ศบค.ชุดเล็ก เคาะชงชุดใหญ่ ผ่อนคลายเปิดห้าง-ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ อาจยังมีเคอร์ฟิว

ศบค.ชุดเล็ก เคาะชงชุดใหญ่ ผ่อนคลายเปิดห้าง-ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ อาจยังมีเคอร์ฟิว

ศบค.ชุดเล็ก เคาะชงชุดใหญ่ ผ่อนคลายเปิดห้าง-ให้นั่งกินอาหารในร้านได้ อาจยังมีเคอร์ฟิว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ที่ประชุม ศปก.ศบค. เตรียมเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ อนุญาตเปิดห้าง ร้านอาหาร ขนส่ง สนามกีฬา สวนสาธารณะ แต่ยังคงล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว ขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด ยกเว้นมีความจำเป็น

วันนี้ (26 ส.ค.) มีรายงานว่าที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) หรือ ศบค.ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการฯ เห็นชอบให้เปิดกิจการทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สนามกีฬา สวนสาธารณะ แต่จะต้องปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

นอกจากนี้ จะคงมาตรการล็อกดาวน์เอาไว้ก่อน แต่ไม่ห้ามเดินทางข้ามจังหวัดสำหรับประชาชนที่มีความจำเป็นเท่านั้น และจะต้องดำเนินการตามมาตรการที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดในการเดินทางข้ามจังหวัด และยังต้องขอความร่วมมือประชาชนงดเดินทางข้ามจังหวัดหากไม่มีความจำเป็น

ขณะเดียวกัน จะเปิดบริการรถสาธารณะได้ โดยต้องจำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 75 และคนขับรถจะต้องได้รับวัคซีนโควิดแล้ว 2 เข็ม รวมทั้งจะเปิดให้เดินทางโดยเครื่องบิน ซึ่งผู้โดยสารจะต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม หรือผลตรวจโควิด-19 ส่วนมาตรการเคอร์ฟิวนั้นจะนำไปหารือในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่อีกครั้งในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากจะต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับมาตรการอื่น

เช่นเดียวกันกับการเปิดให้ประชาชนนั่งรับประทานอาหารในร้าน โดยจะต้องฉีดวัคซีนโควิดครบ 2 โดสนั้น ยังไม่มีข้อสรุปจากที่ประชุม ศปก.ศบค. เนื่องจากพบว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ดังนั้นจะนำประเด็นนี้ไปหารือในที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันพรุ่งนี้อีกครั้งเพื่อหาข้อสรุปเช่นเดียวกัน

ขณะที่ฝั่งกระทรวงสาธารณสุขนั้น ก็เตรียมจะเสนอ ศบค.ชุดใหญ่ในวันพรุ่งนี้เช่นเดียวกัน เพื่อให้มีการผ่อนคลายเปิดบางกิจการ ด้วยการใช้มาตรการ COVID Free Program ร่วมกับการป้องกันตนเองสูงสุดตลอดเวลา ส่วนรายละเอียดอยู่ที่ ศบค.พิจารณา

วันนี้ (26 ส.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงการผ่อนคลายมาตรการ ว่า วันนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 18,501 ราย รักษาหาย 20,606 ราย เสียชีวิต 229 ราย สถานการณ์เป็นไปตามฉากทัศน์ คือ ผลของการล็อกดาวน์มากกว่า 4 สัปดาห์มีประสิทธิภาพ ลดการติดเชื้อ 20-25% แต่การเสียชีวิตยังสูงในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 7 กลุ่มโรค จึงต้องเร่งฉีดวัคซีนกลุ่มนี้ ภาพรวมขณะนี้ประเทศไทยน่าจะผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว แต่ยังมีการระบาดต่อเนื่องโดยมีแนวโน้มทิศทางค่อยๆ ลดลง ยังต้องขอความร่วมมือประชาชน กิจการต่างๆ ให้คงมาตรการ เพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อรุนแรงอีกในอนาคต

ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุขจึงได้เตรียมมาตรการเสนอต่อที่ประชุม ศบค. วันที่ 27 สิงหาคม 2564 เพื่อให้กิจการที่มีความเสี่ยงน้อยและมีความสำคัญ ยังสามารถดำเนินกิจการต่อได้ เช่น การนั่งรับประทานในร้านอาหาร กิจการกลางแจ้ง และการเดินทางข้ามจังหวัด โดยเฉพาะเครื่องบิน โดยจะเพิ่มมาตรการไม่ให้ติดเชื้อและแพร่เชื้อ คือ COVID Free Program โดยสถานประกอบการต้องจัดสิ่งแวดล้อม เว้นระยะห่าง และระบบระบายอากาศ ส่วนพนักงานและลูกค้าจะต้องเป็นโควิดฟรี คือ ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม, เคยติดเชื้อมาแล้ว 1-3 เดือนถือว่ามีภูมิ หรือมีผลตรวจโดยชุดตรวจ ATK ว่าไม่มีโควิด ซึ่งผู้รับบริการจะต้องแสดงเอกสารรับรองดังกล่าวเพื่อเข้ารับบริการ หากไม่สามารถแสดงเอกสารรับรองได้ กรณีร้านอาหารยังสามารถใช้บริการสั่งกลับบ้านได้ นอกจากนี้ ทุกคนยังต้องเข้มมาตรการป้องกันติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) ตลอดเวลา

“เรื่องดังกล่าวเป็นข้อเสนอ รายละเอียดต่างๆ อยู่ที่การพิจารณาของ ศบค. ว่าจะเริ่มดำเนินการเมื่อไรมีข้อกำหนดอย่างไร โดยมาตรการเหล่านี้เป็นมาตรการแนะนำเบื้องต้น อาจจะมีกิจการต้นแบบและใช้เป็นมาตรฐานต่อไปในอนาคต และจะมีการกำกับติดตาม อย่างไรก็ตาม กิจการต่างๆ เมื่อเปิดแล้วต้องช่วยกันดูแล ป้องกันตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ต้องปิดอีก” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook