อัยการคาดฟ้องราเกซ ก่อนตัดสิน เกริกเกียรติ์ 11พ.ย.
ตำรวจส่งคำให้การ ราเกซ ให้อัยการคดีเศรษฐกิจ คาดอัยการส่งฟ้องได้ก่อนศาลอุทธรณ์ พิพากษาคดี เกริกเกียรติ์ 11 พ.ย.นี้
สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก- พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี กระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 พร้อมคณะ ได้นำบันทึกการสอบปากคำ ของนายราเกซ ถูกกล่าวหาร่วมอนุมัติสินเชื่อ บริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 1,657 ล้านบาทโดยทุจริต และบันทึกการสอบสวนพยานเพิ่มเติม และรายงานแพทย์ในการตรวจสุขภาพนายราเกซ ประมาณ 90 แผ่น มาส่งมอบให้นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร เพื่อพิจารณาสำนวนและยื่นฟ้องคดีต่อไป คดีดังกล่าว นายราเกซ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 มาตรา 307 ,308 ,311 และ315
นายเศกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติมเป็นคำให้การปฏิเสธของนายราเกซ ทั้งฉบับภาษาอังกฤษ และฉบับที่แปลเป็นภาษาไทยซึ่งแปลโดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งรายงานการตรวจสุขภาพของนายราเกซ ซึ่งแพทย์ผู้ตรวจระบุว่า ขณะที่นายราเกซ ให้การนั้นมีสติและสุขภาพดี แต่มีอาการอ่อนล้าที่แขน และขาบ้างเล็กน้อย แต่เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งผลการสอบปากคำเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศที่ทำหน้าที่แปลภาษาว่า ได้รับมอบหมายให้เป็นล่ามทำหน้าที่อย่างถูกต้องแนบมาด้วย ดังนั้นตนจึงให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเจ้าหน้าที่ล่ามคนดังกล่าวเพื่อส่งให้มาอัยการต่อไป
นายเศกสรรค์ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะมอบหมายให้คณะทำงานอัยการที่แต่งขึ้นประกอบด้วย รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจ ฯ - อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจฯ รวม 5 คน ตรวจสอบรายละเอียด ทั้งกระบวนการการสอบคำให้การผู้ต้องหา การสอบสวนพยานเพิ่มเติม 2 ปาก และกระบวนการขั้นตอนการแจ้งสิทธิกับผู้ต้องหาในการมีทนายความ ว่าครบถ้วนตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญาหรือไม่ เพราะถ้ายังดำเนินการไม่ครบถ้วนอัยการก็ต้องแจ้งพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ เพราะไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบเรื่องสิทธิของผู้ต้องหา ขณะที่คดีนี้มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมากจึงไม่ต้องการให้เกิดข้อบกพร่อง
นายเศกสรรค์ กล่าวว่า การพิจารณาคดีนี้จะต้องนำสำนวนเดิมที่สั่งฟ้องนายราเกซ ซึ่งมีการยื่นฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจีนทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการ บีบีซี กับพวกไปก่อนหน้านี้ ที่มีพยานบุคคลถึง 94 ปากในสำนวนมาพิจารณาเพื่อดูว่า พยานปากใดที่ให้การเกี่ยวกับนายราเกซว่ากระทำผิดอย่างใด และพยานเบิกความในศาลอย่างใด เพื่อนำรายละเอียดไปบรรยายฟ้องให้ครบถ้วนสมบูรณ์ และมีน้ำหนักพอที่จะให้ศาลพิพากษาลงโทษได้ด้วย
นายเศกสรรค์ กล่าวว่า การยื่นฟ้องนายราเกซ ไม่จำเป็นต้องรอฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ จะนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีทุจริตปล่อยกู้ บ.ซิตี้เทรดดิ้ง ฯ ในส่วนของนายเกริกเกียรติ กับพวก ฐานปล่อยเงินกู้ จำนวน 1,657 ล้านบาทโดยทุจริต ในวันที่ 11 พ.ย. นี้ เวลา 09.00 น.
"การยื่นฟ้องคดีนายราเกซอัยการจะดำเนินการให้เร็วที่สุด หากเอกสารพร้อมก็เป็นไปได้ที่จะยื่นฟ้องก่อนวันที่ 11 พ.ย.นี้ ขณะที่การบรรยายฟ้องนั้นอัยการจะระบุถึงพฤติการณ์ขอนายราเกซที่หลบหนีไปอยู่ต่างประเทศ เพื่อคัดค้านการประกันตัวด้วย"
นายเศกสรรค์ กล่าวว่า ส่วนคดีปล่อยกู้ของ บีบีซี โดยทุจริตอีก 20 สำนวนที่นายราเกซเป็นผู้ต้องหานั้น เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ ฯ ซึ่งตนได้สรุปรายละเอียดของคดีให้นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุดทราบ เพื่อจะแจ้งรายละเอียดคดีเหล่านั้นให้ทางการแคนาดารับทราบตามมารยาของการขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ก่อนที่อัยการไทยจะยื่นฟ้องนายราเกซกับความผิดทั้ง 20 คดีต่อไป โดยตนขอยืนยันว่าจะไม่ปล่อยให้คดีขาดอายุความ
ส่วนการจะดำเนินคดีนักการเมืองกลุ่ม 16 ได้อีกหรือไม่ นายเศกสรรค์ กล่าวว่า การยื่นฟ้องคดีขณะนี้ก็เป็นไปตามที่พยานหลักฐานปรากฏในสำนวนเท่านั้น โดยนายราเกซจะให้การในชั้นศาลพาดพิงถึงบุคคลใดหรือไม่ก็เป็นเรื่องในอนาคตที่ยังไม่เกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตปล่อยกู้ บีบีซี ให้กับ บ.ซิตี้เทรดดิ้ง ฯ ในส่วนที่ยื่นฟ้องนายเกริกเกียรติ กับพวกนั้น ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ม.ค.48 ให้จำคุกนายเกริกเกียรติ เป็นเวลา 10 ปี และปรับ 2,264 ล้านบาท และให้ปรับบ.ซิตี้ เทรดดิ้ง ฯ จำนวน 1 ล้านบาท กรรมการ บ. ซิตี้เทรดดิ้ง ฯ 2 รายให้จำคุกคนละ 7 ปี และปรับคนละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้นายเกริกเกียรติ กับกรรมการ บ.ซิตี้เทรดดิ้ง ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1,132 ล้านบาทพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.25 ต่อปี คืน บีบีซี ด้วย