จ่อปลดล็อก "โฮจิมินห์" ไม่สนยอดติดเชื้อเป็นศูนย์ หวังเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

จ่อปลดล็อก "โฮจิมินห์" ไม่สนยอดติดเชื้อเป็นศูนย์ หวังเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

จ่อปลดล็อก "โฮจิมินห์" ไม่สนยอดติดเชื้อเป็นศูนย์ หวังเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นครโฮจิมินห์ ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสโควิด-19 ในเวียดนาม อาจกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนหลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดมาก่อนหน้านี้ โดยจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการคุมยอดผู้ติดเชื้อให้เป็นศูนย์ มาเป็นการใช้ชีวิตร่วมกับไวรัสแทน ทั้งนี้ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ร่างข้อเสนอซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รับมาระบุว่า นครโฮจิมินห์จะวางแผนกลับมาเปิดเมืองเป็นระยะและฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ครบภายในสิ้นปีนี้

เมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่ในนครโฮจิมินห์ลงพื้นที่เพื่อบังคับใช้กฎการล็อกดาวน์และสั่งห้ามผู้คนออกจากบ้านเพื่อชะลอยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต โดยในขณะนี้มีชาวเวียดนามเพียง 3 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด 98 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว

ร่างเอกสารดังกล่าวระบุด้วยว่า นครโฮจิมินห์ เมืองใหญ่ที่สุดของเวียดนามซึ่งมีประชากร 9 ล้านคนและเป็นเมืองศูนย์กลางด้านธุรกิจ มุ่งเป้าส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจและเดินหน้าการใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด-19 ต่อไป

ร่างเอกสารนี้ยังระบุว่า การกลับมาเปิดเมืองจะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป และจะมีการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและลดภาษีให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบด้วย

ทั้งนี้ นครโฮจิมินห์มียอดผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัส 241,110 คน ซึ่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของยอดผู้ติดเชื้อทั้งประเทศ และมีผู้เสียชีวิต 9,974 คน ซึ่งคิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้เสียชีวิตทั้งประเทศ

ยอดผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สวนทางกับแนวโน้มเมื่อปีที่แล้วที่เวียดนามสามารถควบคุมการระบาดได้ดีด้วยการสืบติดตามผู้สัมผัสเชื้อและการใช้มาตรการกักตัวอย่างเข้มงวด

กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 14,922 คน ซึ่งเป็นยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันที่สูงเป็นสถิติใหม่ ทำให้เวียดนามมีผู้ติดเชื้อแล้วรวมทั้งสิ้น 501,649 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 12,476 คน

เมื่อวันพุธ นายกรัฐมนตรีฟาม มินห์ จิญ เตือนว่า เวียดนามอาจต้องรับมือกับโรคโควิด-19 ไปอีกนานและไม่สามารถพึ่งมาตรการล็อกดาวน์และการกักตัวได้ตลอดไป

นายกรัฐมนตรีจิญกล่าวขณะเยือนโรงงานผลิตสมาร์ทโฟนของบริษัทซัมซุงที่จังหวัดท้ายเหวียนทางตอนเหนือของเวียดนาม โดยเขาขอให้บริษัทซัมซุงช่วยจัดหาวัคซีนจากเกาหลีใต้ให้เวียดนาม และรักษาการลงทุนระยะยาวในเวียดนามเอาไว้

เขากล่าวว่า บริษัทต่างชาติในเวียดนาม รวมทั้งซัมซุง สามารถ “ไว้ใจเวียดนาม” ในการรับมือกับโรคระบาดได้

ส่วนที่กรุงฮานอย ซึ่งมียอดผู้ติดเชื้อใหม่หลายสิบคนต่อวันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ทางการยังจะขยายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองออกไปหลังจากวันที่ 6 กันยายน และวางแผนจะตรวจหาเชื้อในประชากร 1 ล้านคนตั้งแต่วันนี้จนถึงวันอาทิตย์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook