"ก้อย ปาริฉัตร" เปิดเส้นทางรัก 37 ปีกับ "เปี๊ยก สมมาตร" เผยเหตุการณ์ทวงคืนสามี

"ก้อย ปาริฉัตร" เปิดเส้นทางรัก 37 ปีกับ "เปี๊ยก สมมาตร" เผยเหตุการณ์ทวงคืนสามี

"ก้อย ปาริฉัตร" เปิดเส้นทางรัก 37 ปีกับ "เปี๊ยก สมมาตร" เผยเหตุการณ์ทวงคืนสามี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดตำนานผัวฉันหาย เหลือไว้แต่ไฟแช็ค ก้อย ปาริฉัตร กับสามี เปี๊ยก สมมาตร มาเผยเส้นทางความรักกว่า 37 ปี รักของรุ่นใหญ่ใจต้องนิ่ง พร้อมอัปเดตชีวิตรักหลังทวงคืนสามี ที่ครั้งหนึ่งพี่เปี๊ยกเคยเจ้าชู้หนักมากทิ้งลูก-ภรรยา ออกจากบ้านไปนาน 2 ปี ผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่องวัน 31 ที่มี หนิง ปณิตา, เป็กกี้ ศรีธัญญา และ อาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ 

พี่เปี๊ยก พี่ก้อย เจอสถานการณ์โควิดเป็นยังไงบ้าง มีผลกระทบบ้างไหม?

ก้อย : "คือจริงๆ ตั้งแต่โควิดแรกๆ เลย ลูกชายเป็น และหลังจากนั้นก็เป็นอะไรที่กลัวแล้วก็ระแวง เซฟตัวเองมาตลอด" 

พี่ก้อยระแวงขนาดไหน?

ก้อย : "สมมติเซเว่นอยู่หน้าบ้าน ก็จะใส่หน้ากาก ใส่ Faceshield ใส่หมวก ใส่ทุกอย่างเดินออกไปข้างนอก แล้วต้องพกแอลกอฮอล์ตลอดเวลาคอยฉีด"

ผลกระทบกับงานเป็นยังไงบ้าง เพราะทั้งคู่เล่นละคร และเป็นผู้จัด?

เปี๊ยก : "จริงๆ ต้องขอบคุณโควิดที่ทำให้เมียเราระแวงโรคมากกว่าระแวงผัว พูดเล่นๆ หลายคนถามว่ากระทบไหม มันกระทบทุกอาชีพ ทุกคน นอกจากคนไม่เดือดร้อนอะไร แต่คนธรรมดาที่ทำมาหากิน ทำงานกระทบหมด ผมเชื่อไม่มีใครไม่กระทบ"

เขามีวิธีจัดการเรื่องการเงินที่ดีมากๆ?

เปี๊ยก : "เราพยายามประมาณตัวเอง สมัยก่อนก็มีการใช้เงินแบบทั่วๆ ไปที่เวลามีเงินเราก็ใช้ แต่พอเราผ่านวิกฤตหลายๆ เรื่อง แล้วคิดว่าจะทำอะไรสักอย่าง จริงๆ จุดประกายที่เราทำเนี่ย เริ่มที่เราทำงานที่ AIA ก่อนก็เลยรู้จักเก็บเงิน แล้วอีกอย่าง จิ๊ก เนาวรัตน์ ผมนั่งฟังเขา เขาเล่นละคร 1 เรื่อง เขาซื้อทอง 1 บาท ผมก็บอกก้อยมันเป็นวิธีการที่ดี ก็เลยทำบ้าง ซื้อเดือนละบาท บางเดือนก็ 2 บาท เพราะมีเงินปุ๊บเราก็จะใช้ๆ แต่มีทองราคาก็ขึ้นเรื่อยๆ แล้วบางทีเวลาจะขายก็อายเขา ทั้งๆ ที่เป็นทองของเรา ทำไมไม่ซื้อทองแท่ง สมัยก่อนไม่มีทองแท่ง ก็ซื้อเก็บไว้"

ก้อย : "อย่าถามพี่นะคะ บ้านนี้ผู้ชายเก็บเงิน" 

เราเป็นคนเก็บเงิน แต่ก็มีข่าวว่าเรานำทองที่เก็บออกมาด้วย?

เปี๊ยก : "เราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ถามว่ามีทองกี่บาทก็ไม่มีใครรู้ พอจะใช้เงินก็คราวลูกจะไปเรียนเกาหลีก็เอาทองไปขาย เราซื้อตั้งแต่ราคา 4,800 บาท"

เห็นบอกขายไป 20 กว่าเส้น?

เปี๊ยก : "ไปเรื่อยๆ ครับ"

เห็นบอกว่ามีความเข้มข้นในชีวิตคู่เยอะมาก ตอนนั้นย้อนไปกี่ปี?

ก้อย : "พี่เป็นคนไม่จำตัวเลขเลย"

รักกันมาทั้งหมด 37 ปี?

เปี๊ยก : "ตั้งแต่ปี 29 ตอนนั้นเราไปเล่นละครด้วยกัน ก็ได้เล่นกันทั้งคู่โดยที่ไม่รู้จักกันและมาเข้าฉากด้วยกัน ก็กลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ได้นั่งคุยกันเยอะ

ก้อย : "พี่เปี๊ยกห่างจากพี่ 9 ปี"

ณ ตอนนั้นพี่ก้อยมีคู่แฝด เจอพร้อมกันไหม?

เปี๊ยก : "เขาไปด้วยกันตลอด"

ทำไมถึงเลือกจีบพี่ก้อย?

เปี๊ยก : "สมัยก่อนคล้ายกัน เราก็นั่งดู นิสัยสองคนไม่เหมือนกัน อย่างกล้วยก็จะมีความเป็นผู้หญิงเยอะกว่า"

ก้อย : "พี่กล้วยเขาทำกับข้าว ทำนู้น ทำนี่ ช่างคุย แต่พี่ไม่เป็นแบบนั้น พี่ไม่ค่อยได้คุยเรื่องอย่างนั้น"

เปี๊ยก : "ก้อยความเป็นผู้ชายเยอะกว่า เราชอบไง เพราะเราเป็นคนช้า ก็เลยอยากได้ผู้หญิงที่แบบอะเลิร์ท" 

จีบยากไหม?

เปี๊ยก : "สมัยนั้นถือว่ายากนะ เราก็พยายามรับ-ส่ง สมัยก่อน บ้านเราอยู่เกษตร บ้านเขาอยู่ท่าพระ" 

ตอนนั้นไม่มีใครเห็นด้วยให้พี่เปี๊ยกจีบพี่ก้อย?

เปี๊ยก : "คือทางบ้านเขามากกว่า ทางบ้านเราแม่ก็เป็นคนแก่สมัยนู้น เรื่องการที่จะแต่งงานกับคนในวงการ เต้นกิน รำกินสมัยก่อน เขาไม่อยากให้เราทำงานอย่างนี้ วันนั้นผมจะไปเมืองนอก เขาอยากให้ไปเรียนมากกว่าที่จะมาคบกับศิลปิน"

ก้อย : "ครอบครัวพี่เปี๊ยกเป็นครอบครัวที่สมัยก่อนชอบข้าราชการ จบแล้วทีเกษียณ เงินทองมั่นคง อาชีพอย่างเราเข้ามาเขาจะมองว่าไม่มั่นคง เขาก็เลยอยากให้พี่เปี๊ยกหาคนอื่นดีไหม ในช่วงแรกๆ เข้าไป คือกล้วย ก้อย เวลาออกทีวี ผู้ใหญ่อาจจะมองเราว่าเราอาจจะเป็นผู้หญิงที่ก๋ากั่นเกินไป" 

แล้วในมุมพี่ก้อยมีใครมากระซิบบ้างไหม?

ก้อย : "มีค่ะ เพราะชื่อพี่เปี๊ยกเขาจะดีมากทางผู้หญิง"

เปี๊ยก : "คนเขามองภายนอก ผมว่าเขาตัดสินคนผิด" 

ที่รู้จักพี่เปี๊ยก เขาอบอุ่น แฟมิลี่แมน ไม่เจ้าชู้?

ก้อย : "ที่พี่คิดนะผู้ชายนิ่งๆ แบบนี้เวลาเขาไปไหน พวกเงียบมันได้ พี่เปี๊ยกก็จะเป็นคนประมาณอย่างนั้น" 

ตอนนั้นพี่ก้อยไม่ได้สนใจพี่เปี๊ยก ยิ่งจีบ ยิ่งเชิด?

ก้อย : "จริง ขอเป็นแฟนตั้งหลายครั้งไม่โอเค ตอนมาจีบพี่บอกเลยของก้อยเป็นแบบนี้ ถ้าชอบก้อยก็ชอบไป ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร ไปเลย เพราะว่าก้อยไม่เปลี่ยนแปลง"

หรือพี่ก้อยเห็นอะไรบางอย่าง?

ก้อย : "คือตอนที่จีบกันก้อยเด็กมากนะ ก้อยยังอายุ 20 นิดๆ แล้วยังเพิ่งเข้าวงการ ด้วยครอบครัวก้อย เป็นครอบครัวครู และทหาร ก็ไม่อยากมีชื่อว่าเข้ามาแล้วมีแฟนเลย เดี๋ยวคนจะมาเม้าท์ว่าคนนี้เล่นละครด้วยกันเดี๋ยวจะอะไรอย่างนี้ เราก็ไม่อยากมีแฟน"

 แต่สุดท้ายพี่ก้อยเองบอกว่าคุณเปี๊ยกแต่งงานกันไหม?

ก้อย : "ตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่าคนข้างนอกเริ่มรู้ข่าวว่าเราเป็นแฟนกัน มันก็จะมีประเด็นต่อไป สมัยก่อนคนโบราณ มันต้อง..."

เปี๊ยก : "ได้กันก่อนแล้ว"

ก้อย : "อะไรอย่างนี้ นั่นแหละ ก็กินข้าวกันแล้วแน่ๆ เลยเราก็ไม่อยาก เพราะเราเกรงใจคุณพ่อ คุณแม่ ก็เลยตัดสินใจแต่งงาน"

เปี๊ยก : "แต่จริงๆ ไปไหนไม่เคยไปกัน 2 คนเลยนะ มีครั้งเดียวตอนจีบ ไปดูหนังเรื่อง สองขวัญขยันหาเมีย คือเป็นการบอกว่าอยากมีเมีย"

ก้อย : "แล้วฉันจะเข้าใจไหม ฉันเป็นเด็กสาวที่ต้องการอะไรที่มันโรแมนติก"

ผู้หญิงขอ พี่เปี๊ยกก็แต่ง แต่พี่เปี๊ยกไม่มีเงินติดตัวเลย พี่ก้อยรู้เรื่องไหม?

ก้อย : "มันอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้เหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่เกิดมาแล้วโบราณมากเลย ในความรู้สึกไม่เป็นไร เดี๋ยวเราไปกัดก้อนเกลือกินเอา แต่จริงๆ ตอนนั้นก็มีคนมาจีบเหมือนกันที่ดีกว่า แต่ก็ไม่ชอบให้คนดูถูกกันและกัน แล้วคนจะมองว่าพี่เปี๊ยกเนี่ยไปไม่รอดหรอก เลี้ยงไม่รอดหรอก แต่เรารู้สึกว่าไม่เป็นไรเราเลือกเขา ยอมที่จะกัดก้อนเกลือกินไปกับเขา"

เปี๊ยก : "ตอนนั้นก็ทำงาน เล่นละคร แล้วก็มาทำงานที่นิตยสาร แล้วก็เริ่มเก็บเงิน เพราะว่าเผื่อจะแต่งงานตอนนั้น แต่พอมีก้อนนึงก็มานั่งทำห้อง" 

เห็นว่าตอนแต่งไปยืมเงินคนอื่นมา?

เปี๊ยก : "จริงๆ แล้ว ผมเป็นคนที่ทิฐินะ แม่ก็มีอยู่ แต่เราอยากรับผิดชอบตัวเอง เราก็เอาไงดี ต้องคุยกับก้อยเลย เพราะตอนนั้นไม่มี ทุกอย่างทำหมด ไปยืมเงิน ทุกอย่างได้เป็นก้อนหน่อย" 

งานมีแต่สินสอดอะยืม?

เปี๊ยก : "ครับ" 

คุณพี่เปี๊ยกได้เล็งคุณแม่ยายไหมว่าแต่งแล้วเขาจะคืนให้เราไหม?

เปี๊ยก : "ก็มีว่าจะคืนไหมวะ แต่แม่ก็คืน"

ก้อย : "คือจริงๆ ตัวพี่เปี๊ยกต้องใช้คำว่า นี่คือในอดีตที่ผ่านมาแล้วนะ เสเพล ไม่เก็บเงิน ไม่รู้แต่งงานกับเขาได้ไง ไม่เห็นมีอะไรดีสักอย่าง"

พี่ก้อยก็รู้ทุกเรื่อง เรื่องไม่เก็บเงิน เจ้าชู้ แล้วเพราะอะไรตัดสินใจเลือกพี่เปี๊ยก?

ก้อย : "สมัยก่อนเราก็ยังเด็กด้วย แต่ประเด็นแรกๆ ที่เรามองตอนนั้นอย่างนึงคือรัก แล้วประเด็นที่สอง เราไม่อยากให้ชื่อเสียง พ่อ แม่ หรือตระกูลเรา อย่างที่เล่าให้ฟังเราเป็นตระกูลเก่า โบราณ ไม่อยากให้คนมองว่า เราเป็นอะไรที่กินกันมาก่อน เราก็แต่งงานเลย"

ความรักก็ทำให้สู้ได้ทุกอย่าง แต่เห็นว่าคลอดลูกคนแรกเงินจะเอาลูกออกจาก รพ.ไม่มี?

เปี๊ยก : "ตอนนั้นก้อยก็ไม่รู้ เพราะว่าเวลาปกติจะไม่บอกเลยว่าเราเป็นยังไง ไม่อยากให้ทุกคนรู้สึกอึดอัด แม่ก็ถามว่าเข้า รพ.มีอะไรไหม เราก็บอกว่า แม่ไม่ต้องห่วง ตอนไปคลอดก็ไม่รู้ว่าลูกจะออกด้วยนะ ไปเดินๆ อยู่ก้อยเขาบอกว่าเป็นไรน้ำมันไหล"

ก้อย : "หมอบอกให้คลอดได้แล้ว เพราะว่าน้ำเดินหมดแล้ว แต่ก็คลอดก่อนกำหนดนิดเดียว แต่จริงๆ ก็หาหมอตามปกติ เสร็จแล้วน้ำเดินออกหมดตัวแล้ว จะแห้งแล้ว หมอก็เลยให้ผ่าตัด"

เปี๊ยก : "ทีนี้ลูกเราตัวเหลืองก็ต้องเข้าตู้อบหลายวัน แล้วก็นอน รพ.จริงๆ มันก็หมื่นกว่าบาทมั้ง"" 

สุดท้ายแก้ไขปัญหาตรงนี้ยังไง?

เปี๊ยก : "ตอนก่อนทำงาน มีลูกน้อง ถามว่าทำไมไม่พาก้อยออกจาก รพ.เราก็บอกไม่มีเงินรอสักพักก่อน มันก็เลยรวบรวมเงินกันมา"

มีน้อยใจบ้างไหม?

ก้อย : "ความรู้สึกเราเลือกผู้ชายคนนี้เราต้องเข้าใจเขา ก็เป็นเรื่องของเขาที่เขาต้องจัดการ ไม่ใช่เรื่องของก้อย ก้อยก็จะออกเมื่อไหร่ก็แล้วแต่ ก็ตามสภาพ" 

แล้มมีที่พี่เขาจัดการไม่ได้ แล้วพี่ก้อยต้องจัดการเองมีไหม?

ก้อย : "ในชีวิตก็คงมีบ้าง" 

เรื่องผู้หญิงจัดระเบียบแทบไม่ลงล็อก?

ก้อย : "จริงๆ ไม่ใช่ลูกคลอดได้แป๊บเดียว แต่งงานได้ 2 วันก็ขอไปเที่ยว"

เที่ยวเลาจน์ทุกคืนจริงไหม?

เปี๊ยก : "ก็จริง เราก็บอกก้อย พี่อะไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วหยุดเลยนะ พี่ก็มีเพื่อนที่จะต้องไปก็แต่งงานได้ 2 วัน ออกไปก็นั่งคุยกันว่าเราต้องมีกติกา ก้อยเขาบอกว่าอะไรก็ได้ 1.ต้องกลับบ้านก่อนแม่จะออกไปทำงาน 2.ห้ามยุ่งกับคนในวงการ 3.ห้ามเลี้ยงดู"

พี่เปี๊ยกฝ่าฝืนกฎทั้งหมดเลย?

ก้อย : "ห้ามกลับบ้านก่อนแม่ตื่นคือไม่กลับเลยนะบางทีอะ  แฃ้วในวงการพวกเราไปไหน เจอกันก็คุย เม้าท์กัน คือถ้าคนในวงการใครก็ได้ที่ไม่ใช่นักแสดง เดี๋ยวมันก็หลุดกันเอง สมัยก่อนไม่มีโซเชียลเยอะ แต่มันประหลาดเนอะคนเป็นเมียเนี่ย ยังไงก็รู้"

พี่เปี๊ยกหายไป 2 ปี?

เปี๊ยก : "แป๊บเดียว 2 ปีเอง"

ก้อย : "ที่บอกว่าไปท่องยุโรป"

เปี๊ยก : "พี่ไปเที่ยวเมืองนอกมา"

แล้วตอนนั้นพี่บอกพี่ก้อยว่าไง อยู่ๆ พี่หายไปเลย?

เปี๊ยก : "ไม่ได้บอกอะไร ก็ออกเลย ไม่บอกสักคำ"

ก้อย : "ไปเลย ตามตัวก็ไม่ได้ ก็ไม่กลับแล้ว แสดงว่าเราต้องทำใจแล้ว อ่อ...เป็นเพราะว่าพี่ถามเขาด้วยว่า ถึงจุดแล้ว ถ้าเราจะอยู่กันอย่างนี้ เราคงไม่รักกันไปกว่านี้แล้วนะ เพราะมันมีปัญหามาตลอด พี่ต้องเลือกแล้ว เพราะถ้าสมมติว่าเราทะเลาะกันแล้วเจอหน้ากันอีกไม่ได้แล้ว แล้วที่พูดไปก็คิดว่าเขาเลือกเรา พอเช้ามาเขาไปเลย" 

แล้วตอนนั้นรู้สึกยังไง?

ก้อย : "ตอนนั้นมันเจ็บมากแล้ว มันไม่ไหว ถึงเวลาเราโทรม เราก็อยากให้เขาเลือกเรา แต่เขาเลือกอย่างนั้นเราก็เลยพูดไม่ออก ก็ตามอยู่ 2-3 วัน แล้วก็ประมาณ 2 เดือน เริ่มกลับมาดูแลตัวเอง อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด"

เปี๊ยกไป 2 ปีความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?

เปี๊ยก : "แรกๆ ประมาณสักเดือนนึงมันไม่รู้สึกอะไรมาก มันยังเพลิดเพลินกับชีวิตอยู่ แต่หลังจากนั้นเราเริ่มรู้สึกทีละนิด ทีละหน่อย เนื่องจากว่าหลายๆ เรื่อง มีทั้งเรื่องที่หึงหรือว่าอะไร"

ก้อย : "ทีนี้พอออกจากบ้านไปแน่นอนต้องมีอีกฝั่งนึง" 

อีกฝั่งนึงก็หึงพอสมควร มีรถรับ-ส่ง ทำให้รู้สึกอึดอัด?

เปี๊ยก : "ทำให้รู้สึกว่าอยู่กับเมียก็ไม่เป็นอย่างนี้เลยนะ แล้วเวลาไปไหน เราเริ่มรู้สึกอึดอัดมากขึ้น"

เห็นบอกว่าอยากไปเจอลูกเขาก็ไม่ให้ไป?

เปี๊ยก : "มันมีปัญหาตอนแรก กับก้อยไม่เป็นไร แต่พอกับลูกปุ๊บ เราเคยบอกแล้วว่าเราขอไปหาลูก แต่มันก็เริ่มมีอะไรบางอย่าง เราก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดี ก้อยบอกว่าถ้ามาหาลูก อย่ามาหาเลย เพราะลูกรอทุกเที่ยงเลย"

ก้อย : "มันจะรู้สึกกดดัน เพราะเขาไม่ได้มาหาที่บ้าน เขาไปหาที่โรงเรียน พอเที่ยงลูกก็รอ เราไม่ได้สร้างปมให้ลูกเลย เราบอกลูกว่าพ่อไปทำงาน เราก็บอกว่าเราบอกอย่างนี้ อย่าไปตรงนั้นได้ไหม เพราะว่าเดี๋ยวลูกจะมีปม" 

พี่ก้อยคิดไหมว่าสักวันพี่เขาจะกลับมา?

ก้อย : "ก้อยถามตัวเองว่าเขาทำอย่างนี้ทำไมเขาไม่เลิกกับก้อย เขาจะห่วงกางทำไม แล้วเชื่อไหมพี่ไปเที่ยวเขาก็จ้างคนไปตามพี่"

เปี๊ยก : "จริงๆ ผมให้เด็กที่เป็นลูกน้องขี่มอเตอร์ไซค์ตามทุกที่ที่เขาไป"

ก้อย : "จนเราก็มาถามตัวเองว่าจะยังไงต่อ ทีนี้ก็เป็นช่วงที่ได้กลับมาเจอกันบ้างแล้ว แล้วมีคนอื่นมาจีบเรา เราก็มาถามตัวเอง แล้วถามว่าถ้าจะเลือกใครสักคน จริงๆ แล้วมีปัญหาทุกคน เราก็จะกลับไปปัญหาเก่าก็อาจจะดีกว่า แล้วเขาเป็นพ่อของลูกด้วย"

จริงๆ แล้วปัจจัยที่เกิดเหตุการณ์นี้ คำว่าเบื่อ เกี่ยวข้องไหม?

เปี๊ยก : "ไม่เรียกเบื่อนะสำหรับผม แต่ว่ามันอาจจะเป็นอารมณ์มากกว่า จะว่าผู้ชาย สันดานสำหรับผม แล้วผมก็บอกกับทุกคนว่าจริงๆ ทำแบบนี้ไม่มีความสุขเลย มีแต่ความทุกข์ จะไปไหนทีก็ต้องระวัง แล้วบิ่งเราอยู่ในวงการ ไปไหน ทำอะไร แล้วเครียดเคยคิดฆ่าตัวตาย คิดหลายๆ เรื่อง รู้เลยว่าเครียดมาก เครียดทุกวันก่อนที่จะกลับมา"

อีกคนนึงเขาดูแลดีไหม?

เปี๊ยก : "ก็โอเคนะครับ ไปไหนไปด้วย ติดตัวตลอด"

ก้อย : "จริงๆ ของคู่พี่ พี่ไม่ทำตัวอย่างนั้นเลย พี่ไม่ขี้หึง พี่ไม่จุกจิก พี่ไม่อะไรเลย พี่เปี๊ยกเขายอมรับเองว่ามันเป็นสันดานเขา เขาเป็นคนที่มีใครมาหยามเขาไม่ได้"

เปี๊ยก : "กลัวเมียเหรอ" 

ถ้าเป็นทุกวันนี้มีคนมาหยามแบบนี้?

เปี๊ยก : "บอกเลยว่ากลัว ไม่กลับไปแบบเดิมอีก พอถึงจุดจุดนึงเราจะรู้ไง"

เห็นบอกว่าหลังกลับมาจากรอบ 2 ปีแล้วก็กิ๊กกับนักร้องอีก?

เปี๊ยก : "มันก็มีบ้าง แต่ก็นานแล้ว" 

แล้วทำไมวันนึงกลับมาอยู่กับพี่ก้อย?

เปี๊ยก : "ด้วยความที่ลูก เราเริ่มรู้สึกว่าเราทำอะไรอยู่ ลูกก็รออยู่ ก้อยก็พูดจะกลับมาไหมวันเกิด วันเกิดผมวันที่ 5 ถ้าไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ" 

อะไรที่ทำให้พี่ก้อยรอ ทั้งที่ในมุมของผู้หญิงก็ถูกกระทำตลอดเวลา?

ก้อย : "จริงๆ ช่วงนั้นไม่ได้เรียกว่ารอแล้วนะ พี่ตามเขามาหย่าด้วยซ้ำ แล้วเขาก็ไม่มา อย่างที่บอกว่าถ้านั่งนึกชีวิตถ้าต้องเริ่มต้นใหม่ พี่เชื่อว่าคู่ทุกคู่มันก็มีปัญหาอีก อันนี้เป็นปัญหาที่เราเรียนรู้ ผ่านมาแล้ว เขาเป็นพ่อของลูก ถ้าไปอยู่กับคนใหม่มันก็เป็นปัญหาใหม่ เหนื่อย"

เปี๊ยก : "คิดว่าตัวเองโชคดีที่ลูกมันดึงเรา ถ้าไม่มีลูก ถามว่าเป็นไงก็ตอบไม่ได้ แต่เราก็หลงระเริงไปแล้ว แต่ลูกมันทำให้เราคิดเรื่องนี้เยอะมากเลย" 

คุณพี่เปี๊ยกมีหลายตำนาน ทำให้คนค้นอักษรย่อของนางเอกเยอะที่สุดจนมาถึงทุกวันนี้?

เปี๊ยก : "ใช่ ตอนนั้นเราก็มีอักษรย่อ ชื่อจริง ส. ชื่อเล่น ป." 

แล้วคนในวงการบันเทิงที่ไปยุ่งด้วยเขารู้ไหมว่าพี่มีเมียแล้ว?

เปี๊ยก : "รู้หมดทุกคนแหละ" 

พี่ก้อยทำยังไงพอมันอยู่ในวงเดียวกัน?

ก้อย : "ของอย่างนี้ต้องตบมือ 2 ข้าง กับสิ่งนึง ถ้าเรารับรู้เท่ากับเรายอมรับ ก็ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น" 

แอบรู้มาว่ามีสาวไลน์มาจีบ ชวนไปกินข้าว?

เปี๊ยก : "เรื่องนี้มันก็ไม่ใช่สมัยนี้หลายปีมาแล้ว 8-9 ปีแล้วเรื่องนี้ เขาก็นัดไป ก็ไปดิ ไปกินข้าว" 

พอเขาบอกไปโรงแรมไหม ตอบว่าไง?

เปี๊ยก : "เขาไม่ได้เชิญอย่างนั้น เขาบอกอาเข้าไปอะไรไหม ตอนนั้นกำลังดังเรื่องเก็บแต้มหรือเปล่าไม่รู้" 

แล้วสรุปไปไหม?

เปี๊ยก : "ไม่ได้ไป คือเขาอายุน้อยกว่าลูก"

ก้อย : "พี่เป็นคนไปส่งเขาที่เลาจน์"

 ทำไมพี่ถึงยอม?

ก้อย : "คนนะถ้ามันจะทำซะอย่าง ห้ามยังไงมันก็ทำ"

เปี๊ยก : "มันก็ทำให้เราเกรงใจนะ"

พี่ใช้วิธียังไงที่อดทนมาได้ถึงทุกวันนี้ ถ้าพูดชัดๆ พี่ปราบเสือยังไง?

เปี๊ยก : "ขอขอบคุณหน่อย เขาดี เพราะเขามีรอบข้าง มีเพื่อน มีพี่ ที่ทุกวันนี้เรารู้สึกว่าต้องขอบคุณพี่แล้วก็เพื่อน 3-4 คน"

ก้อย : "ก็อยู่ในกลุ่มเพื่อน แล้วเพื่อนจะไม่เคยพูดถึงเรื่องที่เรามีปัญหา เพื่อนก็พาเราไปนู่น นี่นั่น"

เสืออย่างพี่เปี๊ยก ทำไมอยู่ๆ กลายมาเป็นทาสเมีย?

เปี๊ยก : "ต้องยอมรับนะเรากลับมาเราคิดเยอะมาก แล้วก็ในความดีของเขาต้องยอมรับนะ เขาไม่เคยประพฤติอะไรเลย แล้วก็ดูแลลูก จนกระทั่งเรารู้สึกว่ามันเป็นความผิดที่เราต้องชดใช้ ผมก็บอกเขาเรื่อยนะพี่กลับมาพี่จะชดใช้ในสิ่งที่พี่ทำ" 

พี่ก้อยบอกว่ากลับมามันคุ้มมาก?

ก้อย : "คือกลับมาดูแลดีมาก ทำอะไรก็ตามใจ เพราะพี่ก็เป็นสังคมขี้เมา คือไม่ใช่ขี้เมา แต่เป็นคนชอบปาร์ตี้ พี่เปี๊ยกก็ต้องอยู่กับเราให้ได้ อยู่กับเพื่อนทุกคนให้ได้" 

พระเอกเบอร์ต้นๆ ของวงการตามจีบลูกสาวจริงหรือไม่?

เปี๊ยก : "ไม่จริงหรอกครับ ผมว่าเขาเป็นพี่น้องกัน แล้วเป็นคอเกาหลีด้วยกัน"

แล้วถ้าติดจริงๆ ล่ะ?

เปี๊ยก : "เดี๋ยวนี้ไม่ได้หวงแล้วครับ ใครอยากจะจีบก็จีบไปเถอะ เชิญมาจีบเลย" 

สมมติพระเอกเบอร์ต้นๆ บอกโอเคจีบ คุณพ่ออนุญาตแล้ว?

เปี๊ยก : "ครับ" 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show  ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ "ก้อย ปาริฉัตร" เปิดเส้นทางรัก 37 ปีกับ "เปี๊ยก สมมาตร" เผยเหตุการณ์ทวงคืนสามี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook