เขมรคาดสูญ4หมื่นล้านไทย-เทศเที่ยวอีสานแทน
ประเมินท่องเที่ยวเขมรกระทบหนักกว่าไทย คาดสูญเม็ดเงิน 3-4 หมื่นล้าน หลังนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยชะงัก เผยทัวร์ยุโรปที่มาไทยแล้วผ่านไปกัมพูชาหันเที่ยวภาคอีสานของไทยแทน พาณิชย์ระบุยังโปรโมทสินค้าไทยในตลาดกัมพูชาตามปกติ
นายอภิชาติ สังฆอารี ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวถึงผลกระทบจากปัญหาไทย-กัมพูชา ว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบทันทีได้แก่ การท่องเที่ยว ซึ่งกัมพูชาเสียประโยชน์มากกว่าไทย โดยเฉพาะช่วงฤดูการท่องเที่ยว ล่าสุดพบว่านักท่องเที่ยวยุโรปที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย เพื่อผ่านไปยังกัมพูชาปรับแผนการเดินทางไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยแทน เพราะมีศิลปวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวคล้ายคลึงกันกับนครวัดนครธม โดยประเมินเบื้องต้นเชื่อว่ากัมพูชาอาจต้องสูญเสียรายได้ไป 3-4 หมื่นล้านบาท จากทัวร์เชื่อมโยงประเทศในช่วงที่เหลือของปีนี้
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า กลุ่มนักท่องเที่ยวไทยที่จองแพ็กเกจท่องเที่ยวไปกัมพูชาแล้วยกเลิกการเดินทาง หรือชะลอการเดินทางกว่า 95% พบว่า 20% เปลี่ยนไปเที่ยวลาว ซึ่งจะมีการแข่งขันซีเกมส์ และอีก 10% ไปพม่า โดยแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวดังกล่าว ได้แก่ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ สะหวันนะเขต และจำปาสัก
"คาดว่าจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของกัมพูชามากกว่าไทย เพราะแต่ละปีคนไทยไปเที่ยวกัมพูชา 6 แสนคนต่อปี ค่าใช้จ่ายต่อหัว 6,000-7,000 บาท ส่วนคนกัมพูชามาเที่ยวไทยเพียง 6 หมื่นคนเท่านั้น เมื่อมีปัญหา กัมพูชายังสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย" นายเจริญ กล่าว
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การค้าระหว่างไทย-กัมพูชาว่า ได้สั่งการให้เดินหน้าแผนโปรโมทตลาดกัมพูชาที่มีอยู่ต่อไปตามปกติ ขณะที่การค้าชายแดนขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบ แต่ยอมรับว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อไปอีกหลายเดือนจากนี้ การค้าจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ทั้งนี้ การค้าไทย-กัมพูชาโดยเฉพาะชายแดนในปีนี้อาจไม่ดีเหมือนปีที่ผ่านมา แต่เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่จากปัญหาระหว่างสองประเทศ
"ได้คุยกับนายจอม ประสิทธิ์ รมว.พาณิชย์ของกัมพูชาแล้ว ก็บอกไปว่าของเราไม่เกี่ยว เรื่องการค้ายังเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งแผนโปรโมททุกอย่างที่มีอยู่ให้เดินหน้าต่อไปได้ตามปกติ ท่านรัฐมนตรีก็เห็นด้วย" นางพรทิวา กล่าว