กทม.พร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กกลุ่มเสี่ยง-โรคเรื้อรัง อายุ 12-18 ปี เริ่มตั้งแต่ 21 ก.ย.นี้
กทม.ประกาศพร้อมฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12 - 18 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงและมีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 6-8 ก.ย.นี้
วันนี้ (7 ก.ย.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครกำลังเตรียมความพร้อมในการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกให้กับนักเรียนกลุ่มเสี่ยงสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยประชาสัมพันธ์แจ้งโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ทั้ง 437 โรงเรียน เพื่อให้เด็กนักเรียนที่มีอายุตั้งแต่ 12 - 18 ปี (กลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง) เข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์กับมหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. 64 โดยให้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ผ่าน QR Code ตั้งแต่วันที่ 6 - 8 ก.ย. 64
ซึ่งนักเรียนที่จะได้รับการฉีดวัคซีนต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ โดยมีเอกสารที่ระบุการเจ็บป่วย เช่น ใบรับรองแพทย์ หรือใบนัดตรวจสถานพยาบาล หรือใบรับรองความพิการ หรือใบรับรองหรือเอกสารใดๆ ที่ระบุว่ามีการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังตามเกณฑ์ที่กำหนด
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ได้ทำการสำรวจข้อมูลนักเรียนในสังกัดที่มีอายุระหว่าง 12 - 18 ปี ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนเกี่ยวกับการรับวัคซีน โดยสำรวจผู้ที่มีภาวะเสี่ยงและผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ดังนี้
ผู้ที่มีภาวะเสี่ยง
- กลุ่มอายุ 12 - 13 ปี น้ำหนัก 70 กิโลกรัม
- กลุ่มอายุ 13 - 15 ปี น้ำหนัก 80 กิโลกรัม
- กลุ่มอายุ 15 - 18 ปี น้ำหนัก 90 กิโลกรัม และ
ผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่
- โรคอ้วน ที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากภาวะทางเดินหายใจอุดกั้น
- โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง รวมทั้งหอบหืดที่มีอาการปานกลางหรือรุนแรง
- โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคไตวายเรื้อรัง
- โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ
- โรคเบาหวาน
- กลุ่มโรคพันธุกรรม รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการช้า
นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครโดยสำนักอนามัยได้ดำเนินการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนการให้บริการฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12 - 18 ปี ทุกสังกัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยจะมีการประชุมหารือแนวทางร่วมกันในวันที่ 9 ก.ย. 64 ซึ่งคาดว่าจะมีการวางแผนร่วมกันตั้งแต่การสำรวจกลุ่มเป้าหมายนักเรียนและผู้ปกครองถึงความประสงค์ให้เข้ารับวัคซีนโควิด-19 การจัดหน่วยสาธารณสุขเพื่อให้บริการฉีดวัคซีน การติดตามอาการภายหลังได้รับวัคซีน และการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและการเตรียมตัวเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในกลุ่มเด็กนักเรียนอายุระหว่าง 12-18 ปี เนื่องจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับนักเรียนจะต้องดำเนินการควบคู่กับมาตรการป้องกัน และเฝ้าระวังโรคในสถานศึกษาด้วย