"ไอ้รุธ" ข่มขืนฆ่าหญิงดาวน์ซินโดรม ลมชักกำเริบขณะทำแผน ต้องรีบหิ้วตัวกลับโรงพัก

เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 15 กันยายน 2564  ที่สภ.ปากคลองรังสิต พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.จตุพร คงเมือง ผกก.สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.ท.ชัยรัตน์ แย้มวงษ์ รองผกก.สส.สภ.ปากคลองรังสิต พ.ต.ท. นิติธร ศุภชัยวรกุล สว.สส.สภ.ปากคลองรังสิตกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนร่วมจับจับกุม นายมารุธ นนภิภักดิ์ หรือ รุธ อายุ 21 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย หรือใช้วิธีขืนใจด้วยวิธีอื่นใด ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยขู่เข็นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือโดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

• รวบแล้ว หนุ่มวัย 21 ฆ่าข่มขืนสาวดาวน์ซินโดรม พี่สาวเดือด ไม่คิดจะเป็นคนใกล้ตัว
• จิตใจทำด้วยอะไร? สาวดาวน์ซินโดรมถูกขยี้กาม หักคอ-กดน้ำ ดับคาป่าละเมาะ

พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุได้ดื่มสุราและเสพกัญชาเข้าไป จนเกิดความมึนเมา กระทั่งไปเจอผู้ตายและหลอกลวงให้ผู้ตายไปนวดตัวในราคา 200 บาท พอเข้าไปภายในป่าบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ได้ใช้กำลังปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นได้มีการผลักผู้ตายไปชนต้นไม้จนคอหัก จนร่างตกลงไปภายในน้ำแน่นิ่ง แน่ใจว่าเสียชีวิตจึงนำศพมาไว้ริมตลิ่ง จากนั้นก็หลบหนีไปที่บ้านพัก จากนั้นชุดสืบสวนจึงเข้าไปสอบถามแม่ของผู้ต้องหาก็ยืนยันว่า บุตรชายได้ก่อเหตุจริง กระทั่งไปขอศาลจังหวัดปทุมธานีออกหมายจับ จนนำไปสู่การจับกุมตัว

ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้ควบคุมตัวนายมารุธ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณป่าหญ้าปากซอยร่วมสุข 7/24 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี โดยมีการกันประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่ เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยมีประชาชนมาสังเกตการณ์กว่า 100 คน  เริ่มจากจุดที่พาผู้ตายเข้าไปภายในป่า ก่อนที่จะกระทำชำเรา แล้วผู้ตายต่อสู้ขัดขืนจนมีร่องรอยตามร่างกาย จึงจับร่างผู้ตายกระแทกกับต้นไม้จนร่างตกน้ำ ก่อนที่นำร่างผู้ตายมาไว้ริมตลิ่ง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ไม่ทราบว่าขณะนั้นผู้ตายตายหรือไม่ จากนั้นตนเองก็กลับบ้านไป

ซึ่งขณะทำแผนแล้วเสร็จ กำลังจะนำตัวผู้ต้องหาขึ้นจากจุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ได้เกิดโรคลมชักกำเริบ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันอุ้มตัวผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ตำรวจเพื่อปฐมพยาบาล แล้วนำกลับไปทำการสอบสวนต่อที่ สภ.ปากคลองรังสิต หากการสอบสวนเข้าข่ายฐานความผิดใด ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป