กองปราบยัน "อดีตผู้กำกับโจ้" ป่วยไบโพลาร์ไม่มีผลต่อคดี ขุดสอบพฤติกรรม ตร.ชุด 05
สำหรับความคืบหน้ากรณีคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ทำร้ายผู้ต้องหาคดียาเสพติดโดยใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต โดยแพทย์ยืนยันชัดเจนว่าผู้ต้องหาเสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ล่าสุด อัยการมีคำสั่งให้ รองอธิบดีอัยการภาค 6 พร้อมคณะร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวนด้วยแล้วนั้น
ล่าสุด เช้าวันนี้ (31 ส.ค.64) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่า หลังชุดทำงานในส่วนของกองบังคับการกองปราบปราม ได้ลงพื้นที่รวมรวบข้อมูลในประเด็นต่างๆก็ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาประมวล ว่ายังขาดประเด็นใดบ้างที่ต้องลงพื้นที่สอบสวนสืบหาเพิ่มเติม นำมาประกอบสำนวนคดีดังกล่าว ซึ่งหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นคาดว่าจะต้องลงพื้นที่เก็บหลักฐานอีกในส่วนที่ยังไม่สมบูรณ์ ส่วนการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจในชุด 05 พยานที่ถูกกระทำต่างๆ ขณะนี้สอบสวนไปมากพอสมควร โดยตำรวจชุด 05 ได้สอบปากคำเพิ่มไปแล้วเมื่อคืนนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากอดีตผู้กำกับโจ้ อ้างป่วยไบโพลาร์ จะมีผลอะไรต่อคดี พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า หลักกฏหมายการกระทำความผิดถ้ากระทำโดยรู้สำนึกผิดชอบชั่วดี จะมาอ้างว่าเป็นไบโพลาร์เพื่อลดโทษไม่ได้ หลักกฎหมายบอกกระทำโดยรู้สำนึกผิดชอบชั่วดี แต่หากเขาทานยากระทำไปไม่รู้ผิดชอบชั่วดีอีกเรื่อง แต่อาการของผู้กระทำผิดไม่ใช่อย่างนั้น คดีนี้ไม่ยากเพราะมีคลิปเห็นพฤติการณ์การกระทำความผิดอยู่แล้ว เป็นดุลพินิจของศาลจะมองอย่างไร วันนี้ยังไม่มีการเรียกใครมาสอบเพิ่มอยู่ระหว่างการประมวลหลักฐาน ยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน
“เรื่องนี้ชัดเจนว่ามีการล่อซื้อยาเสพติดจริง มีการควบคุมตัวผู้กระทำความผิดจริง แต่วิธีการสอบสวนขยายผลนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นการคลุมหัวรีดข้อมูลไม่ชอบด้วยกฎหมาย รูปคดีเป็นอย่างนั้น ส่วนการกระทำผิดวินัยเป็นเรื่องของจเรตำรวจ ส่วนกองปราบทำในเรื่องของคดีอาญา ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะแจ้งข้อหาบุคคลใดเพิ่มในชุดร่วมจับกุม ยังไม่ยุติต้องสอบส่วนอื่นด้วยว่าเกี่ยวข้องหรือไม่ในเหตุการณ์นั้น และเกี่ยวข้องอย่างไร ต้องสอบต่อไป ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าคดีดำเนินการโดย ผบ.ตร. จะถูกต้องเป็นธรรม และคดีนี้มีอัยการเข้ามาร่วมด้วย เชื่อมั่นได้เลยว่า สององค์กรไม่เอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้กับเรื่องนี้ การสอบสวนตรงไปตรงมา ส่วนข่าวลือที่ลือกันไป ส่วนเรื่องจริงอยู่ในสำนวน มั่นใจทีมงานจากกองปราบ ภาค 6 ในการทำงานร่วมกับอัยการ”
ส่วนกรณีที่มีอัยการร่วมทำคดีนี้ด้วยจะเริ่มกระบวนการสอบสวนใหม่หรือไม่ พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า อะไรที่ทำถูกต้องแล้วก็ทำต่อไป ส่วนไหนยังขาดเหลือไม่สมบูรณ์ก็สอบสวนเพิ่มไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ สามารถเดินหน้าได้ต่อเนื่องต่อไปตามกรอบกฏหมาย ส่วนการโอนคดีและตัวผู้ต้องหาไปส่วนกลางนั้น เป็นขั้นตอนทางธุรการตามปกติก็ดำเนินการไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมดังกล่าวชุดสืบสวนสอบสวนของกองปราบปราม มีการนำข้อมูลมาวางบนโต๊ะแยกโต๊ะกันในลักษณะวงกลม มีหัวหน้าชุดคอยเรียบเรียงหลักฐานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยเฉพาะพฤติกรรมของตำรวจในชุด 05 ที่ไปเรียกรับผลประโยชน์หรือผู้เสียหายที่เคยถูกกระทำโดยตำรวจ 05 ชุดนี้ เพื่อนำมาประกอบสำนวนการสอบสวน โดยเฉพาะประเด็นที่มีตำรวจคนไหนในชุดที่เข้าข่ายการกระทำความผิดทั้งอาญาและวินัย