อนุทิน ยอมรับข้อมูลผู้ป่วยถูกเจาะจริง มอบปลัด สธ. แก้ปัญหา-แจ้งความเอาผิดแฮกเกอร์

อนุทิน ยอมรับข้อมูลผู้ป่วยถูกเจาะจริง มอบปลัด สธ. แก้ปัญหา-แจ้งความเอาผิดแฮกเกอร์

อนุทิน ยอมรับข้อมูลผู้ป่วยถูกเจาะจริง มอบปลัด สธ. แก้ปัญหา-แจ้งความเอาผิดแฮกเกอร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"อนุทิน" เผยข้อมูลผู้ป่วยถูกเจาะจริง ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งนี้ที่ จ.เพชรบูรณ์ ก่อนหน้านี้ที่ จ.สระบุรี มอบหมายให้ปลัด สธ. เร่งแก้ไขปัญหาและแจ้งความเอาผิดกับแฮกเกอร์

วันนี้ (7 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับทราบกรณีการแฮกข้อมูลผู้ป่วยของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 16 ล้านคนแล้ว โดยในช่วงบ่าย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะแถลงข่าวความคืบหน้าเพิ่มเติม

เบื้องต้นตนส่งเรื่องให้ฝ่ายเทคนิคที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยได้รับรายงานว่าเหตุเกิดที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเกิดเหตุลักษณะนี้เป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกที่ จ.สระบุรี ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็ว

ขณะนี้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเร่งจัดการแก้ไขปัญหาแล้ว โดยมอบหมายไปยังศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศให้ไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด เบื้องต้นทราบว่าเป็นข้อมูลทั่วไปของคนไข้ ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความลับ ทั้งนี้ เมื่อเกิดเหตุเป็นครั้งที่ 2 จึงต้องกำชับให้ปรับการป้องกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ต่างๆ ให้รัดกุมมากขึ้น แม้จะเชื่อว่าทางโรงพยาบาลทุกแห่งเก็บข้อมูลคนไข้แบบมีลำดับชั้นความลับอยู่แล้วก็ตาม

แต่หากเป็นการเข้าสู่ระบบเพื่อลักลอบนำข้อมูลผู้ป่วยออกไปจริง จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดี และตามตัวผู้กระทำความผิดมารับบทลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด เพราะข้อมูลทุกอย่างเป็นสิทธิผู้ป่วย ตาม พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ มาตรา 7 ระบุว่า ข้อมูลด้านสุขภาพของบุคคลเป็นความลับส่วนบุคคล ผู้ใดจะนำไปเปิดเผยและอาจทำให้บุคคลเสียหายไม่ได้ นอกจากนั้น ยังอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ อีกด้วย

นอกจากนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีที่หากศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่ไปนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุขมีความพร้อมอย่างเต็มที่ แต่ต้องบูรณาการกับทุกภาคส่วน หาวิธีการทำงานมารองรับด้วย เช่น ด้านความมั่นคง การบังคับใช้กฎหมาย การสนับสนุนระหว่างหน่วยงาน โดยทั้งหมดต้องมาหารือรายละเอียดร่วมกันอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook