ช็อก สาววัย 29 เสียชีวิตหลังโดนมดตะนอยกัด แพทย์ยันคนไข้เลือดออกในสมอง มดไม่เกี่ยว

ช็อก สาววัย 29 เสียชีวิตหลังโดนมดตะนอยกัด แพทย์ยันคนไข้เลือดออกในสมอง มดไม่เกี่ยว

ช็อก สาววัย 29 เสียชีวิตหลังโดนมดตะนอยกัด แพทย์ยันคนไข้เลือดออกในสมอง มดไม่เกี่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พ่อช็อก ลูกสาววัย 29 ปวดหัวและแน่นิ่งไป หลังโดนมดตะนอยกัด แพทย์เผยคนไข้เลือดออกในสมอง เรื่องมดกัดน่าจะเป็นเหตุบังเอิญ

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวอายุ 29 ปี ถูกมดตะนอยต่อยเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ญาตินำร่างไปบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองปรือ ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงไปตรวจสอบที่วัดซึ่งเป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลพบญาติพี่น้องกำลังช่วยกันจัดเตรียมสิ่งของถวายพระที่จะมาสวดอภิธรรม

จากการสอบถามนายสมเดช สนธิเณร อายุ 67 ปีชาวบ้านหมู่ 7 ตำบลสระแก้ว อำเภอเมืองสุพรรณบุรี พ่อของ น.ส.รัชดา อายุ 29 ปี ผู้เสียชีวิต เล่าว่าลูกสาวทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.พลับพลาไชย อำเภออู่ทอง ก่อนเกิดเหตุช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน ซึ่งเป็นวันหยุดผู้เสียชีวิตได้เลี้ยงหลานสาววัย 1 ขวบเศษซึ่งเป็นลูกของพี่ชาย อยู่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวขณะกำลังหยอกล้อกับหลานน้อยอยู่นั้น จู่ๆ ผู้เสียชีวิตก็ร้องเสียงดังว่ามดกัดที่ข้อพับ จึงช่วยกันดูก็พบว่ามีมดตะนอยสีดำกัดติดอยู่จึงฆ่าทิ้ง จากนั้นไม่นานก็มีผื่นแดงนูนขึ้นที่บริเวณมดกัดเห็นได้อย่างชัดเจน จึงหายามาทา

กระทั่งช่วงเย็นผู้เสียชีวิตบอกว่าปวดหัว จึงหายาพาราเซตามอลมาให้รับประทาน 2 เม็ด จากนั้นได้รับประทานอาหารเย็นเสร็จก็เข้านอนได้ประมาณ 5 นาที ผู้เสียชีวิตก็นิ่งไป ภรรยาตนได้ไปเรียกปลุกแต่ไม่รู้สึกตัว จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช และนำเข้าห้องฉุกเฉินทำการตรวจเอ็กซเรย์ ก่อนจะนำตัวขึ้นไปรักษา ระหว่างที่อยู่ในห้องรักษานั้นตนไม่ได้อยู่ดูอาการใกล้ชิดเนื่องจากทางโรงพยาบาลห้าม เนื่องจากมีคนติดเชื้อโควิด 19 จำนวนมาก ตนจึงได้แต่เฝ้ารอฟังข่าวลูกอยู่ด้านนอกด้วยความเป็นห่วง

กระทั่งเวลาประมาณตีห้ากว่าก็ได้รับแจ้งข่าวร้ายว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว ตนรู้สึกตกใจและเสียมากที่ลูกสาวเสียชีวิตเร็วเกินไป ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าเส้นเลือดก้านสมองแตก หมอรักษาไม่ทัน ซึ่งลูกสาวตนเป็นคนอ้วนน้ำหนักเกือบ 100 กิโล ประกอบกับมีโรคประจำตัวคือโรคความดัน ตนเชื่อว่าสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเกิดจากมดตะนอยกัดจนนำไปสู่การเสียชีวิต อยากฝากเตือนคนที่มีบ้านเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกติดกับพื้น ให้ระวังสัตว์มีพิษทั้ง งู ตะขาบ แมลงป่อง รวมถึงมดตะนอย ตัวเล็กๆ เข้ามาในบ้านซึ่งสัตว์เหล่านี้สามารถกัดและทำให้คนเสียชีวิตได้

ทางด้านนายแพทย์พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เปิดเผยว่ากรณีที่มีผู้ป่วยถูกมดตะนอยกัดมารักษาตัวที่โรงพยาบาลและเสียชีวิตนั้นคนไข้เป็นหญิงอายุ 29 ปี มีประวัติ มีโรคประจำตัวคือโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน รักษาตัวไม่ค่อยสม่ำเสมอ จากการสอบถามทราบว่าคนไข้มีอาการชักเกร็ง เนื่องจากปวดหัวมากก่อนมาโรงพยาบาลคนไข้ได้รับประทานยาพาราเซตามอล แล้วอาการไม่ดีขึ้นมาถึงโรงพยาบาล วัดความดันสูงถึง 140 ตัวบน ตัวล่าง 120 เบื้องต้น สันนิษฐานว่าน่าจะมีเลือดออกในสมอง จึงทำการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์พบว่ามีเลือดออกในสมองค่อนข้างมาก ทำให้ไม่สามารถรักษาได้ทันเวลาและยังพบว่ามีภาวะสมองตายจึงทำให้เสียชีวิต ส่วนเรื่องมดตะนอยกัดแล้วเสียชีวิตคิดว่าไม่เกี่ยวกัน เพราะว่าจากรายงานในประเทศไทยยังไม่มี ว่ามีมดที่พิษร้ายแรงขนาดนั้น อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกัน

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นสันนิษฐานว่าเกิดจากภาวะความดันโลหิตสูง และเส้นเลือดในสมองแตก จึงฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าถ้าเรามีโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานโรคเรื้อรังต่างๆ ควรรับยาให้สม่ำเสมอ หมั่นวัดความดันให้สม่ำเสมอเมื่อมีอาการปวดหัวไม่สบายสงสัยว่าตัวเองจะมีอาการความดันโลหิตสูงให้วัดความดันด้วยตัวเองก่อน ถ้าพบว่ามีความดันสูงเกิน 200 ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันทีอย่าปล่อยทิ้งไว้นาน ส่วนสัตว์ที่กัดหรือต่อยแล้วเสียชีวิตพบว่ามีรายงานอยู่ประปรายเช่น ผึ้ง ตัวต่อ แมลงป่อง หรือตะขาบ ซึ่งอาการแพ้คนไข้จะมีอาการบวม ที่ตา จมูก ก็จะหายใจไม่ออกเนื่องจากมีอาการบวมมาก อากาศเข้าสู่ปอดไม่ได้ก็จะทำให้เสียชีวิตได้

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook