หมอตำรวจ ขับปอร์เช่ชน 2 ศพ ร่ำไห้ขอขมาครอบครัวผู้ตาย ผลสรุปชัด "เมาแล้วขับ"
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 64นายแพทย์ (สบ.1) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ขับรถยนต์ปอร์เช่ป้ายแดงชนท้ายรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ บนถนนราชพฤกษ์ ใต้สถานีบีทีเอสบางหว้า ทำให้ผู้ที่นั่งมาในรถยนต์ซิตี้ เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย
โดยต่อมาได้เกิดความสับสนในการรายงานผลการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดว่าผู้ขับขี่ปอร์เช่ เมาแล้วขับหรือไม่
ล่าสุด (31 ส.ค.64) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า ภายหลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ในเวลาประมาณ 06.00 น. ซึ่งใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด ตรวจวัดค่าได้ 80 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่กฎหมายกำหนดในการขับขี่ หลังจากนั้น ในเวลา 11.00 น. ผู้ขับขี่ได้ขอให้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อีกครั้งนึง ตรวจวัดได้ประมาณ 44 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่า ในการดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหา จะต้องยึดค่าที่ตรวจวัดได้ครั้งแรก เพราะวัดในเวลาที่ใกล้เคียงกับเวลาเกิดเหตุมากที่สุด ส่วนค่าแอลกอฮอล์ที่ลดลงภายหลัง จะถูกนำมาใช้ประกอบการสอบสวนเท่านั้น ดังนั้น ขณะนี้จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่าที่ ร.ต.อ.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร ในข้อหาเมาแล้วขับแล้ว ส่วนข้อหาอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่ามีความผิดเพิ่มเติม ในการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่
โดยในคดีนี้ได้มอบหมายให้ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เข้ากำกับดูแลการสอบสวนด้วยตนเอง เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม ปราศจากข้อกังขา
อย่างไรก็ตาม วานนี้ (31 ส.ค.64) ร.ต.ท.ภาณุรักษ์ รัตนไพศร นายแพทย์ (สบ.1) กลุ่มงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ ผู้ขับขี่รถปอร์เช่ ได้เดินทางมาขอขมาผู้เสียชีวิต และขอโทษกับครอบครัว ที่โรงพยาบาลศิริราชด้วย โดยอยู่ในอาการเศร้าเสียใจ ร้องไห้ตลอดเวลา และได้ก้มกราบร่างผู้เสียชีวิต และกราบเท้าขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมบอกว่ายินดีที่จะรับผิดชอบทุกอย่าง และดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตตลอดไป ด้านครอบครัวก็จะนำร่างของผู้เสียชีวิต กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทันที
- หนุ่มอ้างเป็นแพทย์ ขับรถหรูพุ่งชนเก๋งใต้ BTS บางหว้า ดับ 2 ศพ สาหัส 1 ราย
- รอง ผบช.น. ยันไม่ช่วย "แพทย์ รพ.ตำรวจ" ขับปอร์เช่ชนดับ 2 ศพ ผลตรวจไม่ได้เมาแล้วขับ