ก็เปิดไปเลยสิคะ! ซีเอ็นเอ็นเผยไทยเป็นกลุ่ม 5 ชาติเตรียมเปิดประเทศแบบอยู่ร่วมกับโควิด
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นจากสหรัฐ รวบรวม 5 ประเทศที่มีแผนการเปิดประเทศด้วยรูปแบบ "อยู่ร่วมกับโรคโควิด-19" ในลักษณะที่ต่างกันออกไป
ไทย
ไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศดังกล่าว ซึ่งซีเอ็นเอ็นสรุปรวบยอดการเปิดประเทศของไทยว่าเป็นแบบ "ฉีดวัคซีนช้า แต่ก็จะเปิดซะอย่าง" เพราะเปิดประเทศให้นักเดินทางที่ได้รับวัคซีนครบแล้วมายังเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง อาทิ จ.ภูเก็ต และ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แล้ว และเตรียมเปิดกรุงเทพมหานคร, จ.เชียงใหม่, เมืองพัทยา และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป แต่คนไทยจำนวนมากยังไม่ได้รับวัคซีนไม่ครบ 2 โดส และมีคนจำนวนอีกไม่น้อยที่ยังไม่ได้วัคซีนเลย
สิงคโปร์
ซีเอ็นเอ็น ระบุว่า สิงคโปร์ก็จะเปิดประเทศแบบอยู่กับโควิดเช่นกัน จากเดิมที่เคยยึดมาตรการกดตัวเลขเป็นศูนย์ แต่เมื่อโควิดชนิดกลายพันธุ์แบบเดลตาระบาดเข้ามา ทำให้ต้องทบทวนกลยุทธ์ดังกล่าวและยอมรับว่าโควิด-19 อาจไม่หายไปไหน และต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กันไปแบบนี้
ชิลี
ชิลีเป็นอีกประเทศที่จะเปิดพรมแดนให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาในวันที่ 1 ต.ค. นี้ โดยจะต้องกักตัว 5 วัน ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ความมั่นใจดังกล่าวเกิดขึ้นจากอัตราการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มของชาวชิลีที่สูงเกือบ 87% ไปแล้วในขณะนี้ และล่าสุดเพิ่งอนุมัติให้ฉีดวัคซีนของซิโนแวคให้กับเด็กอายุมากกว่า 6 ปีแล้วด้วย
แอฟริกาใต้
แอฟริกาใต้ก็มาด้วย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) ประธานาธิบดี นายซีริล รามาโฟซา ก็เพิ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดลง เพราะการระบาดระลอก 3 ของแอฟริกาใต้ซาลงอย่างมากแล้ว แต่ผู้นำประเทศรายนี้ก็ยังเดือนว่าการระบาดยังไม่จบลง และยังขอให้ทุกคนยังต้องทำตามมาตรการที่ยังคงอยู่และไปฉีดวัคซีน
เดนมาร์ก
ส่วนเดนมาร์กนั้น ซีเอ็นเอ็นระบุว่า ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปมากแล้ว เพราะมีคนได้วัคซีนครบแล้วกว่า 74% ขณะรัฐบาลก็ประกาศว่าโควิด-19 ไม่ใช่โรคที่เป็นภัยต่อสังคมอีกต่อไป และยกเลิกมาตรการควบคุมโรคทุกอย่าง ขณะนี้ทุกคนสามารถเข้าไนต์คลับและร้านอาหารโดยไม่ต้องโชว์พาสปอร์ตวัคซีน และใช้ขนส่งมวลชนโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอีก