หัวหน้าฯ บึงบอระเพ็ด ยัน จระเข้ไม่ดุร้าย กลัวคน หลังชาวบ้านหวาดผวาหวั่นหลุดมาตามน้ำท่วม

หัวหน้าฯ บึงบอระเพ็ด ยัน จระเข้ไม่ดุร้าย กลัวคน หลังชาวบ้านหวาดผวาหวั่นหลุดมาตามน้ำท่วม

หัวหน้าฯ บึงบอระเพ็ด ยัน จระเข้ไม่ดุร้าย กลัวคน หลังชาวบ้านหวาดผวาหวั่นหลุดมาตามน้ำท่วม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หัวหน้าฯ บึงบอระเพ็ด ยัน จระเข้ไม่ดุร้าย กลัวคน ไม่เคยทำร้ายใคร หลังชาวบ้านหวาดผวาหวั่นหลุดมาตามน้ำท่วม 

(3 ต.ค.64) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ อุทยานนกน้ำบึงบอระเพ็ด ต.พระนาน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และอยู่ในจุดติดกับบึงบอระเพ็ด หลังมีรายงานว่า น้ำจากบึงบอระเพ็ดได้ล้นทะลักเข้ามาท่วมในพื้นที่อุทยานดังกล่าว และเข้าท่วมสำนักงานเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ดด้วย โดยมีสิ่งหนึ่งที่ชาวบ้านบางส่วน บริเวณรอบอุทยานแห่งนี้ มีความเป็นห่วงเรื่องจระเข้ที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติในบึงบอระเพ็ด จะไหลหลุดไปตามน้ำที่ท่วม แล้วเข้าสู่เขตพื้นที่บ้านเรือนของประชาชนจนอาจทำให้อยู่กันอย่างหวาดผวา 

ซึ่งเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า แม้จะมีน้ำจากบึงบอระเพ็ดล้นบึงเข้ามาในอุทยานเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้ท่วมหนัก และเป็นไปตามธรรมชาติของทุกปี ที่หากแล้ง ก็จะแล้งหนัก แต่หากมีน้ำเข้ามามาก ก็จะทำให้มีน้ำบางส่วนหลากเข้าท่วมอุทยาน และไหลเข้าไปท่วมบ้านเรือนโดยรอบที่อยู่ในพื้นที่ต่ำ ซึ่งเป็นวิถีของบ้านบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงต้องเจออยู่เกือบเป็นประจำทุกปีอยู่แล้ว

ส่วนจระเข้ ที่หลายครั้งพบว่า เข้ามาพักอาศัยหากินอยู่ภายในบริเวณอุทยาน หรือแม้กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ ก็ปรากฏเป็นข่าวว่ามีจระเข้ เข้ามาวางไข่ไว้อยู่ภายในอุทยานนั้น ก็พบว่า ปัจจุบันนี้ มีจระเข้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ภายในอุทยานถึง 8 ตัว และจระเข้ทั้งหมด เป็นจระเข้เลี้ยงสายพันธุ์น้ำจืด ที่ถูกซื้อมาจากฟาร์มแล้วถูกนำมาปล่อยไว้ให้อยู่ตามธรรมชาติ 

สำหรับเรื่องความเป็นห่วงของชาวบ้านบริเวณโดยรอบที่มีต่อจระเข้ภายในอุทยานนกน้ำบึงบอระเพ็ดนั้น นายจิระเดช บุญมาก หัวหน้าเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าบึงบอระเพ็ด ระบุก่อนอื่นเลยว่า แม้ปีนี้ น้ำจะไหลทะลักล้นบึงเข้ามาในเขตอุทยานไว แต่ก็ไม่มีความน่าเป็นห่วงว่า จะไหลล้นหนักไปมากว่านี้ หากไม่มีพายุลูกใหญ่เข้ามาถล่มซ้ำ ก็ไม่น่าจะท่วมหนัก และคงจะท่วมเข้าไปในบ้านเรือของประชาชนที่อยู่ในจุดต่ำเพียงแค่ไม่กี่หลังเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ก็มีชาวบ้านหลายรายรวบบริเวณแห่งนี้ เก็บข้าวของขึ้นสู่ที่สูงกันบ้างแล้ว แต่ในส่วนของบึงบอระเพ็ด ถือเป็นเรื่องดีที่น้ำไหลเข้าบึงจนเต็มความจุ และนั่นจะส่งผลทำให้ระบบนิเวศของบึงบอระเพ็ดกลับมาฟื้นฟู อีกทั้ง มวลน้ำที่ไหลเข้ามา ไม่ว่าจะมาจาก อ.ท่าตะโก หรือมาจากฝั่งแม่น้ำน่าน ก็จะทำให้มีไข่ปลาจำนวนมากไหลเข้ามาด้วย เชื่อว่า ปีนี้ จะทำให้ระบบนิเวศกลับมาฟื้นฟูสูงมากเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจระเข้ที่เข้ามาอาศัยอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งนี้นั้น นายจิระเดช เผยว่า ข้อมูลที่พบ ณ ปัจจุบัน มีจระเข้ที่อาศัยอยู่ภายในบึงบอระเพ็ดทั้งหมด 28 ตัว ส่วนที่บริเวณแถวนี้ มีอยู่ประมาณ 8 ตัว ซึ่งก็มีทั้งตัวขนาด 2 เมตร และลดหลั่นกันไป และเป็นกลุ่มจระเข้ที่โผล่มาให้เห็นทุกวัน พวกมันไม่เคยทำร้ายใคร โผล่มาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ และพวกนี้ เขาเป็นจระเข้สายพันธุ์น้ำจืด อยู่ในกลุ่มจระเข้เลี้ยงที่มีคนนำมาปล่อยตั้งแต่ตัวยังเล็ก จนผ่านมา 8 ปี ปันจุบันนี้ มีขนาดมากกว่า 2 เมตรแล้ว 

นายจิระเดช ระบุต่อไปว่า แม้สถานการณ์น้ำที่ท่วมขณะนี้ ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงนัก แต่ก็ไม่ได้ทำตัวนิ่งสบายใจ และได้เตรียมแผนป้องกันป้องกันเอาไว้แล้ว หากมีจระเข้ภายในอุทยานนกน้ำหลุดออกไปยังบ้านเรือนประชาชน จะมีทีมไปดำเนินการจับทันที แต่ต้องอธิบายกับชาวบ้านก่อนว่าบริเวณแถวนี้ ถือว่าเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมัน และที่ผ่านมาก็เฝ้าดูพฤติกรรมพวกมันอยู่ตลอด หากพบว่าจระเข้ตัวไหนเริ่มมีอารมณ์ดุร้ายตามช่วงฤดูของมัน ทางเจ้าหน้าที่ก็จะนำมันไปเก็บไว้ในศูนย์วิจัย รอจนกว่ามันจะหมดความโหดร้าย แล้วก็นำกลับมาปล่อยคืนสู่ธรรมชาติใหม่ แต่ไม่ว่าสัตว์ชนิดไหนพวกมันมักจะกลัวคนกันหมด แต่ทางนี้ก็ยังเฝ้าระวังอยู่ จึงขอให้ชาวบ้านบริเวณโดยรอบโปรดมั่นใจได้ 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จระเข้ทั้ง 8 ตัว ที่เข้ามาหากินอยู่ภายในอุทยานนกน้ำบึงบอระเพ็ด ทั้งหมด เป็นจระเข้ที่ซื้อจากฟาร์มเลี้ยง แล้วนำมาปล่อย เพื่อเป็นการแก้บนให้กับ “เจ้าแม่หมอนทอง” ซึ่งมีศาลของเจ้าแม่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งนี้ เพื่อทำการแก้บนตามที่ได้บนบานเอาไว้ จึงทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปจับพวกมันแต่อย่างใด แม้จะรู้ว่าพวกมันอันตราย เพราะเป็นจระเข้ที่ถูกเลี้ยง ซึ่งผิดจากสายพันธุ์ธรรมชาติที่หากินเองได้ แต่ก็ปล่อยเอาไว้ เพราะกลัวว่า หากไปแตะต้อง อาจจะทำให้ชีวิตมีอันเป็นไป เพราะเป็นจระเข้ของเจ้าแม่ 

 

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook