ราชทัณฑ์ ส่ง ผกก.โจ้ และพวก ขังที่คุกพิษณุโลก หวั่นเจอนักโทษเก่าที่เคยจับ

ราชทัณฑ์ ส่ง ผกก.โจ้ และพวก ขังที่คุกพิษณุโลก หวั่นเจอนักโทษเก่าที่เคยจับ

ราชทัณฑ์ ส่ง ผกก.โจ้ และพวก ขังที่คุกพิษณุโลก หวั่นเจอนักโทษเก่าที่เคยจับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 27 ส.ค.64 ที่ศาลจังหวัดนครสวรรค์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ยื่นคำร้องขอฝากขังครั้งแรก พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อายุ 39 ปี หรือผกก.โจ้ ชาวกรุงเทพมหานคร อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เป็นจำเลยในความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ หรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น โดยเป็นการฝากขังผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

โดยท้ายคำร้อง พนักงานสอบสวนยังระบุว่า ได้สอบสวนและควบคุมตัวผู้ต้องหามาจะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหา จึงขออนุญาตฝากขังมีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย. 2564 และขอคัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ มีอัตราโทษสูง ประกอบกับผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจกระทำผิดเสียเอง หากมีการปล่อยตัวชั่วคราวเกรวงว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ประสงค์จะดำเนินการยื่นคำร้องฝากขัง โดยขอให้ศาลสอบถามผู้ต้องหา หรือทำการไต่สวนพยานหลักฐานในการออกหมายขังผู้ต้องหาผ่านระบบการประชุมทางจอภาพในการฝากขังครั้งต่อไปทุกครั้งด้วย ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองนครสวรรค์ยังได้ยื่นฝากขัง ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นตำรวจที่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดในฐานความผิดเหตุการณ์เดียวกันกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ โดยในคำร้องฝากขังพนักงานสอบสวนก็ได้คัดค้านประกันเช่นเดียวกัน

ด้าน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และพวกทั้ง 7 คนไปขังไว้ที่เรือนจำกลางพิษณุโลก เนื่องจากเรือนจำนครสวรรค์เป็นเรือนจำสีแดง จึงขออนุญาตศาลย้ายไปใช้เรือนจำกลางพิษณุโลกในการควบคุมตัวแทน หากทนายความจะเข้าพบก็คุยออนไลน์ได้

นายอายุตม์ กล่าวว่า เรือนจำกลางพิษณุโลกมีความมั่นคงสูง มากกว่าเรือนจำนครสวรรค์ เนื่องจากมีหลายแดน นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเคยเป็นตำรวจ ช่วงแรกจะกันไม่ให้เจอผู้ต้องขังทั่วไป เพราะเกรงจะไปเจอผู้ต้องขังที่เคยถูกจับกุม ทำให้ต้องแยกออกมาก่อน เพื่อความปลอดภัยของผู้ต้องขัง

ส่วนการรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ จะทำตามมาตรการป้องกันโควิดของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว โดยแยกกักตัว 21 วัน หากตรวจพบติดเชื้อโควิด ถ้าเป็นกลุ่มสีเขียวจะให้ยาฟาวิพิราเวียร์และฟ้าทะลายโจรแล้วแต่อาการ

นายอายุตม์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มีความเครียดและเคยพยายามจะฆ่าตัวตายนั้น เรือนจำมีนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์ที่จะเข้าพูดคุยกับผู้ต้องขังใหม่อยู่แล้ว อีกทั้งในห้องควบคุมตัวจะมีวงจรปิดดู 24 ช.ม. เรื่องนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก โดยทั้ง 7 คนจะปฏิบัติเหมือนผู้ต้องขังคนอื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook