สุดเศร้า..พ่อลูกอ่อนเสียชีวิต หลังฉีดวัคซีนสูตรไขว้ เผยลูกเพิ่งคลอดได้ 5 วัน ยังไม่ทันเห็นหน้า
วันที่ 25 ก.ย.64 เวลา 10.30 น. ที่ รพ.พุทธโสธร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีบรรดาญาติพี่น้องของ นายอนุรักษ์ กุหลาบศรี อายุ 35 ปี ผู้เสียชีวิตหลังรับการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ มาขอรับศพผู้เสียชีวิตนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาตามประเพณีต่อไป
โดย นางทองคำ กุหลาบศรี อายุ 59 ปี ผู้เป็นมารดา เล่าว่า บุตรชายตนเองเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง และไม่เคยเจ็บป่วยนับตั้งแต่เกิด มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ มีครอบครัวแล้ว โดยมีบุตรกับภรรยาจำนวน 2 คน โดยคนโตอายุ 11 ขวบ ส่วนคนเล็กเพิ่งคลอดออกมาได้เพียง 5 วัน ก่อนที่เจ้าตัวจะเสียชีวิตลง ทั้งที่ลูกคนเล็กยังไม่ได้มีโอกาสได้เห็นหน้าผู้เป็นพ่อ
แต่ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากที่ได้ไปฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 (แอสตร้าเซนเนก้า) จากทางหน่วยบริการของ รพ.พุทธโสธร ยังที่ภายในจุดบริการฉีดวัคซีนมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยเป็นการฉีดวัคซีนแบบสูตรไขว้ จากเข็มแรกที่ได้ไปรับวัคซีนซิโนแวค จากหน่วยบริการเดียวกันเมื่อวันที่ 29 ก.ค.64 และเข็มที่ 2 เมื่อวันที่ 19 ส.ค.64
แต่หลังจากได้รับการฉีดวัคซีนมาแล้ว ในช่วง 7 วันแรก ได้มีอาการปวดศีรษะ มึนงงสับสน พูดจาวกไปวนมา กระทั่งวันที่ 26 ส.ค.64 บุตรชายได้เริ่มมีอาการเวียนศีรษะจนถึงขั้นหมดสติ จากนั้นยังมีอาการเบลอจนจำใครไม่ได้ ก่อนที่จะถูกนำมาส่งยังที่ รพ.พุทธโสธร และต้องนอนแน่นิ่งเป็นเจ้าชายนิทรามาเป็นเวลานานถึงเกือบ 1 เดือน ก่อนที่จะมาเสียชีวิตลงเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.64) รวมระยะเวลานอนรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลนานถึง 30 วัน
ทาง รพ.ได้แจ้งให้เข้ามารับศพออกไปประกอบพิธีทางศาสนาในวันนี้ โดยที่ทาง รพ.ได้ทำการเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากทางสำนักงานประกันสังคมไปเป็นเงินจำนวน 511,132.25 บาท แต่ทาง รพ.กลับไม่ได้ระบุถึงสาเหตุการตายที่แน่ชัด โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงสาเหตุการเสียชีวิตในใบมรณบัตรว่า “สมองอักเสบจากไวรัส”
จึงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนต่อทางญาติ และมีการช่วยเหลือเยียวยาต่อทางครอบครัวบ้าง เนื่องจากเขาเป็นเสาหลักของครอบครัว ตั้งใจทำงานเลี้ยงคนในครอบครัว รักลูกเมีย และพ่อแม่พี่น้อง ทั้งยังเป็นคนนิสัยดีตั้งใจทำมาหากินไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง หากขาดเสาหลักของครอบครัวไป หลานๆ อีก 2 คนจะอยู่กันอย่างไร อีกทั้งคนเล็กก็เพิ่งจะคลอดออกมาได้แค่เพียง 5 วันเท่านั้น นางทองคำ พร้อมญาติๆ เล่าให้ทางผู้สื่อข่าวฟัง
ขณะเดียวกัน นายณัฐ ตันเฮง อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นคู่เขยของผู้ตาย กล่าวว่า ตนเองพร้อมด้วยนายอนุรักษ์ ได้เดินทางไปฉีดวัคซีนพร้อมกันทั้ง 2 ครั้ง ในสถานที่แห่งเดียวกัน และรับวัคซีนเข็มแรกเป็นซิโนแวคเช่นเดียวกัน สำหรับตนนั้นในเข็มแรกมีอาการข้างเคียง คือ มีไข้ขึ้นอ่อนๆ ส่วนในเข็มที่ 2 หลังได้รับการฉีดวัคซีนแบบไขว้ ที่เปลี่ยนมาเป็นแอสตร้าเซนเนก้า เช่นเดียวกันกับผู้ตาย
แต่ตนเองนั้นมีอาการข้างเคียงไปในลักษณะที่มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัวจนลุกไม่ขึ้นเป็นเวลา 1 วัน จากนั้นได้กินยาแก้ไข้ไปในทุกๆ 4 ชม. ต่อมาอาการจึงเริ่มดีขั้นตามลำดับ โดยมีอาการข้างเคียงอยู่ลักษณะนี้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนที่ร่างกายจะกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติตามเดิม นายณัฐ กล่าว