อดีตหลวงตาวัย 63 ปี ผูกคอเสียชีวิต หลังสึกมาแต่งงานได้ 3-4 เดือน ถูกเมียทิ้ง

 อดีตหลวงตาวัย 63 ปี ผูกคอเสียชีวิต หลังสึกมาแต่งงานแต่เมียทิ้งเพราะติดเหล้า สุดท้ายแม้งานศพยังมาไม่ได้ เพราะญาติไม่มีเงินจัดงาน ให้กู้ภัยเผาเลย

(4 ต.ค.64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 เพชรบูรณ์ ว่า มีคนผูกคอเสียชีวิต ที่ในอาคาร ภายในพื้นที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองกระจัง อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลศรีเทพ  และ อาสาสมัครมูลนิธิพ้งไล้ 16 ศรีเทพ ร่วมให้การช่วยเหลือ 

โดยที่เกิดเหตุ เป็นอาคารของฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งอยู่ด้านหลังขององค์การบริหารส่วนตำบลคลองกระจัง พบชายสูงวัยผูกคอตายกับตะแกรงด้านข้างของอาคาร เสียชีวิตในท่านั่งเข่างอเล็กน้อย ทราบชื่อต่อมาว่าคือ นายเดือน อายุ 63 ปี ในที่เกิดเหตุพบขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี 1 ขวด น้ำดื่ม 2 ขวด และบุหรี่ 1 ซอง พร้อมจดหมายเขียนข้อความว่า นายเดือน อยู่บ้านคลองกระจัง บอกกำนันกบ โทร 089-82088XX ให้บอก มะลิ 089-8208XXX

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวร ทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้ว ซึ่งญาติก็ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ นายสุข อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นน้องชายผู้เสียชีวิตที่อาศัยอยู่ด้วยกันเพียงคนเดียว นำศพไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินที่จะจัดงานศพได้ จึงได้ขอให้มูลนิธิพ้งไล้ 16 ศรีเทพ ดำเนินการฌาปนกิจให้ในวันนี้เลย เพราะญาติที่อยู่ต่างจังหวัดก็ไม่สามารถเดินทางมาได้ เนื่องจากติดสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยอาสาสมัครมูลนิธิพ้งไล้ 16 ศรีเทพ ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปทำการฌาปนกิจ ณ เมรุ วัดคลองกระจัง จนกระทั่งแล้วเสร็จ โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น 

นายมานพ คุ้มแสงขาว เพื่อนบ้านที่รู้จักกับผู้เสียชีวิต เล่าว่า เมื่อก่อนผู้ตายเคยบวชเป็นพระ และเพิ่งลาสิกขามาได้ประมาณ 3-4 เดือน ก็ไปแต่งงานอยู่กินกับภรรยา ที่จังหวัดลพบุรี แต่ผู้ตายชอบดื่มสุราหนัก ภรรยาจึงนำกลับมาส่งไว้ให้อยู่กับญาติที่ตำบลคลองกระจัง แต่ก็ยังเดินทางไปมาหากันอยู่ จนกระทั่งมาพบผูกคอเสียชีวิตในวันนี้ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากความเครียดที่ไม่มีเงิน และที่สำคัญน่าจะมาจากเรื่องที่ถูกภรรยาทอดทิ้ง หลังจากยอมลาสิกขาเพื่อมาแต่งงาน  

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปยังหมายเลขที่ในจดหมายบอกว่าให้แจ้ง มะลิ โดยปลายสายได้แจ้งว่าชื่อนางมะลิ และได้เปิดเผยว่า หลังจากนายเดือน ได้ลาสิกขาแล้วก็มาอยู่กับตนเอง แต่นายเดือนชอบดื่มสุราและเมาเป็นประจำ จนตนเองทนไม่ไหว กระทั่งล่าสุดได้ขโมยเงินไปกินเหล้าจนเมา ตนจึงนำมาส่งที่บ้านน้องชายของผู้ตาย กระทั่งมาทราบว่าได้ผูกคอตายแล้ว โดยตนก็ไม่ติดใจ เพราะก่อนหน้านั้นก็เคยจะก่อเหตุผูกคอตายมาแล้ว แต่ก็มีคนห้ามไว้ได้ กระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ตนไม่สามารถเดินทางมาเผาศพได้ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิด