'เอ-ไชยา' กับเรื่องฮา ๆ หลังฉากลิเก

คอลัมน์คนดังหลังฉาก ขอเอาใจแฟน ๆ ทุกกลุ่มแล้วก็ทุกเพศ ทุกวัย วันนี้เราจะพาไปดูลิเกคณะ "ไชยา มิตรชัย" ที่วัดอรุณอัมรินทร์ แถวฝั่งธน นัดแนะกับพระเอกหน้าหวาน "เอ-ไชยา" มาร่วมเดือนเพิ่งจะได้คิวนี่แหละ อย่ารอช้า "หนุ่มเอ" มีคิวขึ้นเวทีตอนสามทุ่ม ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่า ลิเกเวลาอยู่หน้าเวที ผู้แสดงทุกคนดูหล่อดูสวยกันทั้งนั้น แต่หลังเวทีซิ...มีเรื่องเยอะแยะมากมาย

ว่าแล้ว "เอ-ไชยา" ที่เพิ่งเดินทางมาจากบ้านที่จ.อ่างทอง เพื่อเปิดการแสดงลิเกที่วัดแห่งนี้ รีบคุยกับเราทันที ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับลิเกคือ "เนื้อเรื่องครับ อย่างวันนี้มาแสดงที่วัดอรุณฯ อากาศหนาว ๆ แบบเนี้ย เล่นโศกไม่ได้เลย ต้องเป็นเฮฮา ถ้าเล่นโศกแล้วคนจะลุก จากประสบการณ์ที่เล่นมา ต่อให้เล่นดียังไงก็เถอะ มันหนาวคนนั่งดูไม่ได้หรอก เป็นลิเกไชยา มิตรชัยแล้วพอจะเล่นอะไรมันก็ยาก นึกจะหยิบอะไรมาเล่นง่าย ๆ มันไม่ใช่"

บรรดาแม่ยกและแฟน ๆ ลิเก "ไชยา มิตรชัย" ชอบแนวไหน "ชอบฮา ๆ แล้วก็ชอบอะไรก็ได้ที่พระเอกออกเยอะ ๆ แล้วก็นางเอก (แอน มิตรชัย) ออกเยอะ ๆ เพราะเป็นคู่ขวัญ เราดีคนเดียวไม่ได้ มันต้องมีองค์ประกอบ เป็นไชยาถ้าไม่มีทีมเวิร์กที่ดี ก็คงไปไม่รอดเหมือนกัน จริง ๆ แล้วในคณะตัวนักแสดงมีเยอะมาก แต่ใครจะเปลี่ยนผมลำบาก เจ้าภาพจะไม่ยอม พอเปลี่ยนฉากสองฉากเริ่มมีปัญหาแล้ว แต่ตอนนี้ดีอย่างหนึ่งคนที่เปลี่ยนคือ น้องชายผมเอง คนรับได้มันเริ่มน่ารัก คือความน่ารักเราจะหมดไปแล้ว...ฮะ...ฮะ...ฮ่า" จากนั้น "เอ-ไชยา" เริ่มน้ำลายแตกฟอง เล่าเหตุการณ์หลังฉากลิเก ด้วยอาการตื่นเต้นว่า "คือเวลาปวดฉี่ จะไปหาห้องน้ำเข้า บางครั้งไม่สะดวก ผมใช้วิธีตัดขวดน้ำโพลาริสเป็นรูปกระบอก บางครั้งแสดงอยู่หน้าเวทีกำลังรำป้อเชียว อยู่ ๆ เกิดท้องเสียทนไม่ไหว ต้องกระซิบตัวโจ๊กให้เล่นถ่วงเวลาไว้ แล้วผมก็วิ่งไปเข้าห้องน้ำ มันก็ไม่หาย ถึงเวลาที่พระเอกต้องออกไปหน้าเวทีก็ไม่มี ตัวโจ๊กแซว ไชยา...มัวขี้อยู่ พอผมออกไปคนดูก็ฮาเลย เราก็อาย"

ได้ยินว่าเคยถูกผีหลอก จริงหรือเปล่า "จริงครับ ผมเป็นคนกลัวความมืด กลัวผี แล้วก็เคยถูกผีเด็กหลอก เล่นลิเกนี่แหละปวดท้องก็เลยเดินไปเข้าห้อง ส้วม ยังไม่ทันจะทำธุระส่วนตั๊ว..ส่วนตัว ก็มีเด็กมาเคาะประตูเสียงดังโครม ๆ ๆ ตอนนั้นลืมกลัวมั้ง ตะโกนออกไปเคาะทำไม ออกไปโดนแน่ พอออกมาได้ผมขนลุกซู่เลย"

เล่นลิเกมาหลายสิบปี เจอแต่เรื่องดี ๆ มาตลอด เชื่อว่าคงเคยเจอเหตุการณ์ที่ทำให้ รู้สึกท้อ ถึงขนาดจะเลิกเล่นลิเกบ้างมั้ย "ไม่เคยท้อครับ ยังเคยพูดกับน้องชายเลยว่า คนดูลิเกน้อยอย่าท้อ แม้แต่คนเดียวมาดูเราเราต้องเล่นลิเกของเราให้ดีอย่าเล่นแบบสั่ว ๆ พี่ทำไมต้องเล่นลิเก เพราะพี่มีกินมีใช้เพราะอาชีพนี้ ถ้าเรา ไม่ตั้งใจเล่นเท่ากับเราดูถูกอาชีพ ลิเกห้ามพูด คำว่าเลิกเล่นลิเก...เค้าถือ กันมาก เหมือนเป็นเคล็ด อย่างพ่อปัจจุบันไม่ได้เล่นแล้ว ใช้แค่คำว่าหยุด แล้วเราก็จะมีกินมีใช้ไปตลอด"

ที่ผ่านมาแสดงลิเกแต่ละคืน ได้พวงมาลัยติดแบงก์มากที่สุดเท่าไหร่ "ล้านกว่า ๆ ได้เป็นเช็คเป็นเงินสด แต่วันที่ไม่ได้เงินเลย ก็มี ได้พวงมาลัยเปล่าได้ดอกไม้ บางทีฝนฟ้าตก คนดูน้อยอะไรอย่างเนี้ย คนมองว่าโอ้โฮ...ได้ ทุกคืน ๆ คืนที่ไม่ได้ไม่เห็นมีใครพูด" (หัวเราะเสียงใส)

ทั้งแสดงลิเก, เล่นละคร, ร้องเพลง เรียกว่าครบทุกรส อะไรคือสุดยอดของ "เอ-ไชยา" ตอบทันที "ลิเกสุดยอด เพราะเราเกิดจากตรงนี้ และเป็นอาชีพที่ได้เงินง่าย แต่เงินก็จะหมดไปง่าย ถามว่าเล่นละครได้เงินเยอะมั้ย เยอะมาก แต่สู้ลิเกไม่ได้ ลิเกรับแพงจริง 2 แสน 3 แสน แต่พอหักแล้วผมได้ค่าตัวเท่ากับลูกน้องในคณะ แค่หลักหมื่น"

ณ วันนี้ "เอ" มาถึงจุดสูงสุดของชีวิตพระเอกลิเกแล้ว...ถูกต้องมั้ย "ถูกต้องคร้าบ...รู้สึกว่าอิ่มตัวมานานแล้ว เพียงแต่ว่าที่ทำอยู่ ไม่เคยคิดว่าจะแข่งขันกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง ชื่อเสียงที่เราสั่งสมมา เราคงจะต้องคงไว้แต่ความดี แล้วก็ผลงานซึ่งจะทำให้ตกต่ำไปกว่านี้ไม่ได้ คนเราถึงที่สูงสุดแล้ว มันจะไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว มันจะต้องมีคลื่นใหม่เข้า มา ตอนนี้เราก็ต้องประคองให้อยู่ แล้วก็ทำของเราให้ดีที่สุด" มาถึง คำถามสุดท้ายใคร ๆ เค้าก็พูดกันว่า "เอ-ไชยา" มีเงินเป็นร้อยล้าน "ถ้าดูจากผลงาน เหมือนเป็นอย่างนั้น ส่วนตัวมีเงินแค่ล้านสองล้าน เอาเป็นว่ามีแต่เป็นอสังหาริมทรัพย์ดีกว่า ก่อนหน้านี้สร้างบ้านให้พ่อแม่ แล้วก็ญาติพี่น้อง นี่กำลังจะสร้างบ้านให้ตัวเอง มีเนื้อที่ 20 กว่าไร่ที่อ่างทอง"

"ไชยา มิตรชัย" พระเอกลิเกเงินล้าน เขาเกิดมาเพื่อให้กับทุกคนจริง ๆ

เขาจึงมีแต่คนรัก...และรักตลอดไป.

'ปิ๊กมี่'