เตรียมออกหมายจับคนขายระเบิดปิงปองให้ม็อบ พร้อมทบทวนการตั้งตู้คอนเทนเนอร์หลังหนุ่มพุ่งชนเสียชีวิต

ตำรวจรวมแถลงสรุป #ม็อบ4กันยา พบทรัพย์สินราชการถูกทำลาย เตรียมออกหมายจับคนขายระเบิดปิงปองให้ม็อบ พร้อมเล็งเอาผิดผู้ปกครองปล่อยบุตรหลานร่วมก่อเหตุวุ่นวาย 

5 ก.ย.64 พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงสรุปภาพรวม #ม็อบ4กันยา ว่า ในส่วนของกลุ่มเยาวชนปลดแอก-redem ที่ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ ต่อเนื่องสี่แยกราชประสงค์ ไม่พบเหตุวุ่นวาย แต่ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง มีการขว้างปาสิ่งของใส่สถานที่ราชการ และเอกชน เช่นกรมดุริยางค์ทหารบก โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เสาไฟจราจร กล้องวงจรปิดกว่า 10 ตัวซึ่งเป็นทรัพย์สินของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย และกรุงเทพมหานคร จนได้รับความเสียหายหลายตัว และยังมีการวางเพลิงเผาทรัพย์ ทำลายแบริเออร์และทรัพย์สินของประชาชนทั่วไป เบื้องต้นตำรวจมีภาพหลักฐานของผู้กระทำผิดกว่า 10 คน และอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดี เพื่อขอศาลออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป

นอกจากนี้ยังเตรียมออกหมายจับ ผู้ขายระเบิดปิงปอง ยาเสพติด และอาวุธอื่นๆ ในที่ชุมนุมอีกอย่างน้อย 5 คน ที่ปรากฏคลิปว่ามีการนำของผิดกฏหมายดังกล่าวมาขายในการชุมนุมเมื่อสองถึงสามวันที่ผ่านมา

ขณะที่การดำเนินคดีการชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ดำเนินคดีไปแล้ว 176 คดี ผู้ต้องหา 660 คน จับกุมแล้ว 403 คน ในส่วนแกนนำผู้ชุมนุม ตำรวจออกหมายเรียกไปแล้ว 18 หมาย โดยมีแกนนำบางส่วนทยอยเข้าให้ปากคำบ้างแล้ว

ส่วนการชุมนุม 2 จุดในวันนี้ (5 ก.ย.64) จุดแรก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก. ลายจุด นัดจัดกิจกรรม ขับไล่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่บริเวณแยกอโศกในช่วงเย็น ส่วนอีกจุด คือ การชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่นที่บริเวณแยกดินแดง ในส่วนของการชุมนุมที่แยกอโศก ตำรวจจะมีการปรับเปลี่ยนแผนและกำลังตำรวจ ไปติดตามสถานการณ์​ ทั้งในเรื่องของการจราจร และการติดตั้งเครื่องกีดขวาง

ทั้งนี้ ตำรวจย้ำว่า การชุมนุมและการรวมตัวกันจัดกิจกรรมของคนจำนวนมากในขณะนี้มีความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.โรคติดต่อ ดังนั้น ผู้ที่ชักชวนและผู้ที่มาร่วมกิจกรรมจะมีความผิดตามกฎหมาย และย้ำเตือนถึงผู้ปกครอง ที่ปล่อยปละละเลยให้เด็กและเยาวชน ออกมาร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความวุ่นวาย จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

นอกจากนี้รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังยอมรับว่า จำเป็นต้องทบทวนการตั้งตู้คอนเทนเนอร์ขวางถนน ให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด หลังพบว่า มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนเข้าที่พักไม่ได้ รวมถึงมีผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ชนจนเสียชีวิตเมื่อคืนนี้ ซึ่งจากการสอบปากคำเพื่อนผู้เสียชีวิตบอกว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งดื่มสุราด้วยกัน ก่อนจะออกจากบ้านและมาประสบอุบัติเหตุ ทั้งนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์​ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีตำรวจจราจรกลางคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตามระเบียบ แต่เนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืด ก็จะมีการประสานกรุงเทพมหานครติดไฟเพิ่มเติม

หนุ่มวัย 50 ขี่มอเตอร์ไซค์ชนตู้คอนเทนเนอร์กั้นม็อบ ร่างติดใต้ตู้ กู้ภัยยื้อไม่ไหวเสียชีวิตสลด