สุดเดือด! ศรีสุวรรณลั่น กระสุนยิงแล้วไม่ย้อนกลับ พระมหาสมปองบอก มันจะไปตกบ้านพี่ศรีเอง
“ศรีสุวรรณ” ปะทะเดือดทนายฝั่ง “เสรีพิศุทธ์” ปมร้องสอบจริยธรรมร้ายแรง ลามเรื่องเงินบริจาค! เจ้าตัวประกาศไม่สนฉายานักร้อง
กรณี “ศรีสุวรรณ จรรยา” เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือร้องเรียน ป.ป.ช. สอบจริยธรรมร้ายแรง “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” ก่อนถูกทนาย “อนันต์ชัย ไชยเดช” ทนายความชื่อดังโพสต์ว่าได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ดำเนินการฟ้องร้องอีกฝ่ายในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
รายการโหนกระแสวันที่ 10 ก.ย. 64 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ ศรีสุวรรณ เพื่อเคลียร์ทุกประเด็น เผชิญหน้า ทนายอนันต์ชัย ตัวแทน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ และ “พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต” มาร่วมพูดคุยในรายการ
ถามก่อนเลย รู้สึกยังไงกับฉายานักร้อง?
ศรีสุวรรณ : ไม่รู้สึกอะไร ถือเป็นเรื่องปกติ ที่สังคมอาจตั้งฉายาให้ผม เหมือนนักการเมืองทั่วไป
ชอบไหมฉายายอดนักร้อง?
ศรีสุวรรณ : ไม่ รู้สึกเฉยๆ มากกว่า ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไร อยากเรียกก็เรียกไป ไม่ได้ตำหนิติเตียนอะไรใคร
น้อยใจไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่มีคำว่าน้อยใจ
ไปร้องอะไรท่านเสรีพิศุทธ์?
ศรีสุวรรณ : จริงๆ เรื่องท่านเสรีพิศุทธ์ เป็นเรื่องที่สื่อมวลชนได้นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง กรณีที่มีข่าวว่าท่านบุกรุกถมแม่น้ำแคว ทำรีสอร์ตของท่าน เรื่องนี้หน่วยงานกรมเจ้าท่าก็ทำหนังสือให้ท่านรื้อถอนออกไป ท่านก็ไม่ได้รื้อถอน ก่อนนำความไปฟ้องศาลปกครองว่ากรมเจ้าท่าใช้อำนาจโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ศาลปกครองมีคำพิพากษาในศาลชั้นต้น จนศาลปกครองสูงสุดยกฟ้อง ประเด็นมีแค่นี้ เมื่อยกฟ้องก็ไปดูว่า ถ้าเช่นนั้นการกระทำของอดีตผบ.ตร. น่าจะเป็นความผิด ก็เลยนำความไปร้องป.ป.ช.
ไปร้องทำไม ต้องการอะไร?
ศรีสุวรรณ : ในฐานะท่านเสรีพิศุทธ์เป็นนักการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง นักการเมืองต้องเป็นตัวอย่าง แบบอย่างที่ดีให้สังคมไม่กระทำการใดๆ ที่อาจขัดกับกฎหมาย ก็เท่านั้นเอง ผมไปร้องให้หน่วยงานทำหน้าที่ติดตามตรวจสอบ ตามอำนาจหน้าที่
ธงคืออะไร ให้ท่านหยุดการเป็นส.ส.?
ศรีสุวรรณ : โดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับมาตรฐานทางจริยธรรม เมื่อมีกรณีนักการเมืองหรือข้าราชการระดับสูงไปกระทำความผิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับจริยธรรม ก็เป็นอำนาจของป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนสืบสวน และวินิจฉัย ถ้าพบว่าเป็นความผิดก็ชี้มูลและส่งเรื่องให้ศาลพิพากษาเป็นไปตามครรลอง
อยากให้โทษไปถึงขั้นไหน?
ศรีสุวรรณ : ขึ้นอยู่กับศาล ศาลอาจมีคำพิพากษาลงโทษและให้เว้นวรรคทางการเมือง
เว้นวรรคเหมือนคุณปารีณา?
ศรีสุวรรณ : ถูกต้องครับ
จุดจบท่านเสรีพิศุทธ์อยากให้เหมือนคุณปารีณาถ้าผิดจริง?
ศรีสุวรรณ : ถ้าศาลท่านวินิจฉัยก็อยากให้เป็นเช่นนั้น
ทราบไหมวันนี้ถูกฟ้องกลับ 10 ล้าน?
ศรีสุวรรณ : เพิ่งทราบเมื่อวาน ผู้สื่อข่าวโทรมาบอกว่าท่านทนายโพสต์เฟซบุ๊กว่าจะฟ้องผมวันนี้ ผมก็ไม่ได้ตกใจอะไร ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา ผมฟ้องคนอื่น ก็ไม่แปลกใจที่คนอื่นฟ้องบ้างเป็นเรื่องปกติ
หวั่นใจไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่หวั่นใจ ผมขึ้นโรงขึ้นศาลไม่ใช่น้อยแล้ว ท่านอนันต์ชัยกับผมก็รู้จักกันดี เคยเห็นหน้ากันหลายครั้ง ท่านก็ทำหน้าที่ในฐานะทนายของท่านไป ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรไปว่ากันในชั้นศาลเท่านั้นเอง
พี่อนันต์ชัย ตัวแทนท่านเสรีพิศุทธ์ มองยังไง?
อนันต์ชัย : ไม่ได้ชวนทะเลาะนะ แต่อยากถามว่าท่านศรีสุวรรณ จบกฎหมายไหม เป็นทนายไหม
ศรีสุวรรณ : ผมจบกฎหมาย จบนิติศาสตร์ จากรามคำแหง
อนันต์ชัย : งั้นจะไม่ต้องเตือนอะไร เพราะคำพูดของเขาจะใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลหมด
พี่กลัวไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่กลัวครับ ถ้อยคำของผมทุกคำพูดจากข้อเท็จจริง
อนันต์ชัย : งั้นขอถามว่าสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ผมดูแล้วมีทั้งหมดประมาณ 8 ข้อ เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญหมด แต่ไม่เห็นว่าตัวไหนเกี่ยวกับเรื่องชาวบ้าน อย่างเช่นเรื่องพระมหาสมปอง พระมหาไพรวัลย์ท่านก็ไปร้องหมด สมาคมท่าน วัตถุประสงค์ท่านคือเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ แล้วรัฐธรรมนูญนี้มันผิดเพี้ยน ท่านไม่เห็นไปร้องเลย แต่พอเป็นชาวบ้าน พระออกมาให้ความรู้ เทศนาแบบพระมหาสมปอง พระมหาไพรวัลย์ ผมก็ไม่เห็นผิดตรงไหน ท่านก็ไปร้องอีก แล้วเรื่องท่านเสรีพิศุทธ์ ท่านรู้ไหมว่าวันที่ท่านไปร้องที่ดินตกเป็นของใคร ท่านรู้เปล่า
ศรีสุวรรณ : ไม่ทราบ
อนันต์ชัย : ท่านเสรีพิศุทธ์เป็นนักการเมืองปี 62 แล้วที่ดินแปลงพิพาทท่านรู้ไหมปัจจุบันเป็นของใคร
ศรีสุวรรณ : ผมไม่ทราบ ผมยึดถือคำพิพากษา คำสั่งศาลปกครองสูงสุดเป็นที่ตั้ง
อนันต์ชัย : ที่ดินแปลงพิพาท 7783 ท่านเสรีโอนให้บุตร 13 ต.ค. 2557 ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นนักการเมืองเลย ท่านเป็นนักการเมือ งก.ย. ปี 62 แล้วท่านร้องจริยธรรมตัวนี้ใช่ไหม ข้อ 7, 11, 27(2) ผมถามว่าในข่าวท่านบอกว่าการกระทำของพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์อาจเข้าข่ายผิดจริยธรรม แต่อันนี้ออกเมื่อปี 61 แล้วท่านบอกที่ดินแปลงนี้โอนไปแล้วเมื่อปี 57 ตอนท่านไปขอถมหิน ขอในฐานะราษฎรธรรมดา ไม่ใช่นักการเมือง ที่ผมพูดถึงก่อนถึงจุดรุกล้ำ มันเข้าเงื่อนไขหรือเปล่าที่คุณไปร้อง
เข้าหรือเปล่า?
ศรีสุวรรณ : ผมไปร้องก็ต้องตีความว่าเข้าเงื่อนไข
อนันต์ชัย : คุณตีความเองไง
ศรีสุวรรณ : ส่วนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ต้องให้ศาลตัดสิน
อนันต์ชัย : ฉะนั้นคนเคยกระทำความผิดแล้วกลับใจ ถ้าเป็นนักการเมืองก็ใช้จริยธรรมย้อนหลังได้เหรอครับ นี่ 61 นะ
ศรีสุวรรณ : ถูกต้อง
อนันต์ชัย : ย้อนหลังไปปี 44 ใช่ไหม
ทางทนายอนันต์ชัย บอกว่าคุณศรีสุวรรณ ร้องย้อนหลังมันไม่ได้ เพราะท่านเสรีพิศุทธ์เป็นนักการเมืองปี 62 แต่ที่ดินแปลงนี้ซื้อมาและโอนไปแล้ว?
อนันต์ชัย : ท่านซื้อมาปี 35 ตอนปี 44 ท่านขออนุญาตถม แล้วโอนให้บุตรปี 57 เหตุการณ์เกิดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
หลังจากนั้นท่านมาเป็นนักการเมืองปี 62 พี่ศรีสุวรรณไปร้องท่านว่าท่านขาดจริยธรรมก่อน 61 แต่ 62 ท่านเพิ่งเป็นนักการเมือง?
ศรีสุวรรณ :โดยรายละเอียดคงพูดมากไม่ได้ แต่ ณ วันนี้อยู่ในการบังคับใช้ในสถานการณ์ปัจจุบัน ผมไม่สามารถไปหยิบเอามาตรฐานจริยธรรมเมื่อปี 40 หรือปี 50 มาใช้ในขณะนี้ได้เพราะถูกยกเลิกไปแล้ว ขณะนี้มาตรฐานจริยธรรมฉบับปี 61 บังคับใช้อยู่ ผมก็ต้องหยิบมาใช้ในการร้องเรียนของผม ไม่งั้นรัฐธรรมนูญเรามีเกือบ 20 ฉบับ เหตุเกิดเมื่อ 30 ปีที่แล้วผมก็ไปเอารัฐธรรมนูญฉบับเก่าโน้นมาร้องเรียนก็คงไม่ใช่
ถ้าโดน 10 ล้านทำไง?
ศรีสุวรรณ : ฟ้องกี่ล้านก็สิทธิของท่านอยู่แล้ว จะฟ้องสิบยี่สิบล้าน ร้อยล้านพันล้านหมื่นล้านถ้ามีเงินไปจ่ายค่าธรรมเนียมศาลก็ฟ้องได้เลย
ไม่กลัวเหรอ?
ศรีสุวรรณ : ผมบอกตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมมายืนอยู่ถนนการร้องเรียน ย่อมรู้ตัวเองมาโดยตลอด คำว่ากลัวสำหรับคนชื่อศรีสุวรรณ ไม่มี
อนันต์ชัย : ก่อนไปถึงจุดนั้น ท่านบอกประชาชนว่าท่านจบกฎหมาย กฎหมายมีผลย้อนหลังได้เหรอ จริยธรรมตัวนี้กับที่ท่านให้สัมภาษณ์ ตอบให้ประชาชนฟังว่ามีผลย้อนหลังใช่ไหม
ศรีสุวรรณ : ผมยืนยันว่าผมใช้มาตรฐานปัจจุบัน
อนันต์ชัย : ตอบให้ตรงประเด็นสิ
ศรีสุวรรณ : ผมมีสิทธิ์จะตอบหรือไม่ตอบคุณก็ได้ คุณไม่จำเป็นต้องมาไล่กับผมว่าต้องตอบยังไงกับคุณ
อนันต์ชัย : คุณไม่กล้าตอบไง ผมถามตรงประเด็นเลย
ศรีสุวรรณ : ข้อเท็จจริงไปว่ากันในศาลดีกว่า คุณไม่ต้องทำเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ต่อหน้าสื่อมวลชน ผมก็บอกแล้วว่าผมใช้มาตรฐานจริยธรรมปี 61 มาร้องเรียน
อนันต์ชัย : บ้านผมเรียกว่าลูกอีช่างฟ้อง คนเขารู้ทั้งประเทศ ฟ้องดะ เดือดร้อนไปหมด แล้ววัตถุประสงค์ของคุณไม่เกี่ยวกับชาวบ้านเลย
ศรีสุวรรณ : อ่านให้ครบสิ
อนันตชัย แล้วดูหัวจั่วนะ โอ้โห กับพระเกี่ยวหรือเปล่า
ศรีสุวรรณ อ่านให้ครบ 8 ข้อสิ
อนันต์ชัย : แล้วดูนะ จั่วหัวพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กับพระคุณเกี่ยวหรือเปล่าเห็นคุณร้องหมดร้องทุกวัน คุณตอบประเด็นนี้ยังไม่ขาดว่ามีผลย้อนหลังหรือเปล่า คุณก็ไม่ตอบ
ท่านเสรีพิศุทธ์มอบหมายพี่ฟ้อง 10 ล้าน ไม่มีการลดราวาศอก?
อนันต์ชัย : ไม่มีทาง สไตล์ท่านเสรีพิศุทธ์ก็เหมือนผม ผมเป็นทนายท่านมา 20 ปี เรื่องภูไพรธารน้ำ เป็นเรื่องตั้งแต่สมัยท่านเป็นผบ.ตร. ผมเป็นคนทำคดีนี้เอง ผมรู้เนื้อเรื่องคดีหมด คดีเก่าๆ ถ้าเปิดกูเกิ้ลเก่า ผมแถลงภูไพรธารน้ำ ตั้งแต่ปี 51 - 52
ศึกหนักไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่หนัก สู้กันไปตามครรลองกฎหมาย ไม่มีอะไรน่าหนักใจสำหรับคนชื่อศรีสุวรรณ
ทำไมชอบไปฟ้อง?
ศรีสุวรรณ : ผมทำเรื่องนี้มาเป็นปกติ จนเป็นวิสัยของผม ตอนเรียนแม่โจ้ ผมก็นำนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัย ปิดถนนประท้วงขับไล่ท่านผู้ว่าฯ ผมออกมาไม่เคยรับราชการ ไม่เคยมีความประสงค์อยากรับราชการ ผมก็ทำหน้าที่เป็น Ngo มาเกือบ 30 ปี ผมเคลื่อนไหวรณรงค์โน่นนี่ กระทั่งเรียนจบกฎหมายอีกใบก็ทำหน้าที่ตรวจสอบนักการเมือง ทำเป็นเรื่องปกติของผม ส่วนใครจะว่าเป็นนักร้องก็เรื่องของเขา ผมไม่ได้ไปขอข้าวเขากินนี่
พระมหาสมปองว่าไง?
พระมหาสมปอง : เจริญพร เรื่องอะไรครับ (หัวเราะ) ฟังอยู่ เมื่อวานก่อนเข้ารัฐสภาก็มีคนจะต่อย ก็ไปห้ามอยู่ว่าโยมใจเย็นๆ อันนี้เขาคุยด้วยเหตุด้วยผล อาตมาอยากให้เวลารายการเหลือน้อยที่สุดจะได้พูดเรื่องอาตมาน้อยที่สุด
เขามีการไล่ ในเดือนนึงพี่ไปร้องเป็นสิบๆ คน พี่ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหม?
ศรีสุวรรณ : ถ้าเอาทุกเรื่อง วันๆ นึงเป็นสิบๆ เรื่อง เพียงแต่ว่าเรื่องไหนพอมีข้อมูล เป็นประเด็นสำคัญก็หยิบยกไปร้องเรียนเท่านั้นเอง
เช็กก่อนไหม?
ศรีสุวรรณ : ต้องดูข้อเท็จจริงเบื้องต้น ไม่ใช่สุ่มสี่สุ่มห้าไปร้อง
โฟนอิน “ท่านเสรีพิศุทธ์” ตอนนี้นั่งอยู่กับคู่กรณีท่านที่ไปร้องท่าน ฝั่งพี่ศรีสุวรรณ?
เสรีพิศุทธ์ : ใครก็ไม่รู้
ท่านฟ้อง 10 ล้านแน่นอน?
เสรีพิศุทธ์ : แน่นอน แต่บอกให้สบายใจ ศาลไม่ให้ถึงขนาดนั้นหรอก
พี่ศรีมีอะไรอยากถามท่านเองไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่มีอะไรจะถามท่านครับ
พี่จะฟ้องกลับท่านด้วย?
ศรีสุวรรณ : ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน ตอนนี้ยังไม่ได้รับทราบหมายเลย ว่าร่างฟ้องมาเป็นอย่างไร
ถ้าท่านฟ้องมา ไม่ตรงข้อเท็จจริง พี่ศรีจะฟ้องกลับ?
เสรีพิศุทธ์ : จะมีอะไรฟ้องผม ผมฟ้องตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่สักแต่พูด โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมไม่ได้ฟ้องเท็จนี่ ไม่รู้จบกฎหมายจากไหน
พี่ศรีขึ้นในเพจของแกว่าอดีตผบ.ตร. ให้ทนายยื่นฟ้องปิดปาก คิดว่าคนอย่างผมจะกลัวหรือ ฝันไปเถอะ ฟ้องมาก็ฟ้องกลับ คนละหมัดชัดเจนดี?
เสรีพิศุทธ์ : มันไม่ได้ฟ้องปิดปากหรอก ใครทำผิดก็ต้องรับผิดไป องค์กรพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยปล่อยให้เขาปฏิวัติ ไม่ทำหน้าที่ตัวเองเลย ปล่อยให้เขายึดอำนาจ ไม่ทำตามรัฐธรรมนูญไม่เห็นสนใจเลย องค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยตรวจสอบทุจริตโกงเลือกตั้ง โหย โกงเลือกตั้งกันทั้งประเทศ ไม่เห็นทำเลย ไอ้หน้าที่หลักไม่ค่อยจะทำ
ศรีสุวรรณ : ท่านพูดอะไรก็รับผิดชอบคำพูดของท่านไป ผมไม่ต่อความยาวสาวความยืด เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องที่ท่านนำคดีขึ้นสู่ศาลแล้ว การพูดออกไปกระทบกระเทือนต่อการทำคดีในศาลได้ ถ้าอยู่กับสองต่อสอง พูดกันได้ปกติอยู่แล้ว ต่อสาธารณะยืนยันตั้งแต่ต้นว่าคดีนี้ท่านได้ยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว คำพูดของท่านหรือผม ถ้าพูดอะไรไปอาจนำไปใช้ในชั้นศาลได้ ผมคิดว่าอาจไม่เหมาะสม เท่านั้นเอง
มีอะไรอยากฝาก?
เสรีพิศุทธ์ : ก็ไปดูหน้าที่ตัวเองให้ดีแล้วกันว่ามีหน้าที่อะไร แล้วขอให้ทำตามนั้น ที่รับบริจาคเงินบริจาค เข้าบัญชีถูกต้องไหม ไปตรวจสอบดูด้วย อย่าเอาไปใช้ส่วนตัวก็แล้วกัน เดี๋ยวจะตรวจสอบเอง
จะร้องบ้าง?
เสรีพิศุทธ์ : ไม่ต้องร้อง ผมมีหน้าที่อยู่แล้ว
ศรีสุวรรณ : สมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไม่เคยรับบริจาคใครทั้งสิ้น
เสรีพิศุทธ์ : ไม่รู้ ผมเคยเห็น
พระมหาสมปอง มีอะไรอยากเคลียร์ใจพี่ศรีไหม พี่อย่าหาว่าผมเอาทุกคนมารุมพี่นะ ทุกคนแค่อยากรู้ว่าพี่ไปร้องเพราะอะไร?
ศรีสุวรรณ : ไม่เป็นไร
พระมหาสมปอง : ตอนนี้ไปเรียนกฎหมายอยู่ เราอยากให้ทุกอย่างจบด้วยสันติ ที่แซวว่าเดี๋ยวไปฉันกาแฟ คนเราได้คุยกันจะรักกัน อย่างน้อยก็ไม่เกลียดกัน
ฉันกาแฟได้ แต่เอกสารดึงกลับไหม?
ศรีสุวรรณ : ผมตอบไปแล้ว
กระสุนลั่นแล้วไม่มีทางกลับมา?
ศรีสุวรรณ : ครับ
พระมหาสมปอง : มันจะไปโดนบ้านโยมพี่ศรี เพราะอาตมากำลังจะไปบ้านโยมพี่ศรีพอดี เจริญพร
ท่านบอกว่าพี่ยิงปืนมาปัง! จะไปตกบ้านพี่ เพราะท่านกำลังนั่งฉันกาแฟที่บ้านพี่?
ศรีสุวรรณ : ต้องไปคุยกันนอกรอบ
พระมหาสมปอง : พรุ่งนี้นัดท่านเสรีพิศุทธ์ ท่านชอบให้กำลังใจเวลาอาตมามีประเด็น ได้ข้อคิดจากฝั่งผู้ใหญ่ด้วย
อนันต์ชัย : อยากเสริมท่านพระมหาสมปอง ปกติผมไหว้พระสวดมสต์ เวลาสวดมนต์ตอนเช้า ขอขมากรรมพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราไม่ทราบหรอกว่าสงฆ์เป็นยังไง พระพุทธเจ้าเป็นยังไง ทุกครั้งที่สวดมนต์ต้องขอขมากรรมพระสงฆ์ก่อน ทำให้จิตใจเราบริสุทธิ์ ผมบวชมา 4 ครั้ง ผมจึงไม่ติเตียนสงฆ์ รู้ก็เฉยๆ ไม่รู้ก็เฉยๆ การที่ไปติท่านกรรมหนัก ยิ่งไปร้องพระยิ่งกรรมหนักมหาหนัก
ศรีสุวรรณ : ถ้าเรารู้แล้ววางเฉย ปล่อยให้คนบวชพระทำผิดวินัยสงฆ์ เป็นที่ติเตียนของคนทั่วไป เป็นสิ่งไม่ดีไม่ถูกต้อง เราเป็นพุทธศาสนิกชน เมื่อพบเห็นสิ่งไม่ถูกไม่ต้องก็ออกมาเตือนท่าน ผมเป็นนักร้องก็ต้องร้องให้หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงคือมหาเถรสมาคม สำนักพุทธฯ
โทรไปหาท่านเตือนเองได้ไหม?
ศรีสุวรรณ : ผมไม่มีเบอร์โทรศัพท์ ผมก็เตือนผ่านคำร้องเรียนของผม ผิดไม่ผิดอย่างไรคนมีหน้าที่โดยตรง เขาจะมีระเบียบ กฎหมายตามมติมหาเถรสมาคม ให้ดำเนินการ ก็เท่านั้นเอง
อนันต์ชัย : ปกติโดยหลักคนเราการไปเที่ยวร้องเขาไปทั่ว คนถูกร้องจริงไม่จริงไม่รู้ เท็จไม่เท็จไม่รู้แต่เขาเดือดร้อน เพราะเขาไม่ใช่นักร้อง อย่างคดีของผม จะออกอะไรจากปาก จะทำคดี หรือเขียนบนเพจสักครั้ง ผมมีทีมงานกลั่นกรองก่อนว่ากระทบสิทธิ์ใครไหม การทำคดีเราไม่ใช่รวบรวมพยานหลักฐานแค่ 3 วัน เห็นเรื่องปุ๊บร้องเลย ข้อเท็จจึงมันลึกกว่านั้น ข้อกฎหมายใช่แต่ข้อเท็จจริงไม่ใช่ อะไรก็ตามที่ไม่ใช่เรื่องของผม ผมจะปฏิเสธ จะไม่เห็นผมหน้าสื่อเลย ในการไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน เวทีร้องเป็นของเขา แต่เวทีศาลเป็นของผม แล้วไปเจอกันในศาล จะรู้ว่านรกมีจริงหรือเปล่า
พี่ไม่รู้สึกเหรอคนบอกว่าศรีเอาอีกแล้ว?
ศรีสุวรรณ : เหรียญมีสองด้าน มีกลางคืน มีกลางวัน คนตำหนิผมมีเยอะแยะทั้งแผ่นดิน คนชมผมก็เยอะแยะทั้งแผ่นดินเหมือนกัน แล้วแต่จะเลือกเสพสิ่งไหน ผมก็ทำหน้าที่ปกติและทำต่อไป ไม่เห็นต้องไปฟังเสียงนกเสียงกาอะไรเลย
บางคนมองเป็นสีสัน?
อนันต์ชัย : ผมมองไม่ใช่ เป็นความเดือดร้อนของประชาชนและพระ เจ้า
ศรีสุวรรณ : แล้วแต่มุมมองทนายอนันต์ชัย
อนันต์ชัย : ผมมีความสงสัย อย่าหาว่าละลาบละล้วง เมื่อปี 60 มีการโพสต์ออกมาว่าท่านศรีสุวรรณเคยถูกศาลปกครองกลางสั่งละเมิดอำนาจศาล และมีการเรี่ยไรเงินไปคนละ 5 หมื่นบาท 7 แสนบาทไปเสียค่าปรับ จริงไหม
ศรีสุวรรณ : ผมโพสต์ครับ ตอนนั้นผมหมิ่นศาลปกครอง มีคำสั่งว่าผมหมิ่นอำนาจศาล และปรับผมจำไม่ได้ว่า 14 หรือ 15 คดี ประเด็นสำคัญคือว่าคดีนึงก็ 5 หมื่นบาท ใช้ทั้งหมด 7 แสน ผมโพสต์ว่าผมถูกศาลต้องคำสั่งละเมิดอำนาจศาล ก็เลยขอความช่วยเหลือจากมวลมิตรของผม มีคนวิ่งเอาเงินไปให้ที่ศาล
อนันต์ชัย : ขอบริจาคทางเฟซบุ๊ก
ศรีสุวรรณ : ก็โพสต์อยู่ในเฟซบุ๊กด้วย และมีการวิ่งไปหาที่ศาลด้วย
อนันต์ชัย : ขออนุญาตแชร์ได้ไหม
ศรีสุวรรณ : ไม่อนุญาตให้แชร์
โกรธไหม?
ศรีสุวรรณ : ไม่โกรธเลย เขาก็ทำหน้าที่ทนายของเขา เป็นเรื่องปกติธรรมดา
เรื่องพระมหาสมปองจบ?
ศรีสุวรรณ : ก็จบ ไม่มีอะไร ก่อนเข้าสตูฯ ก็พูดกันด้วยมิตรภาพ
ใส่บาตรได้ไหม?
พระมหาสมปอง : ได้สิ
แต่ท่านบิณฑบาตหรือเปล่าตอนเช้า?
พระมหาสมปอง : เราอ่ะ (หัวเราะ)
เรื่องนี้ยังไงก็ไม่จบ?
อนันต์ชัย : ไปจบที่ศาลครับ เดี๋ยวจะมีหมายเรียกไปป.ป.ช. ถ้าได้หมายศาลมาจะฟ้องอีก แจ้งความเท็จอีกกระทง
หนักแล้วนะ?
ศรีสุวรรณ : ไม่เป็นไร
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ