เจ้าของบ้านกุมขมับ ช้างป่าบุกพังบ้านรอบที่ 3 แล้ว ครั้งนี้ฝีมือ "พลายบุญมี"

"พลายบุญมี" พังบ้านแม่ค้ากล้วยทอดป่าละอู ผนังบ้านพังทลาย กล้วยน้ำว้า น้ำมัน น้ำตาล แม้แต่ข้าวที่หุงไว้ ถูกกินเรียบ เสียหายหนัก ปีนี้ถูกช้างป่าพังบ้านเป็นรอบที่ 3 แล้ว วอนกรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหา อยากให้เคลื่อนย้ายพลายบุญมี ออกไปจากชุมชน

วันนี้ (1 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านป่าละอูว่า มีเหตุช้างป่าชื่อพลายบุญมี ซึ่งเป็นช้างป่าตัวใหญ่ มีลักษณะงาบิ่นแตก ปลายหางด้วน ได้เข้ามาพังบ้านเรือนประชาชนเสียหาย โดยเป็นบ้านของ นางสุภา หรือ ป้าใหญ่ อายุ 58 ปี แม่ค้าขายกล้วยทอด ซึ่งบ้านอยู่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านป่าละอู หมู่ 1 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 

สำหรับบ้านของป้าใหญ่นี้ ถูกช้างป่าเข้ามาพังบ้านแล้วกินกล้วยน้ำว้า ตลอดจนรื้อทำลายสิ่งของภายในบ้านปีนี้ไปแล้ว 2 ครั้ง เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ซึ่งทางกรมอุทยานฯ ร่วมกับ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่, หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, ตำรวจพลร่มชุดพัฒนาการ 712 ป่าละอู ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าหุบเต่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ช่วยกันซ่อมแซมกำแพงบ้านและทำประตูบ้านจนเสร็จไปแล้ว กระทั่งครั้งนี้ถูกช้างป่า พลายบุญมี บุกมาพังบ้านเสียหายอีกรอบ

โดยวันนี้ นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผช.หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วย พ.ต.ท.สุวิทย์ มณีวงษ์ ผบ.ร้อยกองกำกับการ 1 ตชด.ค่ายนเรศวร ชุดพัฒนาการเคลื่อนที่ 712, นายประทีป กุ้งวงตาล ผู้ช่วยเจ้าพนักงานป้องกัน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ได้เข้าตรวจสอบสภาพความเสียหายของบ้านป้าใหญ่ 

จากการตรวจสอบพบว่า ผนังบ้านด้านหน้าพังทลายลงมากว่าครึ่ง ก้อนอิฐกองราบกับพื้น สิ่งของในบ้านถูกรื้อกระจัดกระจาย กล้วยน้ำว้า น้ำตาล น้ำมัน ข้าวสาร รวมทั้งข้าวสวยในหม้อหุงข้าว ถูกช้างป่ากินจนเกือบหมดเกลี้ยง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเคลียร์พื้นที่ และจะเข้าดำเนินการซ่อมแซมให้ในวันที่ 4 ก.ย.นี้ เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และช่าง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ยังอยู่ระหว่างการกักตัวสังเกตอาการ เพราะมีการแพร่ระบาดโควิดในหมู่บ้านป่าละอูบน และค่ายฤทธิฤาชัย

ป้าใหญ่ เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เล่าว่า เหตุเกิดช่วงกลางดึกขณะกำลังนอนหลับในบ้านได้ยินเสียดังโครม คลายสิ่งของพังทลาย จึงรีบออกมาดู จึงเห็นช้างป่าพลายบุญมี กำลังยืนหาของกินในบ้าน ซึ่งมีกล้วยน้ำว้าจำนวนมาก น้ำมัน น้ำตาลทราย ข้าวสาร และข้าวสวยในหม้อ

สามีของตนพยายามจะไล่ออกจากบ้านด้วยการ จุดลูกโป่งไล่ช้างป่า และมีชาวบ้านใกล้เคียงได้ยินเสียงมาช่วยด้วย แต่ไม่ยอมไปโดยง่าย เดินหาของกินจนเวลาผ่านไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง จึงยอมเดินออกจากบ้านไป

ป้าใหญ่ ยังยอมรับว่ากลัวมากและเสียดายสิ่งของ ทุนทำกินที่ซื้อกล้วยซื้อ น้ำมัน น้ำตาลทรายไว้ สำหรับทอดกล้วยขายถูกช้างป่ากินจนหมด อยากขอให้กรมอุทยานฯ เร่งแก้ไขปัญหา ช่วยเคลื่อนย้ายช้างป่าออกไปจากชุมชน

ด้าน นายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า การเคลื่อนย้ายช้างพลายบุญมีนั้น ทางผู้บริหารกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะเป็นผู้พิจารณา โดยที่ผ่านมาเพื่อเกิดเหตุความเดือดร้อนในชุมชน จะมีการรายงานข้อเท็จจริงให้ส่วนกลางได้ทราบทุกครั้ง

โดยในช่วงนี้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนไล่ช่างป่าเหลือเพียงไม่กี่คน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ถูกกักตัวสังเกตุอาการ เนื่องจากในพื้นที่หมู่บ้านป่าละอูบน มีชาวกะเหรี่ยงติดโควิดแล้ว 71 ราย