ปภ.อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมคงเหลือ 17 จังหวัด เสียชีวิต 7 ราย สูญหาย 1 ราย

ปภ.อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมคงเหลือ 17 จังหวัด เสียชีวิต 7 ราย สูญหาย 1 ราย

ปภ.อัปเดตสถานการณ์น้ำท่วมคงเหลือ 17 จังหวัด เสียชีวิต 7 ราย สูญหาย 1 ราย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปภ.รายงานเกิดสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” รวม 30 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ในอีก 17 จังหวัด พบผู้เสียชีวิต 7 ราย สูญหาย 1 ราย

วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลพายุ “เตี้ยนหมู่” ในช่วงวันที่ 23 - ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เกิดอุทกภัยใน 30 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม รวม 172 อำเภอ 805 ตำบล 4,715 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล ประชาชนได้รับผลกระทบ 197,795 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย (ลพบุรี 6 ราย และเพชรบูรณ์ 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ 1 ราย)

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี และปราจีนบุรี) ยังคงมีสถานการณ์ 17 จังหวัด ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนต่อไป 

สถานการณ์ 17 จังหวัด ที่ยังเผชิญเหตุการณ์อุทกภัย มีดังนี้

  • สุโขทัย น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอศรีสำโรง อำเภอคีรีมาศ และอำเภอเมืองสุโขทัย ระดับน้ำลดลง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

  • พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่อำเภอวังทอง ระดับน้ำทรงตัว

  • เพชรบูรณ์ เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอหนองไผ่ อำเภอวิเชียรบุรี อำเภอศรีเทพ อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และอำเภอบึงสามพัน ระดับน้ำทรงตัว

  • พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบึงนาราง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพทะเล และอำเภอสามง่าม ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ระดับน้ำทรงตัว อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

  • กำแพงเพชร เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอปางศิลาทอง ระดับน้ำทรงตัว

  • ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ไชย อำเภอมัญจาคีรี และอำเภอแวงน้อย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำทรงตัว อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

  • ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 12 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส อำเภอเนินสง่า อำเภอบ้านเขว้า อำเภอภูเขียว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอคอนสาร อำเภอหนองบัวแดง อำเภอบ้านแท่น อำเภอคอนสวรรค์ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ จุดอพยพศูนย์เยาวชนเทศบาลเมืองยังไม่มีผู้พักพิง

  • นครราชสีมา น้ำล้นอ่างเก็บน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อำเภอด่านขุนทด อำเภอสูงเนิน อำเภอโนนสูง อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอพิมาย อำเภอปักธงชัย อำเภอโนนโทย อำเภอคง อำเภอพระทองคำ อำเภอจักราช อำเภอสีดา อำเภอขามสะแกแสง และอำเภอบ้านเหลื่อม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

  • อุบลราชธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และอำเภอวารินชำราบ ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ

    นครสวรรค์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอลาดยาว และอำเภอท่าตะโก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำทรงตัว อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

  • อุทัยธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสว่างอารมณ์ อำเภอเมืองอุทัยธานี อำเภอลานสัก อำเภอบ้านไร่ และอำเภอทับทัน ระดับน้ำทรงตัว

  • ชัยนาท เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอมโนรมย์ อำเภอวัดสิงห์ อำเภอเนินขาม และอำเภอหันคา ระดับน้ำทรงตัว

  • ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี อำเภอชัยบาดาล อำเภอบ้านหมี่ อำเภอโคกสำโรง อำเภอท่าวุ้ง อำเภอพัฒนานิคม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

  • สุพรรณบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางปลาม้า และอำเภอสองพี่น้อง ระดับน้ำทรงตัว

  • สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมืองสิงห์บุรี และอำเภอค่ายบางระจัน ระดับน้ำทรงตัว อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ระดับน้ำทรงตัว

  • พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ อำเภอเสนา และอำเภอบางบาล ยังน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว

ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันหลายพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะที่เมื่อเวลา 09.20 น. ปภ.รายงานสถานการณ์ ข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัย ประจำวันที่ 29 กันยายน 2564 ดังนี้

พื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง

ภาคเหนือ

จ.สุโขทัย (อ.เมืองฯ ศรีสำโรง คีรีมาศ) กำแพงเพชร (อ.ปางศิลาทอง) พิจิตร (อ.บึงนาราง โพธิ์ประทับช้าง โพทะเล สามง่าม) พิษณุโลก (อ.วังทอง บางระกำ) เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ วิเชียรบุรี หนองไผ่ ศรีเทพ บึงสามพัน) นครสวรรค์ (อ.ลาดยาว ท่าตะโก) และอุทัยธานี (อ.เมืองฯ ทัพทัน ลานสัก สว่างอารมณ์)

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จ.นครราชสีมา (อ.เมืองฯ ด่านขุนทด สูงเนิน โนนสูง พิมาย โนนไทย คง พระทองคำ จักราช) ชัยภูมิ (อ.จัตุรัส หนองบัวระเหว เมืองฯ เนินสง่า บ้านเขว้า ภูเขียว บำเหน็จณรงค์ เกษตรสมบูรณ์ คอนสาร หนองบัวแดง บ้านแท่น คอนสวรรค์) ขอนแก่น (อ.โคกโพธิ์ไชย มัญจาคีรี แวงน้อย ชุมแพ) ร้อยเอ็ด (อ.เสลภูมิ) ศรีสะเกษ (อ.ห้วยทับทัน กันทรารมย์) และอุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชําราบ)

ภาคกลาง

จ.ชัยนาท (อ.มโนรมย์ วัดสิงห์ เนินขาม หันคา) พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล พระนครศรีอยุธยา) ลพบุรี (อ.ชัยบาดาล โคกสําโรง บ้านหมี่ เมืองฯ พัฒนานิคม) สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี ค่ายบางระจัน) อ่างทอง (อ.เมืองฯ วิเศษชัยชาญ ป่าโมก ไชโย) สุพรรณบุรี (อ.บางปลาม้า สองพี่น้อง) และปราจีนบุรี (อ.กบินทร์บุรี)

พื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ

จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และลำพูน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย บุรีรัมย์ สุรินทร์

ภาคกลาง

จ.กาญจนบุรี นครนายก ชลบุรี ตราด ระยอง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคใต้ จ.นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ พื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกหนัก ปริมาณฝนสะสม โดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนเมืองอาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังระยะสั้นๆ พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ลาดเชิงเขา อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่ริมลำน้ำ อาจได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมในระดับสูง ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ อันตรายจากกระแสไฟฟ้า รวมทั้งการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านเส้นทาง

ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร. จิตอาสา เครือข่ายอาสาสมัคร องค์กรสาธารณกุศลได้เตรียมความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ พร้อมประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับชุมชน/หมู่บ้านในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวหรือเสียงตามสายประจำหมู่บ้าน เป็นต้น เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook