ประชาชน 61.43% พร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19

สวนดุสิตโพล ประชาชน 61.43% พร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน 46.74 เชื่อฉีดวัคซีนมีผลดีมากกว่าผลเสีย และ 75.44% หนุนฉีดวัคซีนเพื่อเปิดเรียนได้ตามปกติ

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่มีบุตรหลานในวัยเรียนต่อกรณี “การฉีดวัคซีนให้กับเยาวชนอายุ 12-17 ปี” ตามที่กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน โควิด-19 และหวังให้เด็กกลับมาเรียนตามปกติให้ได้เร็วที่สุด จำนวนทั้งสิ้น 1,089 คน ทางออนไลน์ ระหว่างวันที่ 27-30 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 61.43 พร้อมให้บุตรหลานไปฉีดวัคซีน, ร้อยละ 26.17 ขอรอดูก่อน และ ร้อยละ 12.40 ไม่พร้อม โดย ร้อยละ 64.72 เชื่อมั่นต่อประสิทธิภาพของวัคซีน และร้อยละ 35.28 ไม่เชื่อมั่น

ขณะเดียวกัน ประชาชน ร้อยละ 46.74 คิดว่าการฉีดวัคซีนมีผลดีมากกว่าผลเสีย และ ร้อยละ 40.96 มีทั้งผลดีและผลเสียพอ ๆ กัน, ร้อยละ 12.30 มองว่ามีผลเสียมากกว่าโดยร้อยละ 77.59 เป็นห่วงอาการข้างเคียงหลังฉีด, ร้อยละ 69.42 ผลข้างเคียงที่มีต่อเยาวชนในระยะยาว,ร้อยละ 62.08 ความรับผิดชอบกรณีหากมีอาการผิดปกติ

ทั้งนี้ ประชาชน ร้อยละ 64.13 อยากให้จัดการฉีดวัคซีนที่โรงเรียน และ ร้อยละ 17.02 ผู้ปกครองพาไปฉีดที่โรงพยาบาล และ ร้อยละ 10.19 ผู้ปกครองพาไปฉีดที่จุดบริการส่วนกลาง นอกจากนี้ ประชาชน ร้อยละ 75.44 เห็นด้วยกับการฉีดวัคซีนเพื่อให้เปิดเรียนได้ตามปกติ และมีเพียง ร้อยละ 24.56 ที่ไม่เห็นด้วย