โชเฟอร์สิบล้อ รอลุ้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี สภ.สามร้อยยอดจับยาบ้า 1 เม็ด

โชเฟอร์สิบล้อ รอลุ้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี สภ.สามร้อยยอดจับยาบ้า 1 เม็ด

โชเฟอร์สิบล้อ รอลุ้นคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี สภ.สามร้อยยอดจับยาบ้า 1 เม็ด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่นายโสภณ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 47 ปี ชาวบ้าน ต.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จ.ชุมพร โชเฟอร์ขับรถบรรทุกสิบล้อ หลังตกเป็นผู้ต้องหา กรณีถูก พนักงานสอบสวน สภ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ แจ้งข้อกล่าวหาครอบครองยาบ้า 1 เม็ด หลังถูกตรวจค้นและเจอของกลาง บริเวณที่วางของ ด้านข้างที่นั่งคนขับ ขณะบรรทุกยางพารา ขับผ่านถนนเพชรเกษมจาก จาก จ.ชุมพร ไปส่งลูกค้าที่ จ.ระยอง และตรวจค้นจับกุมได้ที่ด่านตรวจถาวรสามร้อยยอด ทั้งนี้นายโสภณได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ต่อมาศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 ที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด นายชำนัญ ศิริลักษณ์ ทนายความที่รับมอบอำนาจจากนายโสภณ วงศ์สวัสดิ์เปิดเผยว่า ได้ยื่นคำแก้อุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดหัวหิน มีการใช้หลักฐานสำคัญจากคลิปเสียงในการสนทนายื่นต่อสู้ หลังจากพนักงานอัยการได้ยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว และศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ยืนยันว่าหากศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จะเดินหน้าดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ทั้งหมด 7 นายยศตั้งแต่ยศพันตำรวจตรีถึงนายดาบตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุ โดยจะไม่มีการเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด

นายชำนัญ กล่าวว่า สาระสำคัญที่อัยการยื่นอุทธรณ์ระบุว่า ยาบ้าอยู่บนรถก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นตรวจค้น ถือว่ามีอยู่ในรถที่จำเลยขับมาแล้ว เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาหักล้างสามารถลงโทษได้ การค้นในรถไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ต้องค้นต่อหน้าจำเลยเพราะไม่ใช่ที่รโหฐาน ยาเสพติดที่พบจึงเป็นหลักฐานได้มาโดยชอบ ส่วนลายนิ้วมือและ ดีเอ็นเอ บนหลอดยาเสพติดของกลาง ที่ไม่พบลายนิ้วมือหรือ ดีเอ็นเอ ของจำเลยเป็นการพบหลายลายมือ และดีเอ็นเอ จำนวนมาก จึงมีของจำเลยปนอยู่ด้วย 

สำหรับเหตุผลที่ศาลชั้นต้นยกฟ้อง คดีนี้มีเหตุควรสงสัย ศาลพิเคราะห์แล้วจึงยกข้อสงสัยให้เป็นประโยชน์ของจำเลย เนื่องจากสาเหตุการค้นไม่ให้จำเลยร่วมตรวจค้นด้วยดังนั้นการยื่นอุทธรณ์คดีจึงเป็นโอกาสในการพิสูจน์ความโปร่งใสของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาในระดับประเทศนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook