กทม.เอาจริงทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองปรับ 1 พัน
กทม.รุกต่อ 1 ธ.ค.นี้ ทิ้งขยะลงคลอง เจอปรับพันบาท กทม.ใช้เทศกิจ-หน่วยลาดตระเวนทางน้ำคุมเข้มเรื่องสะอาด
(4พ.ย.)นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าฯกทม. ได้ลงพื้นที่ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง เขตบางกะปิ เพื่อแจกแผ่นพับรณรงค์และขอความร่วมมือประชาชนไม่ทิ้งขยะในที่สาธารณะและแม่น้ำ ลำคลอง ตามโครงการไม่ทิ้ง ไม่จับ ไม่ปรับ พร้อมกล่าวว่า กทม.จะใช้ระยะเวลา 1-30 พ.ย. ในการรณรงค์ให้ประชาชนร่วมมือไม่ทิ้งขยะลงแม่น้ำ คู คลอง ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวกทม.จะเข้มงวดในพื้นที่ท่าเรือก่อนเป็นอันดับแรก โดยจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจของเขตที่มีแม่น้ำ คู คลองในพื้นที่ออกปฏิบัติหน้าที่
ส่วนแม่น้ำ หรือ คลองใหญ่ๆ เช่น คลองแสนแสบจะมีหน่วยเรือลาดตระเวนด้วย หากพบประชาชนที่ทิ้งขยะก็จะมีการตักเตือน และตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2552-สิ้นเดือนก.พ.2553 กทม.จะเริ่มดำเนินการทิ้ง จับ ปรับ ผู้ที่ทิ้งขยะลงในแม่น้ำ คู คลองอย่างจริงจัง ซึ่งประชาชนที่ทิ้งขยะลงในแม่น้ำ กทม.จะมีถือว่ามีโทษปรับ จำนวน 1,000 บาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าโทษปรับตามกฎหมายที่จะปรับเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท
อย่างไรก็ตาม หากเสร็จสิ้นระยะเวลานำร่อง 3 เดือนแล้ว ยังพบว่า มีประชาชนทิ้งขยะลงคลองอยู่อาจจะเปลี่ยนเงินค่าปรับให้เทียบเท่ากับที่กฎหมายกำหนดคือ 10,000 บาท ส่วนพื้นที่สถานที่ราชการ บ้านพักอาศัยของประชาชนที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนั้น กทม.จะอาศัยเครือข่ายนักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. ช่วยรณรงค์โครงการไปยังผู้ปกครองไม่ให้ทิ้งขยะลงแม่น้ำ
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 5 ธ.ค.นี้ กทม.ได้รับการสนับสนุนกับสโมสรไลออน ประเทศไทย เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาทเพื่อทำโครงการทำดีเพื่อพ่อ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งกทม.เตรียมดำเนินกิจกรรมทำกรุงเทพให้สะอาดโดยให้นักเรียนโรงเรียนสังกัดกทม. กว่า 300,000 คน เป็นผู้ร่วมกิจกรรม
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า การไม่ทิ้งขยะลงคลองหรือแม่น้ำนั้น ถือได้ว่า เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียได้ ซึ่งเขาตั้งเป้าว่า จะทำให้น้ำในกทม.ใสสะอาดเหมือนอย่างในประเทศเกาหลี ที่ครั้งหนึ่งแม่น้ำเคยเน่าเสีย แต่กลับมีการใช้เทคโนโลยีทำให้น้ำกลับมาใสสะอาดได้ ซึ่งเชื่อว่า หากกทม.สร้างระบบบำบัดน้ำเสียอย่างครอบคลุมได้ น้ำในกทม.จะกลับมาใส สะอาดได้
ทั้งนี้ การดำเนินงานโครงการไม่ทิ้ง ไม่จับไม่ปรับผู้ที่ทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะช่วงเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าทั้ง 50 เขต สามารถปรับผู้ที่ทิ้งขยะได้ทั้งหมด 1,000 คน รวมเงินค่าปรับ 100,000 บาท อย่างไรก็ดี จากรายงานพบว่า รอบ 15 วันก่อนหน้านี้ มีบางเขตที่ไม่พบว่า มีประชาชนทิ้งขยะเรี่ยราด ซึ่งเขาเตรียมขยายจุดดำเนินการต่อไป