นายกฯ เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน ลุยปราบธุรกิจปล่อยกู้ออนไลน์ คิดดอกเบี้ยโหด
นายกฯ เร่งแก้ปัญหาหนี้สินประชาชน ปรับเกณฑ์ให้ลูกหนี้รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อในระบบ ลุยปราบธุรกิจปล่อยกู้ออนไลน์ คิดดอกเบี้ยโหด ทวงหนี้ผิดกฎหมาย เอาผิดเจ้าหนี้โหด
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เอาผิดเจ้าหนี้โหด ช่วยเหลือเรื่องเจรจาแก้หนี้ประชาชน เพื่อให้ลูกหนี้รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อในระบบ และลดความจำเป็นของลูกหนี้ที่จะถูกผลักไปเป็นหนี้นอกระบบโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ขอความร่วมมือกับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ สศค. เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ให้กับลูกหนี้ ประกอบด้วยการลดค่างวดการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การเปลี่ยนประเภทหนี้จากระยะสั้นเป็นระยะยาว การพักชำระค่างวด การพักชำระเงินต้นและจ่ายดอกเบี้ยบางส่วน รวมถึงการพักชำระเงินต้นและลดอัตราดอกเบี้ย โดยในเดือน มิ.ย. 64 มีผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์แจ้งเข้าร่วมมาตรการ จำนวนทั้งสิ้น 288 ราย คิดเป็นจำนวนบัญชีที่ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งสิ้น 9,807 บัญชี
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เริ่มการผ่อนเกณฑ์ “สินเชื่อลูกหนี้รายย่อย” แบ่งเป็น สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับ และสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลเพื่อบรรเทาภาระการจ่ายหนี้ รวมถึงเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้เป็นการชั่วคราว ประกอบด้วย การขยายเพดานวงเงิน “บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล” กลุ่มผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท เป็น 2 เท่าของรายได้ จากเดิม 1.5 เท่า และไม่จำกัดจำนวนผู้ปล่อยสินเชื่อ จากเดิมไม่เกิน 3 ราย, คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำบัตรเครดิตที่ถูกปรับลดลงในช่วงการแพร่ระบาดก่อนหน้าเหลือร้อยละ 5 ต่อไปจนถึงสิ้นปี65, ขยายเพดานวงเงิน “สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล” เป็น 40,000 บาทต่อราย จากเดิม 20,000 บาทต่อราย และขยายเวลาการชำระคืนจากเดิมไม่เกิน 6 เดือน เป็น 12 เดือน โดยทั้ง 3 มาตรการ มีผลจนถึงสิ้นปี 65
นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยในระดับต่างๆ เพื่อผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่มีรายได้ไม่มั่นคงหรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันได้เข้าถึงแหล่งทุน โดยที่ไม่ต้องไปพึ่งการกู้หนี้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม และนายกรัฐมนตรียังได้ติดตามการปราบปรามเจ้าหนี้ผิดกฎหมายที่ปัจจุบันพบธุรกิจปล่อยกู้ออนไลน์ คิดดอกเบี้ยโหด ทวงหนี้ผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งทางตำรวจได้เข้าจับกุมและดำเนินการเอาผิดทั้งกระบวนการ อีกทั้งเมื่อ เม.ย ที่ผ่านมา ได้มีประกาศใช้พระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ พ.ศ.2564 เพื่อไม่ให้มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรมแล้ว