รวมฮิตคดีโควิด คิดบัญชีประยุทธ์-คณะรัฐมนตรี เซ่นเตียงไม่พอ-คนตายคาบ้าน

รวมฮิตคดีโควิด คิดบัญชีประยุทธ์-คณะรัฐมนตรี เซ่นเตียงไม่พอ-คนตายคาบ้าน

รวมฮิตคดีโควิด คิดบัญชีประยุทธ์-คณะรัฐมนตรี เซ่นเตียงไม่พอ-คนตายคาบ้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายระลอกในประเทศ ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากความหละหลวมของเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลให้เกิดข้อวิจารณ์รัฐบาล แต่ยังพบว่ารัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเผชิญกับความพยายามให้มีการดำเนินคดีด้วย sanook.com รวบรวมคดีและความพยายามฟ้องร้องที่เด่นๆ เอาไว้แล้ว ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

ไทยสร้างไทยณวัฒน์เสรีรวมไทย • ก้าวไกล+ร้านนวด • นิสิตจุฬา

"สุดารัตน์" นำไทยสร้างไทย #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมกับสมาชิกพรรค ลุยแคมเปญ #ฟ้องรัฐบาลฆาตกร เพื่อระดมรายชื่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ที่พรรคมองว่าผิดพลาดจนทำให้สูญเสียชีวิตโดยไม่จำเป็น ซึ่งในเวลาต่อมาพบว่าระดมรายชื่อได้มากกว่า 700,000 รายชื่อ

พรรคไทยสร้างไทย มองว่า การควบคุมโรคโควิด-19 ที่ควบคุมไม่ได้เสียทีของรัฐบาล ทำให้ประชาชนต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเองทั้งค่าหน้ากากอนามัย ค่ารักษา ส่วนวัคซีนก็นำเข้ามาล่าช้า จำกัด ทั้งยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ทำให้ประชาชนต้องออกเงินเองเพื่อได้รับวัคซีนที่ดีพอ จุดนี้เองที่ทำให้มองว่ารัฐบาลน่าจะละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 47 วรรค 3 ที่ระบุว่า 

"บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคติดต่ออันตรายจากรัฐโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"

พรรคไทยสร้างไทย

ไม่ใช่แค่นั้น พรรคไทยสร้างไทยมองว่า การดำเนินนโยบายควบคุมโรคที่ผิดพลาด อย่างเช่น การไม่ปูพรมตรวจ ที่ทำให้ไม่ทราบว่าเชื้อซ่อนอยู่ที่ใดบ้าง และการไม่ลำดับความสำคัญของผู้ป่วย จนนำมาสู่การไม่มีเตียง ไม่มีรถพยาบาลมารับ ที่ส่งผลให้บางรายเสียชีวิตอยู่ที่บ้านอย่างน่าอนาถ ยังอาจละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 55 ที่ระบุว่า

"รัฐต้องดําเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค และส่งเสริม และสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บริการสาธารณสุขตามวรรคหนึ่ง ต้องครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม และป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพด้วย

รัฐต้องพัฒนาการบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพและมีมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง" 

นอกจากนี้ยัง เชื่อว่า การละเมิดรัฐธรรมนูญ 2 ข้อดังกล่าวนั้น ยังทำให้เชื่อได้ว่ารัฐบาลจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 157 เช่นกัน

พรรคไทยสร้างไทยนำรายชื่อหลายแสนรายชื่อดังกล่าวไปยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่งศาลแห่งนี้ส่งสำนวนการฟ้องดังกล่าวให้ประธานศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าคำร้องดังกล่าวอยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางหรือไม่ ซึ่งคาดว่าประธานศาลอุทธรณ์จะให้คำตอบได้ในวันที่ 15 พ.ย. นี้

"ณวัฒน์" เอาด้วย ฟ้องประยุทธ์แก้โควิดล้มเหลว

นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้บริหารองค์กรการประกวดมิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล และผู้ดำเนินรายการชื่อดัง ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 13 ส.ค. เช่นกัน

"ผมไม่ไหวแล้วครับ มันมีผลกระทบอย่างมาก ต่อการใช้ชีวิตภายใต้การบริหารงานของท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนที่จัดหาไม่เพียงพอและมีการเลื่อนอยู่ตลอดเวลา" นายณวัฒน์ กล่าว

ส่วนข้อกล่าวหาที่นายณวัฒน์ฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ คือการละเมิดกฎหมายอาญามาตรา 157 และมาตรา 165

ก่อนหน้านั้น นายณวัฒน์ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ซึ่งตนมองว่าตนและประชาชนทั่วไปไม่ได้รับแม้แต่การจัดสรรหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ ส่วนการตรวจหาเชื้อก็ต้องเสียเงิน ซึ่งไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และเมื่อติดเชื้อก็ต้องจ่ายเงินค่ารักษาที่สูงมาก ซึ่งตนโชคดีที่ตนซื้อประกันภัยเอาไว้ ถึงอย่างนั้น ตนก็ต้องเสียอาชีพพิธีกรไป เพราะป่วยรุนแรง ทำให้ขาดรายได้ และต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายเดือน ทั้งหมดนี้ตนมองว่าเกิดจากการปล่อยปละละเลยของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นผู้อำนวยการ ศบค.

ณวัฒน์ อิสรไกรศีล - Mr.Nawat Itsaragrisil / Facebook

"เสรีรวมไทย" ปลุกคนไทยเอาผิดนายกฯ

พรรคเสรีรวมไทยเป็นอีกฝ่ายหนึ่งที่มีความพยายามเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จากการดำเนินนโยบายควบคุมโรคโควิด-19 ที่พรรคมองว่าล้มเหลว

เมื่อเดือน ก.ค. พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงว่ารัฐบาลดูแลประชาชนไม่ได้ จนต้องสูญเสียชีวิตให้กับโรคโควิด-19 แถมประชาชนยังต้องซื้อหน้ากากอนามัยสวมใส่เอง และออกตามหาสถานที่ตรวจโรคเองและเป็นผู้แบกรับค่าใช้จ่าย ไม่พอแค่นั้น ยังต้องหาหนทางฉีดวัคซีนเอง ขณะที่รัฐธรรมนูญระบุให้ประชาชนทุกคนต้องเข้าถึงการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายหากมีโรคระบาดร้ายแรง

"ถึงเวลาแล้วที่พี่น้องประชาชนจะต้องลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องและรักษาสิทธิที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ" พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แถลง

"ขอให้ประชาชนทุกท่านได้กรุณานำใบเสร็จรับเงินที่ซื้อหน้ากากอนามัย ใบเสร็จรัเบิงนที่ท่านไปตรวจรักษา ใบเสร็จรับเงินที่ท่านต้องไปซื้อวัคซีนฉีดเพื่อป้องกันโรคระบาดโควิด-19 หลักฐานต่างๆ ที่ท่านได้รับความเสียหายจากมาตรการของรัฐ ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจใกล้บ้านของท่าน ให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน ที่กระทำการละเมิดรัฐธรรมนูญ"

Voice TV

ก้าวไกลรวมร้านนวด-สปา ฟ้องแบบกลุ่ม

ด้านพรรคก้าวไกลก็นำกลุ่มร้านนวดและสปาในกรุงเทพมหานครและจังหวัดสีแดงเข้ม บุกไปยื่นฟ้องที่ศาลแพ่งเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกค่าเสียหาย 200 ล้านบาทจากรัฐบาล ที่ออกมาตรการปิดกิจการโดยอ้างว่าเพื่อควบคุมโรคโควิด-19

นายพิทักษ์ โยธา นายกสมาคมจารวีเพื่ออนุรักษ์นวดแผนไทย กล่าวว่า พอมีการล็อกดาวน์หรือการระบาดครั้งใด ร้านของพวกตนก็จะถูกสั่งปิดทุกครั้ง ทั้งที่ไม่เคยเป็นสถานที่เสี่ยงหรือมีผู้ติดเชื้อ จนผู้ประกอบการบางรายต้องปิดกิจการ และยังไม่ได้รับการเยียวยาเลยสักครั้ง จึงเป็นสาเหตุให้มาฟ้องเรียกค่าเสียหาย

INN News

ส่วนนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เป็นตัวกลางยื่นฟ้องให้กลุ่มผู้ประกอบการ ให้ความเห็นว่า การฟ้องแบบรวมกลุ่ม (Class Action) นี้เป็นครั้งแรก และอยากให้เป็นคดีประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชนที่ทำให้เกิดความเสียหายจากคำสั่งของตัวเอง และถ้ารัฐบาลจะมาเยียวยาตอนนี้ก็สายไปแล้ว เพราะตลอดหนึ่งปีกว่าไม่คิดจะเยียวยาเลย

นางสาวศิริกัญญา กล่าวต่อไปว่า หลังจากนี้จะมีการนำผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ เช่น ร้านอาหาร ผับ บาร์ มาร่วมฟ้องด้วย

อย่างไรก็ตาม คดีนี้มีกำหนดไต่สวนในวันอังคาร (21 ก.ย.) แต่ศาลกลับเลื่อนนัดดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 21-23 ธ.ค. ปีนี้ 

พรรคก้าวไกล เผยอีกว่าณ วันอังคาร (21 ก.ย.) มีร้านนวดเข้าร่วมเป็นสมาชิกในคดีแบบกลุ่มกว่า 200 ราย และร้านนวดที่ยังเปิดกิจการอยู่หรือปิดไปแล้วก็เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพิ่มเติมได้จนกว่าจะมีการนัดสืบพยานในเดือน ธ.ค.

นิสิตจุฬา ถือใบเสร็จค่าหน้ากากบุก สภ.หาดใหญ่ แจ้งจับประยุทธ์

นอกจากพรรคการเมืองและคนมีชื่อเสียงแล้ว คนทั่วไปก็ต้องการให้ดำเนินคดี พล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน

เมื่อวันที่ 22 ก.ค. นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปี 1 วัย 18 ปี นำใบเสร็จหน้ากากอนามัยที่ตนซื้อไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) หาดใหญ่ ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทั้งที่รัฐธรรมนูญระบุให้ทุกคนมีสิทธิได้รับการป้องกันและขจัดโรคระบาดอันตรายโดยไม่ค่าใช้จ่าย

นิสิตรายนี้ บอกอีกว่า การแจ้งความครั้งนี้ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับผิดชอบ เพราะเป็นนายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการ ศบค. ที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง โรคโควิด-19 ระบาดมาตั้งแต่ต้นปี 2563 แต่เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งปีกลับควบคุมไม่ได้ แถมยังระบาดหนักกว่าเดิมอีก จึงเชื่อว่านายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลยต่อหน้าที่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook