ผอ.ศบค.ชุดเล็ก ยอมรับอาจเลิกใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอ สธ.เสนอมาตรการคลายล็อกเพิ่มเติม
เลขาธิการ สมช. ยอมรับมีความเป็นไปได้ที่จะยกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนจะคลายล็อกเพิ่มหรือไม่ต้องรอกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาก่อน
วันนี้ (6 ก.ย.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า ทุกอย่างเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ซึ่งนโยบายของนายกรัฐมนตรีและ ศบค. ให้มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว ซึ่งทราบดีว่าสังคมไม่สบายใจกับเรื่องนี้ ส่วนจะให้สิ้นสุดเมื่อใดต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล และ ศบค.
โดยยอมรับว่ามีกฎหมายอื่น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพยายามปรับปรุงและพัฒนา พ.ร.บ.โรคติดต่อ ให้ตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ ซึ่งหากกฎหมายนี้เสร็จสิ้นก็พร้อมที่จะมาแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ และพร้อมที่จะปรับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข พร้อมกับยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่จะไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากสถานการณ์ยังทรงอยู่ในลักษณะนี้ เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนดีพอสมควร และประชาชนเองก็มีความเข้าใจ
ทั้งนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า หากไม่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก ศบค. ก็ต้องจบภารกิจไป แต่ไม่ใช่จบหายไปจากวงจร อาจแปรสภาพเป็นระบบอื่นที่มีกฎหมายใหม่รองรับได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลกำลังพิจารณากฎหมายใหม่อยู่ ซึ่งตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันได้ เนื่องจากที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี เรารับทราบแล้วว่าอะไรคือปัญหา เพราะฉะนั้นกฎหมายทุกฉบับทางสภาและรัฐบาลต้องพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไร และกฎหมายเองต้องรองรับการแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านั้นได้ ขอประชาชนอย่าเป็นห่วงว่าหากไม่มี ศบค. แล้วจะสามารถรับมือได้หรือไม่ เนื่องจากกฎหมายใหม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
พล.อ.ณัฐพล ยังระบุอีกว่า ขณะนี้กฎหมายใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยหากระงับการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงนี้ กฎหมายเก่าที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ แต่กฎหมายใหม่นั้นสามารถรองรับสถานการณ์ได้ ด้วยประสบการณ์ในห้วงเวลาที่ผ่านมาตนคิดว่าเพียงพอ และบางทีดีกว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ด้วยซ้ำ เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีแต่ความเข้ม และเราใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นภัยอะไรก็ตาม แต่ไม่ตอบโจทย์ในทุกกรณี แต่กฎหมายใหม่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกรณีเนื่องจากได้รับการเสนอจากกระทรวงสาธารณสุขซึ่งเป็นผู้ที่ทราบเรื่องดีที่สุดว่าอะไรคือปัญหาและอะไรที่ต้องแก้ไขปัญหา แต่ พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข จะตอบโจทย์ทุกอย่าง
ทั้งนี้ หากไม่มีการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงสิ้นเดือนนี้แล้วกฎหมายใหม่ยังไม่เสร็จก็ต้องมาพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทางรัฐบาลเองก็เร่งรัดอยู่ เพราะฉะนั้นทันทีที่ พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไขแล้วเสร็จ ก็สามารถบังคับใช้ได้ทันที เหลือเพียงแค่ ศบค. ที่ต้องแปรสภาพ ส่วนจะแปรสภาพอย่างไรก็คงแล้วแต่กระทรวงสาธารณสุขและทีมงานของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าจะใช้รูปแบบ ศบค.ปัจจุบันไปประยุกต์ใช้ หรือจะใช้แบบอื่นเลย
ส่วนการประเมินว่าจะมีการคลายล็อกในการประชุมครั้งต่อไปหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้เสนอมาก่อน เนื่องจากต้องฟังนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขก่อนที่จะต้องมาหารือร่วมกับกระทรวงอื่น พร้อมย้ำว่าต้องฟังข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก
ทบทวนภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่ตลอด ยอมรับมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากแต่ไม่น่าหนักใจ
นอกจากนี้ พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากว่า ก็มีการทบทวนการทำงาน มีการประชุมแบบวันเว้นวัน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด ตนทราบว่าพบการติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 900 คน ยอมรับว่าเป็นจำนวนที่มาก แม้ว่าจะมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่ในแง่ของกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่น่าหนักใจ เนื่องจากปัจจุบันจะต้องมีการปรับใช้จาก Pandemic หรือการระบาดใหญ่ เป็น Endemic หรือ การระบาดเฉพาะถิ่น ซึ่งหลายประเทศก็ปรับมาเป็นลักษณะนั้น
เพราะฉะนั้นในอนาคตตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไม่ใช่เรื่องความเร่งด่วนสูงสุด เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าในการพิจารณามาตรการจะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต และขีดความสามารถของจำนวนเตียงที่รองรับ รวมทั้งพิจารณาลักษณะของการแพร่ระบาดด้วย หากเป็นเฉพาะจุดก็ไม่ใช่ปัญหา ซึ่งจากการรายงานในปัจจุบันขีดความสามารถยังรองรับได้อยู่
เลขาธิการ สมช. ยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ในส่วนของชื่อเลขาธิการ สมช. คนใหม่ยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดการด้านเอกสารระหว่าง สมช. และกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีขั้นตอนมากกว่าปกติ เพราะเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพ และยังต้องการเตรียมการในขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ อีกด้วย