คลับเฮาส์แทบแตก! ทนายตั้มเปิดอกคดีผู้กำกับโจ้ หมอชันสูตรโผล่แจงปมใบรับรองการตาย
คลับเฮาส์ ระอุ "ทนายตั้ม" ทำทีมทนายดัง ถกประเด็นร้อน #ผู้กำกับโจ้ "หนุ่ม กรรชัย" ต่อสายตรงถึงหมอชันสูตร แจงลงสาเหตุในใบรับรองการตาย
จากกรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์คลิปวิดีโอ เหตุการณ์ขณะกลุ่มชายศีรษะเกรียน คล้ายตำรวจ ใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะชายคนหนึ่งที่สวมเสื้อสีเหลืองที่อยู่ในอาการขัดขืน
ล่าสุด เมื่อคืนนี้ เวลา 20.00 น. ทนายตั้ม ได้เข้ามาร่วมพูดคุยในคลับเฮาส์ หัวข้อเรื่อง "เปิดอกคุยทนายตั้ม คดีผู้กำกับฉาวฆาตกรรมผู้ต้องหา" โดยมีทนายดังๆ เข้ามาร่วมฟังและให้ความเห็นมากมาย อาทิ ทนายนิด้า ศรันยา หวังสุขเจริญ, ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต, ทนายรณรงค์ แก้วเพชร เจ้าของเพจทนายคู่ใจ, ทนายอาคม คงสวัสดิ์ และ นพ.วิทวัส ศิริประชัย หรือ จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เจ้าของเพจชื่อดัง Drama-addict
การเปิดห้องดังกล่าวได้รับความสนใจอย่างมาก มีคนเข้ามาฟังจนเต็มความจุของห้อง 8,000 คน และมีการต่อห้องเสียงไปกว่า 3-4 ห้อง ร่วมถึงมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งคาดว่าน่าจะมีผู้เข้ามาร่วมรับฟังจำนวนหลายหมื่นคน
โดย ทนายตั้ม เปิดเผยถึงสาเหตุการลงคลิปดังกล่าวว่าได้รับคลิปมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กอวาตาร์รายหนึ่ง หลังจากทำการตรวจสอบก็นำมาโพสต์ลงโซเชียลทันที จนนำไปสู่การออกหมายจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนพล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 คน
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ได้เข้ามาร่วมฟังด้วย ต่อสายตรงถึงแพทย์ที่เป็นคนชันสูตร นายจิระพงศ์ หรือ มาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด เข้ามาตอบคำถามเกี่ยวกับการออกใบรับรองการเสียชีวิตที่ระบุข้อสันนิษฐานว่า เสียชีวิตจากพิษจากสารแอมเฟตามีนนั้น
ซึ่งทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ของจ่าพิชิต ได้สรุปประเด็นจากคลับเฮ้าส์ จากกรณีคุณหมอที่เป็นคนชันสูตรมาตอบคำถามทนาย ดังนี้
ประเด็นการลงชันสูตร เป็นปัญหาทางเทคนิค เพราะในบางพื้นที่หาก เอกสารเบื้องต้น ลงว่าเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ จะถูกเจ้าหน้าที่อำเภอตีกลับมาให้ลงสาเหตุการเสียชีวิต ไม่อย่างนั้นจะมีผลในการลงบันทึกข้อมูล เคสนี้จึงไม่สามารถลงได้ว่า ตายไม่ทราบสาเหตุ
ส่วนสาเหตุที่ลงว่า อาจเกี่ยวข้องกับแอมเฟตามีน เพราะจากการชันสูตร เจอระดับแอมเฟตามีนในร่างกายผู้ตาย และเจอร่องรอยในอวัยวะบางอย่าง คือ หัวใจ มีร่องรอยกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นหย่อมๆ โดยไม่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ ซึ่งเป็นลักษณะของแอมเฟตามีนโอเวอร์โดสประการหนึ่ง จึงสันนิษฐานว่า อาจเกี่ยวข้องกับแอมเฟตามีนโอเวอร์โดสไปก่อน เพื่อที่จะเอาไปออกใบมรณบัตร แต่ไม่มีผลทางคดี จนกว่าจะมีการชันสูตรแบบละเอียด ซึ่งอีก 3 วัน คาดว่าผลชันสูตรอย่างละเอียดจะออกมา
นอกจากนี้ คุณหมอ อ้างว่า มีตำรวจมาระบุให้ลงข้อมูลว่า ตายโดยเกี่ยวข้องกับแอมเฟตามีนจริง ไม่อย่างนั้น ผกก. จะไม่สบายใจ แต่คุณหมอเห็นว่า ผลชันสูตรหัวใจมันก็มีความเป็นไปได้ จึงลงข้อมูลตามนั้นไปก่อน แต่คุณหมอเห็นว่า การร้องขอแบบนี้ผิดปกติ ตำรวจจะไม่ทำแบบนี้ จึงทำการชันสูตรโดยละเอียด และเก็บตัวอย่างไปตรวจทั้งหมด ซึ่งการที่มีคลิปออกมาเพื่อช่วยการให้การชันสูตรง่ายขึ้น หมอไม่สงสัยการตายเลยจากคลิป เพราะไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนกรณีที่เพจดัง อ้างว่าผลแล็บไม่พบสารเสพติดในเลือด หมออธิบายว่า ถ้าอย่างนั้นน่าจะแปรผลว่า ผู้ตายเคยมีประวัติเสพสารเสพติดมาก่อน นานแล้ว และเรื่องหัวใจ ก็เป็นผลจากการเสพในอดีต ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุการตายปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลใหม่จากคุณหมอด้วยว่า ผู้ตายไม่ได้เสียชีวิตทันที หลังเจ้าหน้าที่พาส่งโรงพยาบาล มีการปั๊มหัวใจขึ้นมา และยื้อชีวิตนานร่วม 10 ชั่วโมง ก่อนจะเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม คุณหมอได้สรุปสาเหตุการเสียชีวิตคร่าวๆ ที่มีความเป็นไปได้ 4 อย่าง ซึ่งข้อมูลนี้ได้มอบให้กับทางจเรตำรวจไปแล้ว คือ
- โดนอะไรไม่รู้ มีลักษณะขาดอากาศ
- มียาอยู่ในร่างกาย ปริมาณไม่สูงมาก และโดนอะไรกระตุ้น แล้วทำให้หัวใจล้มเหลว
- มียาอยู่ในร่างกายปริมาณมาก แล้วเสียชีวิต
- โดนทำร้ายร่างกาย แบบที่ไม่ปรากฏหลักฐาน
จากข้อมูลล่าสุดที่แล็บเพิ่งออกมา น่าจะตัดข้อ 3 ออกไป เพราะไม่เจอสารเสพติดปริมาณที่สูงพอในร่างกายผู้เสียชีวิต แต่ผู้ตายอาจจะเคยเสพมาก่อนในอดีต หรือเสพมาในปริมาณไม่มาก แล้วมีตัวกระตุ้นจนทำให้ถึงแก่ชีวิต และสารที่ว่าอาจถูกกำจัดออกจากร่างกาย ในช่วงเวลาสิบกว่าชั่วโมง ที่หมอยื้อชีวิตเขาไว้ได้หลังหัวใจหยุดเต้นรอบแรก
ต่อมาได้เปิดให้คนฟังเข้ามาสอบถาม โดย ทนายตั้ม ตอบคำถามกรณีที่หลายคนแสดงความเป็นห่วงพยานซึ่งเป็นคนส่งคลิปหลักฐานมาให้ ระบุว่า ขณะนี้พยานปลอดภัยดี ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร ซึ่งทนายตั้มเองถึงกับบอกว่า "ถ้าตายก็ตายด้วยกัน"
กรณีพยานได้ส่งคลิปหลักฐานไปให้คนอื่นก่อนหน้านี้ และมีคนแสดงความเป็นห่วงว่าอาจถูกเปิดเผยตัวตนนั้น ทนายตั้มบอกว่า คนส่งคลิปนั้นค่อนข้างระมัดระวังและมีการใช้เฟซบุ๊กอวาตาร์ส่งข้อมูลมาให้ ถ้าไม่ได้เจอตัวก็คงไม่รู้ว่าเป็นใคร โดยเจ้าตัวส่งคลิปไปให้ทนายอีกคนหลายวันก่อนตนเอง แต่ตนเองคงต้องดูหลักฐานอีกทีตอนนัดเจอกัน