ตำรวจรู้ตัวแล้ว 3 บุคคลต้องสงสัยฉ้อโกงแชร์ออมเงิน สาว 17 ปี จี้ร้านทอง

ตำรวจรู้ตัวแล้ว 3 บุคคลต้องสงสัยฉ้อโกงแชร์ออมเงิน สาว 17 ปี จี้ร้านทอง

ตำรวจรู้ตัวแล้ว 3 บุคคลต้องสงสัยฉ้อโกงแชร์ออมเงิน สาว 17 ปี จี้ร้านทอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจเผยคนในวงบ้านแชร์ออมเงิน 3 ราย เอี่ยวโกงแชร์เด็ก 17 ปี จี้ชิงทอง พบอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง 1 คน มีประวัติคดีฉ้อโกงอีก 2 คน อยู่ภาคเหนือ-ใต้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) เปิดเผยถึงการตรวจสอบการลงทุนทางการเงินของเยาวชน อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาชิงทองกลางห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ จ.นนทบุรี ว่า ผลการตรวจสอบขณะนี้ทราบตัวบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุฉ้อโกงเงินของเยาวชนหญิงคนดังกล่าวแล้ว

โดยพบอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง 1 คน ซึ่งบุคคลนี้พบเป็นบุคคลเฝ้าระวังมีประวัติ คดีฉ้อโกงจำนวนมาก ส่วนอีก 2 คน พบอยู่ในภาคเหนือและภาคใต้ โดยทั้งสามคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แต่อยู่ในวงแชร์ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงเยาวชนหญิง 17 ปี

จากการตรวจสอบเชิงลึก พบว่า เด็กเยาวชนหญิง 17 ปี ได้นำเงิน 50,000 บาท ที่ได้จากประกันชีวิตของพ่อที่เสียชีวิต ไปลงทุนในบ้านแชร์ ชื่อ สุชาดา ซึ่งเปิดวงแชร์ออมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นอินสตราแกรม ประมาณ 1 ปีมาแล้ว ที่ผ่านมาได้ผลตอบแทนกลับมา 14,000 บาท ก่อนที่บ้านแชร์จะปิดตัวหายไป

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี มองหาช่องทางที่จะได้เงินกลับคืนมา จึงไปลงทุนในบ้านแชร์อีกราย ชื่อ บ้านออมเงิน บาย ออมสิน ซึ่งเปิดวงแชร์ใน อินสตราแกรมเช่นกัน ลงทุนไป 7,000 บาท ก็โดนโกงซ้ำอีก จึงเป็นสาเหตุให้ก่อเหตุชิงทอง

พล.ต.ท.กรไชย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วนในส่วนที่เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี ก่อเหตุชิงทองเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายต้องว่าไปตามกฏหมายโดยมีโทษทางอาญา แต่ในส่วนของการถูกโกงเงิน ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสืบสวนตรวจสอบ และปราบปรามผู้ที่หลอกลวงฉ้อโกงเงินผู้อื่น และเยาวชนหญิง 17 ปี ถือว่าเป็นผู้เสียหายที่ถูกโกงเงิน และได้ร้องเรียนเข้ามาแล้ว เบื้องต้น เรียกมารดาและตัวเยาวชนหญิง 17 ปี เข้ามาสอบปากคำแล้ว

ส่วนการตรวจสอบบ้านแชร์ออมเงิน ทั้ง 2 รายพบ ว่า ปิดอินสตราแกรมไปแล้ว และไม่พบว่ามีความเชื่อมโยงกัน รวมถึง ยังไม่มีประชาชนผู้ลงทุนรายอื่นเข้ามาร้องเรียน ในฐานะ
ผู้เสียหาย

พล.ต.ท.กรไชย ยังย้ำเตือนประชาชนผู้ที่มีความสนใจในการลงทุนแชร์ออมเงิน หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศต่างๆ ที่กำลังนิยม ว่า ให้ตรวจสอบสถาบัน หรือ แหล่งที่มาผู้ชักชวนให้รอบคอบ และย้ำว่า การให้ผลตอบแทนสูง เช่น ลงทุน 1000 บาท ให้กำไร 900 บาท ไม่มีอยู่จริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook