"โรซี่" พี่สาวจอห์น วิญญู แจงปมดราม่า #โค้ชแขก ถูกเจ้าของน้ำพริกนิตยาเชิญออกจากร้าน

"โรซี่" พี่สาวจอห์น วิญญู แจงปมดราม่า #โค้ชแขก ถูกเจ้าของน้ำพริกนิตยาเชิญออกจากร้าน

"โรซี่" พี่สาวจอห์น วิญญู แจงปมดราม่า #โค้ชแขก ถูกเจ้าของน้ำพริกนิตยาเชิญออกจากร้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"โรซี่" พี่สาว "จอห์น วิญญู" แจงปมดราม่า #โค้ชแขก ถูกเจ้าของร้านน้ำพริกนิตยาเชิญออกจากร้าน ชี้ไม่เป็นมืออาชีพ

จากกรณีที่ น.ส.ลักขณา ปันวิชัย หรือ แขก คำผกา นักเขียนและพิธีกรชื่อดัง ไปถ่ายทำรายการพร้อมกับ น.ส.จรรยา วงศ์สุรวัฒน์ หรือ โรซี่ พี่สาวของ จอห์น-วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ ที่ร้านน้ำพริกนิตยา ถนนจักรพงษ์ ย่านบางลำพู แต่ นางนิตยา ลักษณวิสิษฐ์ เจ้าของร้านออกมาขอโทษที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายทำ ทำให้มีการโยงการเมืองจนทัวร์ลงร้านดังกล่าว

ล่าสุด โรซี่-จรรยา วงศ์สุรวัฒน์ ได้ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

"เรื่องที่เกิดขึ้นในรายการ #โค้ชแขก วันนี้ขออธิบายเพิ่มเติมนิดนึงสำหรับบางท่านที่อาจจะอยากได้รายละเอียด ที่ต้องพูดเพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันกระทบกับเรื่องชื่อเสียงในความเป็นมืออาชีพของ Spokedark ค่ะ อันดับแรก ขอชี้แจงว่าก่อนไปถ่ายรายการเรามีทีมงานที่ทำหน้าที่ประสานงานโลเคชั่นโดยเฉพาะ เราติดต่อขออนุญาตถ่ายทำล่วงหน้าทุกครั้ง ในกรณีของร้านน้ำพริกนิตยานี้มีการสื่อสารกันมาตั้งแต่ยังไม่คลายล็อคดาวน์ ทางร้านแจ้งมาว่ายินดีให้ถ่ายแต่ขอให้คลายมาตรการก่อนซึ่งเราก็ไม่ขัดข้อง

"ต่อมาเมื่อคลายล็อคดาวน์ ร้านน้ำพริกนิตยาจึงเข้ามาอยู่ในตารางถ่ายทำตามระบบ ฝ่ายโลเคชั่นยังคงประสานงานกับร้านตามปกติ โดยก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ประสานงานโลเคชั่นแจ้งมาว่า คุณนิตยาจะมาร่วมรายการด้วยและต้องการจะโปรโมทอีเวนท์การทำบุญบางอย่างที่คุณเค้าเป็นเจ้าภาพ เราก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แม้ว่าเราจะไม่ได้เชิญคุณนิตยาเข้ามาร่วมรายการตั้งแต่แรก เพราะรายการเราเป็นรายการพาช้อปพากิน เราพูดถึงผลิตภัณฑ์ของร้านนิตยามาหลายครั้ง พี่แขกก็รู้จักผลิตภัณฑ์ของร้านนี้ดี ไม่จำเป็นต้องรบกวนเจ้าของร้าน แต่เมื่อเจ้าของร้านจะให้เกียรติ เราก็ยินดี

"วันนี้เมื่อเราไปถึงที่ร้าน โปรดิวเซอร์เข้ามากระซิบว่าคุณเจ้าของร้านถามมาว่าเราจะพูดถึงสถาบันฯ มั้ย...เป็นคำถามที่แปลก แต่โปรดิวเซอร์ก็ตอบไปว่า เราไม่พูดถึงสถาบันฯ แน่นอน ถามต่อมาว่า แล้วเรื่องการเมืองล่ะ? โปรดิวเซอร์ก็ตอบตามความจริงว่าไม่ทราบว่าพิธีกรจะพูดอะไรบ้าง ซึ่งก็ถูก จะรู้ได้ไง ถามเรี่องผลกระทบของ Lockdown นี่ถือว่าเป็นการเมืองมั้ย? ถามถึงยอดขายในวันที่เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นการเมืองมั้ย ก็คงมีหลายแนวคำตอบ แต่ก็เอาเถอะ เราไม่คิดว่าจะเกิดปัญหาเพราะเราก็เป็นมืออาชีพ เราผลิตรายการก็เพื่อสร้างความบันเทิงและขยายความรู้ให้คุณผู้ชมตามหน้าที่ เราทำงานกับคนที่มีความเชื่อทางการเมืองหลากหลาย ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยต่อกันหรือไม่เราก็ยังต้องร่วมงานกัน วันนี้เราพูดเรื่องน้ำพริก เราก็จะโฟกัสที่น้ำพริก ไม่ได้มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น

"แล้วเราก็เปิดรายการกันหน้าร้าน บอกว่าในที่สุดเราก็ได้พาคุณผู้ชมมาช้อปร้านน้ำพริกในตำนาน นั่นนี่นู่น ก็ว่ากันไป ขณะที่พูดอยู่ สายตาก็เหลือบไปเห็นน้องประสานงานเดินถือไวร์เลสไมโครโฟนออกมาจากร้าน ก็ตะหงิดนิดหน่อยเพราะไวร์เลสตัวที่สามนี่ก็น่าจะเป็นของแขกรับเชิญซึ่งก็คือคุณป้า แต่รายการมันเริ่มไปแล้วก็คงถามไม่ได้ เราเห็นคุณป้ามายืนอยู่ที่ทางเข้าร้านแล้ว เราก็เลยชวนคุณผู้ชมเข้าไปในร้าน เรายกมือไหว้คุณป้าเช่นเดียวกับที่เราทำกับทุกคน คำแรกที่คุณเค้าถามก็คือ คนไหนคือคุณแขกคะ พี่แขกก็บอกคนนี้ค่ะ ส่วนนี่คือคุณโรซี่ เราสวัสดีคุณป้าอีกครั้ง แล้วแกก็พูดว่า แกไม่เคยดูรายการของเรา ไม่รู้ว่าเนื้อหาเป็นยังไง เพราะทำงานยุ่งมาก เลิกดึก กลับไปก็นอน เลยไม่เคยดูรายการ จึงไม่สะดวกให้ถ่ายทำในวันนี้ ขอกลับไปดูรายการก่อน แล้วจะเชิญกลับมาอีกที เราก็รู้แล้วล่ะว่านี่คือไม่ให้ถ่าย ในขณะไลฟ์เลย แต่เป็นการพูดอย่างสุภาพ หวาน พูดไปยิ้มไป

"ตอนนั้นก็งงๆ ทำอะไรไม่ค่อยถูก คิดแต่ว่า สิ่งนี้กำลังออนไลฟ์ทีวีอยู่ และทั้งหลายทั้งปวง ป้าจะดูแย่มาก เพราะมาปฏิเสธกันกลางไลฟ์แบบนี้ทั้งๆ ที่ทุกอย่างผ่านขั้นตอนการตกลงกันครบถ้วนทุกประการแล้ว นี่คือความ Unprofessional สุดๆ ที่เจ้าของกิจการหนึ่งจะพึงกระทำ โดยเฉพาะในสถานการณ์สาธารณะอย่างไลฟ์ทีวีเช่นนี้ แต่คุณเค้าก็ไม่รู้ตัวและไม่จบ แทนที่จะขอโทษในความไม่เป็นมืออาชีพ ในความผิดคำพูด ในความสร้างความเสียหายทางธุรกิจให้พาร์ทเนอร์ที่มีการเจรจาตกลงทุกอย่างหมดแล้ว ป้าแกก็ยังจะบอกให้เราไปกินอาหารฟรีที่แกจัดไว้ให้อีก เรามาทำงาน ไม่ได้มาขอของฟรี เราพาคุณผู้ชมกินร้านไหน เราจ่ายเงินแบบลูกค้าตลอด ไม่เคยดีลกินฟรีไม่ว่าจะที่ไหนทั้งนั้น ไม่เข้าใจว่าการบอกว่าให้กินฟรีนี้คิดว่าต้องการสื่อความหมายว่าอะไร

"ถึงตรงนี้พี่แขกคงไม่ไหวแล้วเลยบอกป้าไปว่า ไม่เป็นไร เราไม่กิน เรามีตังซื้อเองได้ ป้าก็ยังไม่เลิก ยังบอกว่า ก็คุณเป็นลูกค้าร้านเราอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ (ใช่ แต่มันเกี่ยวอะไรกับการมาล้มงานแล้วให้กินฟรี ยิ่งพูดยิ่งแย่) พี่แขกเลยบอกว่าไม่เป็นลูกค้าแล้วก็ได้ เพราะคุณไม่ต้อนรับเรา เพราะเราเป็นควายแดง ร้านนี้ไม่ต้อนรับควายแดง และต่อไปตามที่เห็นกันในคลิปนั่นแหละ จริงค่ะ คุณป้าอาจจะไม่ได้พูดว่าร้านนี้ไม่ต้อนรับควายแดง คุณป้าพูดจาสุภาพมากแต่ในเนื้อแท้แล้วอยากจะบอกว่าไม่มีความสุภาพใดๆ เลย ความสุภาพไม่ใช่แค่การพูดจาไพเราะนะคะ การปฏิเสธไม่ยอมร่วมงานกลางอากาศในขณะที่งานได้เริ่มไปแล้วนี่ต้องเรียกว่ามารยาททรามค่ะ

"คุณป้ามีเวลามากมายที่จะปฏิเสธไม่ให้เรามาถ่ายรายการ ฝ่ายประสานงานเปิดคลิปรายการให้คุณดูหลายครั้งในหลายโอกาส มีการเจรจากันไปถึงขั้นที่คุณเสนอตัวร่วมรายการเอง แถมมีคอนเท้นท์ของตัวเองที่ไม่เกี่ยวกับรายการและไม่เกี่ยวกับอะไรเลย เป็นเรื่องความต้องการของคุณล้วนๆ เราก็ยังตกลงยอมให้ แล้วคุณปล่อยให้กองยกมาถึงหน้าร้าน ถึงตรงนั้นคุณก็ยังสามารถบอกขอยกเลิกการถ่ายทำได้ คุณสามารถเรียกประสานงานหรือโปรดิวเซอร์ไปบอกทันทีที่ทีมไปถึงก็ยังได้ แต่คุณเลือกที่จะปล่อยให้รายการเริ่มแล้วจึงมาสร้างซีนบอกกันในขณะที่เริ่มไลฟ์ไปแล้ว คุณเลือกที่จะทำเป็นไม่รู้ว่าพิธีกรที่ชื่อคุณแขกคือคนไหน ทั้งๆ ที่เค้าก็เอาคลิปรายการให้คุณดูแล้วหลายรอบ เพื่อที่จะบอกกับคนดูว่า คุณไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานที่คุณเสนอตัวมาร่วมเองเลย มารยาทคืออะไร?



"แล้วคุณก็มาพูดกลางไลฟ์อีกว่าคุณยังไม่เคยดูรายการของเรา คุณจึงไม่ทราบว่าลักษณะรายการเป็นอย่างไร คุณจึงไม่สะดวกที่จะให้เราถ่ายทำ ซึ่งจะเป็นความจริงได้ยังไง เพราะอย่างที่บอก น้องเปิดคลิปรายการให้คุณดูล่วงหน้านานแล้ว และคุณเองนั่นแหละที่ยืนยันจะมาเข้ารายการพร้อมกับเรียกร้องการพีอาร์งานทำบุญของตัวเอง มารยาทมั้ยคะ?

"การที่คุณมาถามว่าเราจะพูดเรื่องสถาบันมั้ย พูดเรื่องการเมืองมั้ย มันชัดเจนว่าคุณไม่สบายใจกับเรา ไม่สบายใจกับจุดยืนทางการเมืองของเรา ถ้าคุณจะถอย คุณมีเวลาถอยก่อนเข้ารายการเยอะมาก คุณมีเวลาที่จะเรียกเราไปคุยเพิ่มเติม คุณมีเวลาที่จะปรึกษาหารือกันกับเราว่าคุณไม่สบายใจ ไม่ใช่รอให้เข้ารายการสดแล้วคุณมาปฏิเสธกันโดยใช้เหตุผลที่ทุกคนรู้ว่าไม่ใช่เหตุผล อันนี้คนอ่านก็ไปตัดสินกันเอาเองก็ได้ค่ะว่าการที่พี่แขกสรุปว่าเค้าไม่ให้ถ่ายเพราะเราเป็นควายแดงนั้น มันมีมูลมากพอให้สรุปได้หรือไม่

"Spokedark เราถูกปฏิเสธบ่อยค่ะ เราคุ้นเคยกับการถูกปฏิเสธมากๆ เราไม่ติดใจด้วย ทุกคนมีเหตุผลและข้อจำกัดของตัวเอง เราไม่เคยเอาเรื่องที่ถูกปฏิเสธออกมาฟูมฟายโวยวายอะไร เราถือว่าเป็นสิทธิ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ที่ร้านน้ำพริกนิตยา เราถือว่าเป็นความไม่เป็นมืออาชีพ ไร้มารยาทในการทำงาน และไร้มารยาทในความเป็นมนุษย์ที่พึงจะปฏิบัติต่อกัน แต่เอาจริงๆ นะ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นสดๆ ในรายการสด เราเองก็ตกใจไม่ต่างจากคนดู ณ ขณะนั้นบอกตามตรงว่าเป็นห่วงคุณนิตยามากกว่าจริงๆ เพราะมันคือการฆ่าตัวตายแบบสาธารณะชัดๆ

"เราอยากจะบอกคุณด้วยว่า ความไม่เป็นมืออาชีพของคุณทำให้เราเสียหาย เราโปรโมท episode มาร้านน้ำพริกนี้แบบยาวๆ พนักงานที่รับเงินเดือนเราจำนวนมากต้องมาเสียเวลาและเสียงานเสียการกับการดีลงานไปๆ มาๆ แล้วมาพังแบบนี้ พื้นที่สื่อของเราก็มีมูลค่า พิธีกรของเราก็มีค่าตัว ทุกอย่างเป็นต้นทุนทั้งนั้น แต่ก็เอาเถอะค่ะ คิดว่า all in all, งานนี้คนที่เสียหายทางธุรกิจและหน้าตามากที่สุดไม่น่าจะใช่เราแหละ #โค้ชแขก #น้ำพริกนิตยา"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook