ดินถล่มฝัง 8ชีวิตที่นรา-ที่ยะลาถล่มทับ 4ศพ
ดินถล่มทับบ้านที่อ.ศรีสาคร ฝังทั้งครอบครัว8ชีวิต ร.ร.ปิด50โรง ยะลาประกาศภัยพิบัติ6อำเภอ เฉพาะบันนังสตาดินถล่มฝัง4ศพทั้งครอบครัว ร.ร.ปิด98โรง
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า สถานการณ์น้ำท่วมจ.นราธิวาส เนื่องจากฝนตกหนัก 3วันติดต่อกัน ปริมาณน้ำในแม่น้ำ 3 สายหลัก คือ สุไหงโก-ลก, บางนรา และแม่น้ำสายบุรี น้ำสูงจากเดิมในช่วงเช้าเฉลี่ย 80 - 120 เซนติเมตร ขยายผลทำให้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฏรพื้นที่ทางการเกษตร ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,300 ครัวเรือน รวม 3,745 คน ถนนสายหลักและสายรองน้ำท่วมขัง 45 สาย ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้จำนวน 12 สาย น้ำท่วมขังสูงเฉลี่ย 70 - 90 เซนติเมตร
ล่าสุด ประมาณ 11.00 น. เกิดดินเชิงเขาหลังหมู่บ้านไอเจี๊ยะ ม.5 ต.ศรีสาคร อ.ศรีสาคร ถล่มลงมาใส่บ้าน จำนวน 2 หลัง คือบ้านเลขที่ 29 และบ้านพักไม่มีเลขที่ ซึ่งปลูกติดกัน มีผู้อาศัยจำนวน 8 คน คือ 1.นายสาและ ซาแล 2.นางคอซีเยาะ ซาแล 3.นายกอยา ซาแล 4.นายมาหมะ ซาแล 5.นางซีเสาะ(ไม่รู้นามสกุล) 6.ด.ช.ฮามัน ซาแล 7 .ด.ช.อาริส ซาแล และ 8.ด.ช.รีฮัน ซาแล ยังไม่ทราบชะตากรรม เนื่องจากไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปช่วยได้ เพราะน้ำท่วมสูง กระแสน้ำไหลเชี่ยว
นอกจากนี้ เสาไฟฟ้าริมถนนในหมู่บ้านกาหลง ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จำนวน 3 ต้นหักโค่นทับเส้นทาง ยานพาหนะทุกชนิดไม่สามารถสัญจรได้ ล่าสุด ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ศรีสาคร เข้าไปรื้อถอนซ่อมแซมแล้ว
พบดินถล่มทับดับทั้งครอบครัว 4 ศพที่บันนังสตา
เวลา 13.00 น. ศูนย์วิทยุ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คนจากเหตุดินถล่มบ้านเลขที่ 3/8 บ้านนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จึงแจ้ง พ.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
บริเวณศาลาภายในหมู่บ้านดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตที่ชาวบ้านนำขึ้นมาจากโคลนได้4 คน ทราบชื่อ นายอัศนัย อาศมา อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 ม.6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา นางพาฝัน ไกรวิลาศ อายุ 29 ปี ด.ญ.กรณ์ดนัย อาศมา อายุ 5ปี ด.ช.คฑาวุธ อาศมา อายุ 3ปี สภาพศพเขียวช้ำตามร่างกายในลักษณะขาดอากาศหายใจ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง
จากการสอบสวนทราบว่าช่วงเช้าที่ผ่านมา มีชาวบ้านไปพบบ้านหลังดังกล่าวอยู่บริเวณเชิงเขา ถูกโคลนไหลลงทับจนพังเสียหายทั้งหลัง และหลังจากใช้เวลาขุดหาศพประมาณ 4 ชั่วโมงก็สามารถกู้ศพทั้ง 4 ศพขึ้นมาจากโคลน
นราธิวาสโรงเรียนใน 3อำเภอปิดแล้ว 50แห่ง
ส่วนโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาสทั้ง 3 เขต ใน 7 อำเภอ ได้แก่ อ.แว้ง, สุไหงปาดี, สุคิริน ,ศรีสาคร, รือเสาะ, ระแงะ และจะแนะ จำนวนกว่า 50 โรงประกาศปิดฉุกเฉินแล้ว โดยโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 2 ประกาศปิดโรงเรียนแล้ว 24 แห่ง ในพื้นที่ 3 อำเภอ หลังน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่
ยะลาประกาศเขตภัยพิบัติ 6อำเภอ ร.ร.ปิด 98โรง
เวลา 11.30 น. ที่โรงเรียนบ้านบาโงยซิแน อ.ยะหา จ.ยะลา นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายเวโรช สายทองแท้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดยะลา ไปตรวจสอบความเสียหายโรงเรียนดังกล่าว พบว่ารั้วโรงเรียนถูกน้ำซัดเซาะพังทั้งแถบ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่าจากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในพื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดยะลา ประกอบด้วย อำเภอยะหา 6 ตำบล อำเภอกรงปินังจำนวน 3 ตำบล อำเภอธารโต 3 ตำบล อำเภอเมือง จำนวน 5 ตำบล อำภอรามันจำนวน 3 ตำบล และอำเภอบันนังสตา 1 ตำบล ขณะนี้ทางจังหวัดได้ประกาศให้พื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งหมดแล้ว เพื่อให้สามารถนำเงินที่ทางจังหวัดอนุมัติให้อำเภอละ 1 ล้านบาท ไปช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ โรงเรียนสังกัดพื้นที่การศึกษายะลาเขต 1 ได้ปิดจำนวน 23 โรง ในพื้นที่เขตการศึกษายะลาเขต 2 ปิดจำนวน 75 โรง รวมทั้งหมด 98 โรง
ชุมชนเก้าเส้งสงขลา 20หลังปิดหนีน้ำทะเลหนุน
น้ำทะเลหนุน คลื่นซัดแรงถล่มชายหาดเก้าเส้ง ทวีความรุนแรงขึ้น ชาวบ้านในชุมชนริมทะเลเก้าเส้งกว่า 20 หลังคาเรือนต้องปิดบ้านหนีน้ำทะเลที่ซัดกระหน่ำเข้าบ้านอย่างไม่ขาดสาย นอกจากนี้ ถนนริมทะเลในชุมชนและขนำที่ใช้พักเก็บเครื่องมือประมงถูกคลื่นซัดพังเสียหายตลอดแนว รวมทั้งเรือประมงต้องนำขึ้นมาเก็บบนฝั่ง
นายวิชากร บัวหอม ปลัดเทศบาลนครสงขลา ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครสงขลากล่าวว่า ทางเทศบาลนครสงขลาพยายามเข้ามาช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในชุมชนริมทะเลเก้าเส้ง โดยจะนำเครื่องจักรเข้ามาเปิดปากคลองสำโรงเพิ่มเติมให้มีความกว้างมากขึ้น เพื่อที่จะระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันเปลี่ยนไปเนื่องจากระดับน้ำทะเลมีความสูงกว่าระดับน้ำในคลองสำโรง เมื่อคลื่นซัดน้ำทะเลจะไหลลงคลองสำโรง จึงต้องระงับการขุดเปิดปากคลองสำโรงเพิ่มเติมไว้ก่อน อีกทั้งได้สั่งการให้ทำการสำรวจบ้านในชุมชนริมทะเลเก้าเส้งที่ได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นซัดกระหน่ำชายหาดเก้าเส้งในครั้งนี้เพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป
ภาคใต้ฝนยังตกหนัก ระวังน้ำท่วม เรือเล็กงดออกฝั่ง
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 6 พฤศจิกายน ว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มของจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่จะเกิดขึ้นใน 1-2 วันนี้
สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กยังคงควรงดออกจากฝั่งในวันนี้ (6 พ.ย.52) อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก(6 - 7พ.ย.)