น้ำท่วมขยายวงกว้างจนเรือขาดแคลนหนัก ชาวบ้านในอ่างทองต้องเร่งซ่อมกลับมาใช้งาน

เรือขาดแคลนหนักหลังน้ำท่วมขยายวงกว้าง ชาวบ้านในอ่างทองต้องเร่งซ่อมนำกลับมาใช้งาน ขณะที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงต่อเนื่องหลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ

ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.โพสะ อ.เมือง จ.อ่างทอง เร่งซ่อมแซมเรือที่เสียหายจากการใช้งานฝ่ากระแสน้ำซึ่งไหลอย่างรุนแรงและชนเข้ากับตอไม้จนชำรุด เพื่อนำไปใช้ในการเดินทางเข้าออกบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร หลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลบ่าพังคันดินกั้นน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรกว่า 100 หลังคาเรือนและขยายวงกว้างไปทั่วตำบล ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจนการเดินทางสัญจรเข้าออกบ้านทำได้เพียงใช้เรือเท่านั้น แต่ปัญหาก็คือเรือที่มีไม่เพียงพอ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก

นางบุญเรือน ก้อนทองดี นายเทศมนตรีตำบลโพสะ เปิดเผยว่า สิ่งที่ต้องการมากที่สุดของชาวบ้านในขณะนี้ก็คือเรือที่จะใช้ในการสัญจรซึ่งมีไม่เพียงพอ โดยทางเทศบาลก็มีเรือท้องแบนเพียงลำเดียวเท่านั้น เบื้องต้นได้ประสานงานไปยังสำนักงารป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทองเพื่อขอยืมเรือที่เคยมีผู้บรืจาคไว้จำนวนมาก แต่เท่าที่ทราบได้รับแจ้งจากทางอำเภอเมืองอ่างทองว่าได้รับการจัดสรรให้มาเพียง 8 ลำเท่านั้นเพราะเรือมีเหลือไม่มากและชำรุดเสียหายเกือบหมดซึ่งไม่เพียงพอแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ต้องบริหารจัดการกันไปเท่าที่มีไปก่อน 

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอย่างต่อเนื่องหลังมีประกาศเตือนประชาชนท้ายเขื่อนเจ้าพระยาว่าจะระบายน้ำที่อัตรา 2,800 ลูกบาศก์เมตรเมตร/วินาที ซึ่งเป็นอัตราใกล้วิกฤติของเขื่อนเจ้าพระยาที่ 2,840 ลบ.เมตร/วินาที

ล่าสุดข้อมูลจากศูนย์อุทกวิทยาชลประทานภาคกลาง (ชัยนาท) สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน แจ้งว่าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำอยู่ที่ 2,749 ลบ.เมตร/วินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 17.00 เมตร ท้ายเขื่อน 16.13 เมตร ทำให้ระดับน้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดอ่างทองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำเจ้าพระยาที่สถานีชลมาตร C7A สำนักชลประทานที่ 12 หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง ระดับน้ำอยู่ที่ 8.86 เมตร/รทก. (รทก.-ระดับน้ำทะเลปานกลาง) จากระดับตลิ่ง 10 เมตร/รทก. น้ำไหลผ่าน 2,409 ลบ.เมตร/วินาที โดยจังหวัดอ่างทองมีพื้นที่ซึ่งถูกน้ำท่วมไปแล้ว 3 อำเภอคือ ต.โพสะ ต.จำปาหล่อ อ.เมือง ต.โผงเผง อ.ป่าโมก และ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่าพันครัวเรือน