ศบค.โว! ปีนี้มีวัคซีนโควิดรวม 178.2 ล้านโดส เล็งซื้อต่อสเปน-ฮังการี เป้าปีหน้า 120 ล้านโดส
โฆษก ศบค. แจงปีนี้มีวัคซีนโควิดรวม 178.2 ล้านโดส ปีหน้าวางเป้าหมายจัดหาทั้งสิ้น 120 ล้านโดส เพื่อฉีดในเด็กอายุ 3-11 ปี ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นเข็มกระตุ้นภูมิหรือเข็มที่ 3
วันนี้ (27 ก.ย.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ได้รับทราบตามมติของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ในการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม แบบสูตรไขว้ ซึ่งอาจใช้หลักการเดียวกับวัคซีนซิโนแวค
ทั้งนี้ เนื่องจากยังต้องรอข้อมูลจากผลการวิจัยเพิ่มเติม ตามสูตรดังนี้
ซิโนฟาร์ม – ไฟเซอร์ ระยะห่างระหว่างเข็ม 3 สัปดาห์
ซิโนฟาร์ม – แอสตร้าเซนเนก้า ระยะห่างระหว่างเข็ม 3-4 สัปดาห์
ซิโนฟาร์ม – ซิโนฟาร์ม กระตุ้นด้วย แอสตร้าเซนเนก้า ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังเข็มที่ 2
ซิโนฟาร์ม – ซิโนฟาร์ม กระตุ้นด้วย ไฟเซอร์ ตั้งแต่ 4 สัปดาห์ขึ้นไป หลังเข็มที่ 2
อย่างไรก็ตาม การฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม แบบสูตรไขว้ จึงยังไม่ได้กำหนดเป็นสูตรหลักของประเทศ การใช้สูตรนี้จึงเป็นไปตามเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนอนุญาตการใช้วัคซีน โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตามความสมัครใจของผู้รับวัคซีน และดุลยพินิจของผู้ให้บริการ
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงแผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับประเทศไทย ในระหว่างเดือน ต.ค.-ธ.ค. 64 ดังนี้
ตุลาคม 2564
มีแผนการจัดหาวัคซีนหลัก 24 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม) อีก 6 ล้านโดส
พฤศจิกายน 2564
มีแผนการจัดหาวัคซีนหลัก 23 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม) อีก 12.5 ล้านโดส
ธันวาคม 2564
มีแผนการจัดหาวัคซีนหลัก 24 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก (ซิโนฟาร์ม, โมเดอร์นา) อีก 14.5 ล้านโดส
ทั้งนี้ หากรวมกับการจัดหาวัคซีนต่อเนื่องตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา จะทำให้มีจำนวนวัคซีนโควิดที่ใช้ในปี 2564 รวมทั้งหมด 178.2 ล้านโดส แบ่งเป็น วัคซีนหลัก 126.2 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก 52 ล้านโดส
โฆษก ศบค. ยังกล่าวถึงความก้าวหน้าในการเจรจาจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ต่อจากสหภาพยุโรป โดยกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งว่า มีประเทศในสหภาพยุโรปที่มีวัคซีนโควิด และพร้อมจะขายต่อ ดังนี้
1. สเปน มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.65 แสนโดส ราคาโดสละ 2.9 ยูโร และวัคซีนไฟเซอร์ 2.78 ล้านโดส ราคาโดสละ 15.5 ยูโร
2. ฮังการี มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 4 แสนโดส ราคาโดสละ 1.78 ยูโร
สำหรับราคาวัคซีนดังกล่าวข้างต้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้แก่ ค่าบรรจุภัณฑ์และที่ควบคุมอุณหภูมิ ค่าขนส่งทั้งระหว่างประเทศ และภายในประเทศไทย ค่าภาษีศุลกากรขาออก-ขาเข้า ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าประกันความเสียหาย
“ในที่ประชุม ศบค.ก็เห็นชอบตามแผนนี้ในการให้จัดหาวัคซีน และให้นำเข้า ครม.เพื่อเสนอของบประมาณต่อไป” โฆษก ศบค. ระบุ
นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงเป้าหมายและแผนการจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค. 64 ว่า ในกรณีที่มีการจัดหาวัคซีนหลักได้ครบตามแผน 126.2 ล้านโดส จะเป็นการฉีดในปีนี้ทั้งหมด 119 ล้านโดส ยกไป 6 ล้านโดสเป็นเข็มที่ 2 และ 1.2 ล้านโดสเป็นเข็มกระตุ้นที่จะฉีดในต้นปี 2565 โดยเป้าหมายการฉีดวัคซีนภายในปีนี้นั้น เข็มแรกต้องครอบคลุม 71% ในเดือน พ.ย. และ 85% ในเดือน ธ.ค. ส่วนเข็มสองต้องครอบคลุม 74% ภายในเดือน ธ.ค.
รวมทั้งให้ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายครบ 2 เข็ม และผู้เคยติดเชื้อโควิดมาแล้ว ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น 1 เข็ม โดยมีแผนการจัดสรรให้มีผู้ได้รับการกระตุ้นเดือนละ 1-2 ล้านโดส ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 64
อย่างไรก็ตาม โฆษก ศบค. ยังเปิดเผยรายละเอียดการจัดหาวัคซีนโควิดสำหรับปี 2565 ว่า คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติและคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) มีมติรับทราบแผนการจัดหาวัคซีนปี 2565 จำนวน 120 ล้านโดส ได้แก่
1. วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 60 ล้านโดส
กำหนดส่งมอบไตรมาส 1, 2, 3 ปี 2565 จำนวน 15 ล้านโดส 30 ล้านโดส และ 15 ล้านโดส ตามลำดับ จ่ายเป็นเงินบาท เปลี่ยนเป็นวัคซีน Gen 2 ได้ เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ
2. วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 30-50 ล้านโดส
กำหนดส่งมอบไตรมาส 1, 2, 3, 4 ปี 2565 จำนวน 7.5 ล้านโดส 7.5 ล้านโดส 17.5 ล้านโดส และ 17.5 ล้านโดส จ่ายเป็นเงินบาท เปลี่ยนเป็นวัคซีน Pediatric Vaccine หรือ Adapted Vaccine ได้ เมื่อวิจัยแล้วเสร็จ
3. วัคซีนตัวอื่นๆ จำนวน 10-30 ล้านโดส
- อยู่ระหว่างการเจรจา และจัดทำเงื่อนไขสัญญา ให้แล้วเสร็จภายใน ก.ย. 64
- การจัดสรรวัคซีนปี 65 สำหรับกลุ่มเด็ก 3-11 ปี ผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน และเป็นการกระตุ้นเข็มสาม
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ