่งตนเองก็ไม่มีญาติพี่น้องอยู่ที่นี่จึงกลัวว่าแฟนจะทิ้งจะหนีไป

ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา มีญาติของแฟนมารับแฟนตนเองออกจากบ้านไป โดยที่ไม่ได้บอกว่าไปไหน ถามแล้วแฟนก็ไม่บอกจึงขอไปด้วย แต่แฟนไม่ให้ไป พอขอโทรศัพท์มือถือจะได้ติดต่อสอบถาม แต่แฟนก็ไม่ให้ แล้วแฟนก็ขึ้นรถญาติออกไป ตนพยายามอุ้มลูกวิ่งตาม แต่แฟนก็ไม่สนใจ ด้วยความที่กลัวแฟนจะทิ้งตนเองและลูกไปจึงวิ่งตามไปตามถนน โดยอุ้มลูกวัย 1 ขวบเศษไปด้วย และจูงมือลูกทั้งสองตามไป แต่แฟนก็ไม่ยอมจอดรถจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบ อยากจะตายไปซะให้รู้แล้วรู้รอด จึงอุ้มลูกวิ่งออกไปกลางถนน หวังให้รถชนตายไปพร้อมกับลูกเลย แต่มีพลเมืองดีเข้ามาช่วยได้ทัน ก่อนจะเข้ามาปลอบใจและสั่งสอนจนตนเองรู้สึกสำนึกผิด และสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก รวมทั้งฝากขอโทษทุกคนที่ทำให้เดือดร้อนด้วย

ด้าน นายอธิวัตร โคตบุตร อายุ 29  ปีเปิดเผยว่า ตนเองนั่งขายของอยู่บริเวณร้านตามปกติ ก็เห็นนางสาวนุจรีเดินมาตามถนน และเข้ามาขอยืมโทรศัพท์มือถือโทรหาแฟน  บอกว่าแฟนทิ้ง ผมจึงทักโทรศัพท์ไปหาแฟนก็บอกว่ากำลังเดินทางไปฉีดวัคซีน  จึงส่งโทรศัพท์ให้ทั้งสองได้คุยกัน จนได้ยินนางสาวนุจรีคุยกับแฟนหนุ่มว่า ถ้าไม่กลับมาหาก็จะพาลูกฆ่าตัวตาย หลังจากนั้นก็เดินไปพร้อมกับลูกออกไปกลางถนนโดยผลักลูกสองคนออกให้มาอยู่ริมถนน แล้วก็อุ้มลูกคนเล็กวิ่งไปกลางถนนพุ่งใส่รถที่สัญจรผ่านไปมา ตนเห็นดังนั้นจึงวิ่งเข้าไปช่วยดึงแขนออกมาอยู่ริมถนน และช่วยกันปลอบใจ โดยบ่นว่าแฟนทิ้งไปแล้วตนกับลูกจะอยู่อย่างไร

จากการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่า นางสาวนุจรีคงเครียด กลัวแฟนหนุ่มจะทิ้งไป แต่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มแค่เดินทางไปฉีดวัคซีนที่กรุงเทพฯ  ซึ่งหลังจากช่วยเหลือและปลอบใจให้อยู่ในอาการสงบและอธิบายให้เข้าใจแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลี้ยงก๋วยเตี๋ยวและมอบเงินให้เป็นขวัญกำลังใจอีก 500 บาท ก่อนมอบหมายให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำทั้ง 4 คนไปส่งที่บ้านพัก โดยนางสาวนุจรีสัญญาว่าจะไม่ก่อเหตุเช่นนี้อีกต่อไป