ฝนตกหนักน้ำล้นสระวัดดัง ชาวบ้านแหวกหาช่องระบาย ผงะ! เจอศพลอยอืด

ฝนตกหนักทำน้ำล้นสระวัดดังจากทัวร์กฐิน 19 ศพ ชาวบ้านเตรียมแหวกหาช่องเจาะระบายออก ก่อนพบศพลอยอืดเหนือผิวน้ำ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ส.ค.) เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.หญิง กชมน แสนบัณฑิต รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีชาวบ้านพบศพคนลอยน้ำเสียชีวิต ที่บริเวณริมขอบสระน้ำของทางวัดบางปลานัก ซึ่งเป็นวัดชื่อดัง จากกรณีเกิดอุบัติเหตุโศกนาฏกรรมขบวนรถไฟพุ่งชนรถของคณะทัวร์บุญกฐิน ที่ขนคนงานจากโรงงานใน จ.สมุทรปราการ มุ่งหน้าจะมาทำบุญทอดกฐินยังที่วัดแห่งนี้ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 19 ศพ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อวันที่ 11 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ตั้งอยู่พื้นที่ ม.10 ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้าน ที่ต่างพากันออกมายืนมุงดูอยู่ห่างๆ เป็นจำนวนมาก ภายในโดมหลังคาสังกะสีขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ด้านฝั่งตรงข้ามปากทางเข้าวัด ภายในสระน้ำขนาดกว้างประมาณ 60 เมตร ยาว 80 เมตรลึก 5 เมตร พบมีร่างของผู้เสียชีวิตสภาพเริ่มเน่าเปื่อยจนขึ้นอืดแล้ว ลอยโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือน้ำใกล้กับขอบสระทางด้านทิศตะวันตก ซึ่งมีถนนทางโค้งหักศอกตัดวนลัดไปตามแนวกำแพงของทางวัดที่หัวมุมของสระน้ำ

ที่หัวโค้งมีร่องรอยของล้อรถจักรยานยนต์เบรกไถลเป็นทางยาวไกลประมาณ 25 เมตร และพบร่องรอยของการพุ่งเข้าชนกับซากของศาลเจ้า ศาลพระภูมิเก่า ที่ถูกนำมากองทิ้งไว้อย่างรุนแรง จนมีเศษของคอนกรีตที่ใช้ในการหล่อทำศาลพระภูมิแตกกระจัดกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ

และยังพบเศษซากของตัวรถจักรยานยนต์ แตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น และปลิวไปทั่วบริเวณเช่นเดียวกัน ทั้งเบาะนั่ง แผงบังลม โคมไฟสัญญาณส่วนควบของตัวรถ และยังพบโทรศัพท์มือถือรวมถึงรองเท้าแตะ ธนบัตรฉบับละ 100 บาท ปลิวตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถาม พระสมุสมนึก รองเจ้าอาวาสวัดบางปลานัก เล่าว่า ในพื้นที่ได้มีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานถึงกว่า 1 สัปดาห์ จนทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาเต็มล้นออกมาจากสระ และไหลเข้าท่วมต้นไม้ที่ปลูกไว้บริเวณโดยรอบ

ชาวบ้านที่มาคอยดูแลวัด เกรงว่าต้นไม้จะถูกน้ำท่วมตาย จึงได้เดินไปยังขอบสระเพื่อหาทางเจาะช่องเพื่อระบายน้ำออก ให้ไหลลงสู่คูคลองในบริเวณใกล้เคียง แต่เมื่อเดินไปถึงยังจุดดังกล่าว ได้พบว่ามีคนลอยน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในสระน้ำ ก่อนจะมาบอกให้ทราบ และแจ้งไปยังผู้นำชุมชน

หลังเกิดเหตุ ได้มี น.ส.นิศา อายุ 38 ปี พี่สาว และ น.ส.ณัฐนันท์ อายุ 35 ปี แฟนสาวของผู้เสียชีวิต ซึ่งทราบข่าวจากเพจท้องถิ่นที่เข้ามารายงานข่าวในพื้นที่เกิดเหตุ จึงได้พากันเดินทางเข้ามาดูพร้อมกับยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ นายทวีป อายุ 32 ปี ที่หายตัวไปและติดต่อไม่ได้มาตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 ส.ค.64 ที่ผ่านมา

โดย น.ส.ณัฐนันท์ กล่าวว่า แฟนได้หายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้ ตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.เศษ ของวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้ขออนุญาตจากตน บอกว่าจะไปร่วมดื่มสุรากับเพื่อนยังที่บริเวณด้านหลังตลาดปองพล ในพื้นที่ ต.คลองอุดมชลจร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งตนก็ให้ไป เมื่อเวลา 15.18 น. เนื่องจากปกติแฟนตนไม่ค่อยได้ออกไปดื่มกับเพื่อนข้างนอกบ่อยนัก โดยจะอยู่แต่ภายในฟาร์มไก่ ที่ตนและแฟนทำงานอยู่ด้วยกัน ในพื้นที่ ม.10 ต.คลองเปรง โดยตลอด

แต่หลังจากนั้นได้หายตัวไป โดยติดต่อกันเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ก่อนมีคนพบเห็นว่าแฟนได้ขับรถออกมาจากบ้านเพื่อนแล้ว เมื่อเวลา 20.00 น. เพื่อจะเดินทางกลับไปยังฟาร์มไก่

และได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ADV สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 8781 ฉะเชิงเทรา โดยตนพร้อมด้วยญาติของแฟนได้พยายามช่วยกันออกติดตามหามานานตลอด 2 วันเต็มแล้ว แต่ไม่พบตัว

หลังครบ 24 ชั่วโมงแล้ว จึงได้เข้าแจ้งความไว้กับทาง ร.ต.ท.ศุภวัฒน์ มนัสชัย ที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 18.41 น. เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) โดยครั้งแรกตนเกรงว่าจะถูกก่อเหตุฆาตกรรมจากเพื่อนในวงเหล้าหรืออาจมีคนมาดักทำร้ายเพื่อชิงทรัพย์ แต่เมื่อมาเห็นที่เกิดเหตุและพบว่ามีร่องรอยของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนแล้ว จึงเชื่อว่าแฟนน่าจะขับรถแหกโค้งตกลงไปในสระน้ำเสียชีวิตเอง