โผ ครม.ตู่ 2/5 สะพัด! อนุพงษ์ ควบรองนายกฯ ดอน-สุพัฒนพงษ์ ส่อแววหลุด จับตาปลัดฉิ่ง
จับตาการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบล่าสุดที่มีกระแสข่าวว่า "ดอน-สุพัฒนพงษ์" อาจไม่ได้ไปต่อ - "ลุงป๊อก" น่าจะได้ขยับมาควบรองนายกฯ อีกตำแหน่ง
วันนี้ (1 ต.ค.) แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังจากที่มีกระแสข่าวมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับการเกษียณอายุราชการของข้าราชการระดับสูงที่ถูกจับตาว่าจะเข้ามาสู่แวดวงการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) มีความเคลื่อนไหวขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะที่ตึกบัญชาการ 1 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ได้มีการสำรวจห้องต่างๆ บนตึกบัญชาการ 1 ซึ่งมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จัดเตรียมห้องบนตึกบัญชาการ 1 เพื่อรองรับบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วน จึงทำให้เกิดการคาดการณ์กันว่ากำลังมีความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม. เนื่องจากมีตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 2 ตำแหน่ง หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ถูกปลดพ้นจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ถูกปลดพ้นเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ช่วงนี้จึงอยู่ระหว่างการจัดหาห้องที่เหมาะสมเนื่องจากปัจจุบันห้องต่างๆ บนตึกบัญชาการ 1 มีคณะทำงานด้านต่างๆ ของรองนายกรัฐมนตรีในปัจจุบัน
ที่ปรึกษานายกฯ ปัดเตรียมห้องรองรับปรับ ครม. แจงแค่เตรียมไว้ให้ที่ปรึกษานายกฯ ที่หมุนเวียนเข้ามาใหม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมาของวันนี้ น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านประสานกิจการภายในประเทศ ชี้แจงกรณีที่มีกระเเสข่าวการจัดเตรียมห้องที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรองรับการปรับ ครม. ที่จะมีรองนายกฯ คนใหม่ ว่า วันที่ 30 ก.ย. 64 มีผู้เกษียณอายุราชการและมีการเปลี่ยนย้ายตำแหน่ง ทางผู้รับผิดชอบด้านสถานที่จึงต้องเข้าทำความสะอาดห้องที่มีผู้ย้ายออกไป และรองรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาใหม่ เช่น ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ตามการหมุนเวียนปกติ โดยยืนยันว่าไม่ได้รับแจ้งให้ทำการจัดเตรียมห้องไว้เพื่อรองรับการปรับ ครม. แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบันมีรองนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น 6 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายวิษณุ เครืองาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล (ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (ควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทวงพาณิชย์) นายดอน ปรมัตถ์วินัย (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ) และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ (ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน) ซึ่งหากจะมีการเพิ่มตำแหน่งรองนายกฯ มาอีก 1 ตำแหน่ง ถือว่ามีความเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลบางยุคในอดีตก็เคยมีรองนายกฯ เกิน 6 คนมาแล้ว
สะพัดโผ ครม.ตู่ 2/5 “บิ๊กป๊อก” ควบรองนายกฯ “ดอน-สุพัฒนพงษ์” หลุด “ศุภชัย” นั่งรองนายกฯ ควบ รมว.พลังงาน แทน
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวในการจัดทำโผ ครม.ภายในรัฐบาล ซึ่งคาดว่านายกรัฐมนตรีจะมีการปรับเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางกระทรวงในโควตาของตนเอง
แหล่งข่าวระบุว่า จนถึงนาทีนี้มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ/รมว.ต่างประเทศ และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ/รมว.พลังงาน อาจจะขอถอนตัวออกจากการเป็น รมต. เพื่อกลับไปพักผ่อน โดยเฉพาะนายดอนที่เคยมีข่าวมาตลอดในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่ง นายกฯ ลุงตู่ อยู่ระหว่างควานหาตัวบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งแทน
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ก็จะได้ควบเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) จะมานั่งเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ควบ รมว.พลังงาน แทนนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ แต่ล่าสุด นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะลูกชายของนายศุภชัย ปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่า นายศุภชัย กำลังมีภารกิจสำคัญในการช่วยทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในขณะนี้ อีกทั้งนายศุภชัยก็ยังคงสนับสนุนการทำหน้าที่ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อยู่เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม อีกบุคคลที่น่าจับตามองว่ามีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นเสนาบดีคนใหม่ใน ครม.ประยุทธ์ ก็คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่เคยลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แต่มาพลาดหวังให้กับนายจุรินทร์ ก่อนที่จะลาออกจากการเป็น ส.ส. และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แล้วก้าวเข้ามาดำรงตำแหน่งหนึ่งในกุนซือแห่งตึกไทยคู่ฟ้า แถมยังมีกระแสข่าวอยู่ในเวลานี้ว่ากำลังจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
ส่วนข้าราชการระดับสูงที่เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น คอการเมืองทุกคนจับตาไปที่ "ปลัดฉิ่ง" นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งน่าจะได้รับการผลักดันให้เข้ามาดำรงตำแหน่ง รมช.กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งโดยเฉพาะ รมช.มหาดไทย เพราะถือเป็นคนสนิทและเป็นมือไม้การทำงานคนสำคัญให้กับ พล.อ.อนุพงษ์ และอีกคนคือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) น้องรัก "บิ๊กตู่" ที่คาดว่าจะมาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง
นอกจากนี้ การปรับ ครม. ที่หากจะเกิดขึ้นจริงนั้น ย่อมไม่อาจมองข้ามความเคลื่อนไหวหรือปฏิกิริยาในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปได้เลย เพราะการที่รัฐมนตรีว่างลง 2 ตำแหน่งนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าคือโควตาของ พปชร. เพราะผู้กองธรรมนัส คือ เลขาธิการพรรค ขณะที่อาจารย์แหม่ม ก็เป็นเหรัญญิกพรรค และยิ่งไม่ต้องแปลกใจที่เมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวตามหน้าสื่อต่างๆ ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะกรรมการบริหารพรรค ทำการเสนอรายชื่อ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี ซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร และนายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พิจารณาปรับ ครม. จนในเวลาต่อมา "เสี่ยเฮ้ง" จะยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
“ผมมีมารยาท ผมมีกาลเทศะพอ ผมรู้ว่าผมอยู่ในจุดไหน ผมเป็นลูกพรรค ผมมีวันนี้เพราะท่านหัวหน้าพรรคให้โอกาส การปรับ ครม.เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคกับท่านนายกรัฐมนตรี ผมจะไปทำอย่างนั้นได้ประโยชน์อะไร ผมได้ประโยชน์อะไร ผมยังไม่รู้เลย ผมเสนอไปแล้วผมได้ประโยชน์อะไร” นายสุชาติ กล่าวในระหว่างให้สัมภาษณ์รายการ “เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand”
ในขณะที่แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐก็เปิดเผยว่า ปัจจุบันบุคคลที่เป็นแคนดิเดตที่ พปชร. จะเสนอชื่อในการปรับ ครม. หรือเป็น Waiting List เบอร์ 1 ของพรรค คือ นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรค แถมอีกสถานะหนึ่งที่รู้กันพอสมควรคือ พี่ไผ่ วันพอยท์ ถือเป็นคนสนิทคนหนึ่งของผู้กองธรรมนัสด้วย พร้อมกับย้ำว่าบรรดาแกนนำทุกกลุ่มของพรรคเห็นตรงกันว่า หากรายชื่อที่ทางพรรคเสนอให้นายกฯ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) แล้วนั้น ทางนายกฯ ไม่เห็นชอบที่จะแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ก็ขอให้ส่งกลับมาเพื่อที่พรรคจะได้พิจารณาบุคคลที่เหมาะสมก่อนเสนอชื่อไปให้ใหม่ และแกนนำพรรคต่างก็ไม่เห็นด้วยหากนายกฯ จะปฏิเสธคนที่พรรคเสนอ แล้วพิจารณาแต่งตั้งคนนอกพรรคในการปรับ ครม. ครั้งที่จะถึงนี้
ปิดท้ายฝุ่นควันใน พปชร. อีกสักนิดนึงว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค จะได้รับการเสนอชื่อให้ไปดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม หรือ รมช.กลาโหม แทนใครหรือไม่
นี่ยังไม่ได้พูดถึงฝั่งประชาธิปัตย์ที่กำลังหัวเสียกันทั้งพรรค เพราะจู่ๆ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ เซ็นคำสั่งโอนย้ายอำนาจการกำกับดูแล 4 หน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เดิมทีเป็นอำนาจของ นายจุรินทร์ กำกับดูแลอยู่ทั้งกระทรวง ให้ไปอยู่ในกำกับดูแลของ "พี่ป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชนิดที่ "อู๊ดด้า" ถึงขั้นบอกว่าไม่อยากให้การแก้ปัญหาในพลังประชารัฐไปกระทบส่วนอื่นจนกลายเป็นการสร้างปัญหาใหม่เพิ่มขึ้น
อ่อ!!! แล้วอย่าคิดว่าภูมิใจไทยของ "เสี่ยหนู" จะแฮปปี้ดี๊ด๊าอยู่นะ เพราะค่ายนี้ก็เล็งจะขอโควตา รมต.เพิ่ม เพราะมีจำนวน ส.ส. เยอะขึ้นกว่าตอนจับมือจัดตั้งรัฐบาลจนพัฒนาเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 2 แซงหน้า ปชป. ไปตั้งนานแล้ว
ขอจบสกู๊ปข่าวชิ้นนี้ว่า ที่สาธยายมาทั้งหมดแค่เรื่องเก้าอี้ดนตรีใน ครม. เท่านั้นนะ ยังไม่ได้นับรวมถึงปัญหาคุกรุ่นเกี่ยวกับจำนวน "มือ" ที่จะยกตอนโหวตญัตติต่างๆ ในสภาผู้แทนราษฎรที่จะเปิดสมัยประชุมอีกครั้งตอนเดือนพฤศจิกายนนี้ เพราะถ้ากะพริบตาทีเดียวอาจมีรายการ "ชำระแค้น" แบบที่ไม่ต้องรอกันเนิ่นนาน จนกลายเป็นเหตุผลที่หลายๆ คนเห็นบรรดานักการเมืองผู้ทรงเกียรติทั้งหลายลงพื้นที่กันอย่างคึกคักในเวลานี้ ที่แม้จะอธิบายว่าเพราะอยู่ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็ตาม แต่สัญญาณ "ยุบสภา" มันแรงชัดจริงๆ นะขอบอก อิอิอิ