แพทย์ชันสูตรเหยื่อ "ผู้กำกับโจ้" เผย ตร. ให้ลงว่าตายเพราะเสพยา แต่หมอเก็บหลักฐานไว้แล้ว
แพทย์ชันสูตรเหยื่อ "ผู้กำกับโจ้" เผยตำรวจขอให้ลงว่าตายเพราะสารเสพติด แต่ไม่ต้องห่วงเพราะหมอได้ผ่าชันสูตร เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ และส่งให้จเรตำรวจหมดแล้ว
จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ถูกร้องเรียนว่าได้ทำร้ายร่างกายโดยการทรมาน นายจิระพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อเรียกเงิน จำนวน 2 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ต่อมาในโซเชียลมีเดียมีการส่งต่อภาพหนังสือรับรองการตายของผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยสถานพยาบาลที่ออกหนังสือรับรอง คือ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ นครสวรรค์ ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2564 ระบุรายการตาย วันที่ตาย 6 สิงหาคม 2564 เวลา 13.20 น. ผู้รักษาก่อนตาย แพทย์แผนปัจจุบัน โรคที่เป็นสาเหตุการตาย “SUGGESTIVE OF AMPHETAMINE INTOXICATION” หรือภาวะ “สันนิษฐานว่าพิษจากสารแอมเฟตามีน” จนทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าใบรับรองการตายไม่ตรงกับภาพคลิปที่ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนว่า ผู้ต้องหาถูกทารุณกรรม
ต่อมา เฟซบุ๊ก ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เปิดเผยภาพจาก IG Story ของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันที่ตำรวจนำผู้ต้องหาส่งโรงพยาบาล ระบุว่า "เคสนี้เป็นเคสที่มา admit ที่วอร์ดบ่าย Refer จาก รพ.ปากน้ำโพ ด้วย Post arrese ตำรวจนำส่งข้อมูลพบว่าคนร้ายวิ่งหนีตำรวจแล้ววูบไป แต่สภาพที่มาคือ มีเลือดออกในร่างกาย Suction มีแต่ก้อนเลือด ยังคุยกันอยู่ว่าเหมือนโดนทำร้ายมา Dead เวรดึก ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ ถามอะไรตำรวจก็บอกว่าไม่รู้ๆ พอคลิปออกมาแล้วสงสารคนไข้เลย เห็นในข่าวคือเอาคลิปคลุมหัวคนไข้ บอกพยาบาลว่าคนไข้วิ่งหนีแล้ววูบ เอ้ออออออ"
หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ได้เปิดเผยในรายการเที่ยงวันทันเหตุการณ์ว่า ได้โทรศัพท์ไปคุยกับ แพทย์ที่ทำการชันสูตร ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเหยื่อสารวัตรโจ้ ขอให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ตำรวจได้นำศพของผู้ต้องหามาส่งที่ รพ. โดยตำรวจได้พูดกับแพทย์ที่ชันสูตรว่า คนร้ายที่ถูกตามจับ และวิ่งหนี พอตำรวจวิ่งตามล็อกตัวได้ พยายามจะยืนพูดคุยกัน อยู่ดีๆ คนร้ายคนนี้เป็นลมล้มลง หัวใจวายตาย
เมื่อคุณหมอได้ฟังอย่างนั้นจึงสงสัย และผ่าชันสูตรปรากฏว่าพบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกายจริงๆ พอมีสารเสพติดในร่างกาย หมอจึงอนุมานเอา เพราะหมอไม่รู้ว่ามีการล็อก หรือเอาถุงคลุมหัว จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากที่เสพยาโอเวอร์โดส ประกอบกับการวิ่ง แต่จริงๆ จะไม่ได้ลงบันทึกแบบนี้ หมอระบุว่า คนร้ายตายเพราะสาเหตุ หัวใจล้มเหลว หรือว่าขาดอากาศหายใจ แต่ตอนนั้นปรากฏว่าตำรวจไปบอกคุณหมอว่า ขอให้ลงบันทึกว่าสันนิษฐานว่ามีสารเสพติดในร่างกาย ไม่อย่างนั้นผู้กำกับไม่สบายใจ
คุณหมอบอกกับคุณกรรชัยว่า รู้เลยว่าต้องมีอะไรแน่ๆ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะหมอได้ผ่าชันสูตร เก็บหลักฐานทั้งหมดไว้ และ ส่งให้จเรตำรวจหมดแล้ว โดยเบื้องต้นที่ลงบันทึกมาแบบนี้ คือมีสารเสพติดอยู่จริงๆ และอาจเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่มันอาจไปถูกการกระตุ้นโดยใครก็ตามแต่ที่อาจไปทำร้ายเขา ทำให้มีสิ่งเร้าเกิดขึ้น ทำให้สารนี้ไปกระตุ้นกับหัวใจ จนเกิดการเสียชีวิต หรืออาจเป็นเรื่องของการรัดคอ แล้วหมดลมหายใจ