จับอดีต ตร.ขนปืนหลวงแลกยาบ้า4หมื่นเม็ด
ทลายแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ ปส.-ทหาร-ตำรวจ ผนึกกำลังแกะรอยรวบ 2 จ.ส.ต.แสบอดีตตำรวจ สภ.ท่ายางและ สน.ประชาสำราญลักลอบขนอาวุธสงครามแลกเปลี่ยนกับยาบ้า ส่งต่อไปให้กะเหรี่ยงในฝั่งพม่า ใช้เป็นอาวุธคุ้มกันคาราวานยานรก ขยายผลตะครุบได้ทั้งสมุนและภรรยาอีก 4 ราย ตะลึงตามยึดของกลางได้เพียบ ทั้งระเบิด อาวุธปืนสงคราม 11 มม. เอ็ม 16 กระสุนเอ็ม 79 กระสุน ปืนอีกนับพันนัด
ที่สำนักงาน บช.ปส.ภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.ปส. พล.ต.ต.สิทธิพร ศรีจันทร์ทับ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.จิรเดช เกรียงศักดิ์ ผบก.ขส.บช.ปส. นายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผอ.ปปส.ภาค 5 พ.ท.ศักดิ์สิทธิ์ นิจจันทร์ ผบ.พันพัฒนา 3 กองพลพัฒนาที่ 3 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งค้าอาวุธสงคราม และยาเสพติดข้ามชาติ ได้ผู้ต้องหา 6 คน
ประกอบด้วย จ.ส.ต.พัชร หรือจ่ายศ ซิบเข อายุ 55 ปี มีบ้านพักอยู่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี อดีตตำรวจสังกัด สภ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี จ.ส.ต.ศรียนต์ การเก่ง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 330/22 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. อดีตตำรวจ สน.ประชาสำราญ นายวีระพันธ์ ปิยะโชติ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 6 ต.เหมืองแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายตอนะ ชาวไทยใหญ่ อายุ 26 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 75/ช หมู่ 12 ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน นายจะสอ ชาวพม่า อายุ 25 ปี และนางบัวแก้ว วิสุด อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 หมู่ 5 ต.สันกลาง อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่
พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) 40,000 เม็ด รถจี๊ป เชโรกี สีน้ำตาล ทะเบียน 5ษ 4821 กรุงเทพ มหานคร รถ จยย. 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่อง อาวุธปืนเล็กกลเอ็ม 16 รุ่นเอ 1 ถูกขูดลบหมายเลขประจำปืนทั้งหมด 3 กระบอก แมกกาซีน 3 อัน กระสุนปืนกลเล็ก 3,000 นัด อาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก แมกกาซีน 2 อัน กระสุน 11 นัด ระเบิด พร้อมใช้งานขนาด 1 ปอนด์ และครึ่งปอนด์ รวม 48 แท่ง เชื้อปะทุไฟฟ้า 9 กล่อง จำนวน 54 อัน กระสุนเอ็ม 79 จำนวน 207 นัด
ในเบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร สืบทราบว่า จะมีแก๊งคนร้ายค้าอาวุธสงคราม และยาเสพติดในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ กำลังติดต่อเพื่อค้าอาวุธ และ ยาเสพติด โดยนัดส่งของกันในพื้นที่ จ.เชียง ใหม่ จึงวางแผนสืบสวนจับกุม จนทราบว่า เป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในภาค เหนือ มี จ.ส.ต.ศรียนต์ เป็นหัวหน้ากลุ่ม และแอบเช่าบ้านอยู่ที่ อ.สันทราย กับนาง บัวแก้ว ภรรยา เพื่อใช้เป็นสถานที่ซุกซ่อนอาวุธ และยาเสพติด
จากนั้นจะมีกลุ่มค้าอาวุธสงครามที่มีจ.ส.ต.พัชร เป็นหัวหน้าแก๊ง นายวีระพันธ์ นายจะสอ และนายตอนะ เพื่อนร่วมแก๊ง ได้มาติดต่อกับ จ.ส.ต.ศรียนต์ เพื่อตกลงค้าขายอาวุธและยาเสพติด โดยทั้งหมดจะแยกย้ายกันพักที่โรงแรม 2 แห่ง ย่านถนนวง แหวน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนกระทั่งเช้า วันเดียวกันนี้ นายวีระพันธ์ และจ.ส.ต.พัชร ได้ใช้รถจี๊ปเชโรกี เดินทางออกจากโรงแรมไปยังสถานีขนส่ง อ.เมืองเชียงใหม่ ระหว่างนั้นได้นำกล่องบรรจุคอมพิวเตอร์ และจอมอนิเตอร์ 2 กล่องไปฝากไว้ ที่ท่ารถ บขส. เพื่อส่งไปยังกรุงเทพฯ
จนกระทั่งสบโอกาสเจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มรออยู่ จึงแสดงตัวจับกุมไว้ได้ และจากการตรวจสอบภายในกล่องทั้ง 2 กล่อง พบยาบ้า 40,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในคอมพิว เตอร์ จากนั้นสอบสวนขยายผลนำตัวผู้ ต้องหาไปตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 200/6 หมู่ 9 อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ของ จ.ส.ต.ศรียนต์ และนางบัวแก้ว พบอาวุธสงคราม ระเบิด ซุกซ่อนอยู่ในบ้านจำนวนมาก จึงยึดไว้เป็นของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดดำเนินคดี
ด้าน พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า การ จับกุมแก๊งค้ายาเสพติดและค้าอาวุธสงคราม ครั้งนี้ทราบว่ามีเครือข่ายใหญ่ และมีนายทุน อยู่เบื้องหลัง อยู่ในกรุงเทพฯ และประเทศเพื่อนบ้าน โดย จ.ส.ต.พัชร จะเป็นผู้จัดหาอาวุธสงคราม ทั้งปืน ระเบิด และเครื่องกระสุน จากชายแดน จ.กาญจนบุรี ในราคากระบอกละ 8,000 บาท ส่วนระเบิดในราคาครึ่งปอนด์ 800 บาท จากนั้นจะลำเลียง มายัง จ.เชียงใหม่ และติดต่อกับ จ.ส.ต. ศรียนต์ ให้การแลกเปลี่ยนยาบ้ากับอาวุธสงคราม จากนั้นนำอาวุธสงครามส่งข้ามไปให้ชนเผ่ากะเหรี่ยงในฝั่งพม่า ไว้ใช้เป็นอาวุธในการคุ้มกันคาราวานยาเสพติด ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลติดตามตัวมาดำเนินคดี ต่อไป.