โฆษกตำรวจ ยืนยันเสียงแข็ง หญิงสาวในตึกร้างหมูป่า ไม่ได้โดนข่มขืน วอนอย่าคิดไปเอง

โฆษกตำรวจ ยืนยันเสียงแข็ง หญิงสาวในตึกร้างหมูป่า ไม่ได้โดนข่มขืน วอนอย่าคิดไปเอง

โฆษกตำรวจ ยืนยันเสียงแข็ง หญิงสาวในตึกร้างหมูป่า ไม่ได้โดนข่มขืน วอนอย่าคิดไปเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nutch Prasopsin ไลฟ์สดผ่านแฟนเพจ Kingdom Of Tigers : ทูนหัวของบ่าว ระบุว่าได้รับแจ้งจากอาสาสมัครที่ดูแลสุนัขและแมวจรจัดในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่ามีหมูป่าอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง แต่โดนสุนัขจรจัดรุมกัด จึงลงพื้นที่ตรวจสอบว่าจะให้การช่วยเหลือหมูป่าได้อย่างไรบ้าง แต่ระหว่างลงพื้นที่ได้หันกล้องไปเจอกับชายหญิงคู่หนึ่งกำลังเปลื้องผ้านอนกอดกันอยู่ในบ้านร้าง จนกลายเป็นเรื่องราว ว่า

กรณีที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ผมได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้ยืนยันว่าหลังจากมีผู้แจ้งว่ามีเหตุเกิดขึ้นตำรวจได้เข้าไปในพื้นที่พบว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้น ตำรวจจึงได้พาผู้หญิงคนนี้ไปดูแลโดยส่งไปตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 พร้อมมีสหวิชาชีพ แพทย์ พยาบาล มาตรวจสอบร่างกาย และได้ประสานไปที่พม. ทาง พม.ก็ได้รับมาตัว ประเด็นอยู่ที่กรณีมีกระแสข่าวว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นที่แวะเวียนกันมาข่มขืนกระทำชำเรา หรือข่มขืนกระทำอนาจารกับหญิงสาว

ข้อยืนยันของพยานแวดล้อมต่างๆ พบว่าไม่ได้ถึงขนาดนั้น และเป็นเรื่องที่ไม่ใช่การขืนใจหรือข่มขืนกระทำชำเรา เป็นเรื่องที่ผู้หญิงอยู่ในอายุ ที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะมายอมความไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามภาพที่ปรากฏออกไปและมีผู้ที่เอาคลิปไปลงแล้วบอกว่าเป็นเรื่องที่เป็นการขืนใจหรือข่มขืนกระทำชำเราแล้วตำรวจไม่ดำเนินคดี ข้อเท็จจริงไม่ใช่อย่างนั้นเลย ทันทีที่รับแจ้งก็ได้ไปในทันทีและดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง

โดยได้สอบปากคำแล้วมีนักจิตวิทยามาพูดคุยด้วยแล้วไม่ปรากฏว่าเป็นผู้ที่มีสติไม่สมประกอบ หรือโดนล่อลวงอะไร เป็นเรื่องของคนปกติคนหนึ่ง จึงอยากจะเรียนว่ากรณีอย่างนี้อย่าเพิ่งฟังอะไรแล้วมาสรุปว่าใครทำถูก ทำดีไม่ดี คงต้องพิจารณาจากข้อมูลข่าวสารก่อน ทางตำรวจก็ได้ไปเก็บข้อมูลไปสอบพยานแวดล้อมต่างๆ ทุกคน รวมถึงผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ในละแวกนั้นก็ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่หน่วยงานทราบแล้วก็ได้เข้าไปดำเนินการอย่างเต็มที่และทำตามระเบียบกฎเกณฑ์ทุกอย่าง

พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวอีกว่า ในกรณีดังกล่าวไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ การจะเข้าไปได้จะต้องมีหมายเข้าไปด้วย เพราะไม่ใช่พื้นที่สาธารณะที่ใครจะเข้าไปได้ เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ส่วนกรณีนี้ที่เข้าไปได้นั้นเพราะมีเหตุ มีคนแจ้งขอความช่วยเหลือ ตำรวจก็ได้เข้าไป ทั้งนี้หากเข้าไปแล้วพบเป็นเรื่องการกระทำความผิด เช่น โดนรุมโทรม ข่มขืนกระทำชำเรา จะต้องดำเนินการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่ๆ แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏไม่ใช่แบบนั้น ซึ่งทาง พม.ก็ได้ไปยืนยันแล้วว่าไม่ใช่เรื่องการขืนใจ หรือข่มขืนกระทำชำเราแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook