เกริกเกียรติ พร้อมฟังอุทธรณ์ยักยอกทรัพย์บีบีซีพรุ่งนี้
ทนาย เผย เกริกเกียรติ พร้อมฟังอุทธรณ์ยักยอกทรัพย์บีบีซี ปล่อยกู้ ซิตี้เทรดดิ้ง 1,657 ล้านบาท ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย.) ขณะที่อัยการยื่นฟ้อง ราเกซ ไม่ทัน เตรียมยื่นฝากขัง ครั้งที่ 2 ต่ออีก 12 วัน
นายผดุงพันธ์ จันทโร ทนายความ นายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หรือบีบีซี กล่าวถึงการที่ศาลอาญากรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่ นายเกริกเกียรติ และผู้บริหารบริษัท ซิตี้เทรดดิ้ง จำกัด (มหาชน) เป็นจำเลย ฐานทุจริตปล่อยกู้บีบีซี จำนวน 1,657 ล้านบาท ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 601 นั้น นายเกริกเกียรติ พร้อมจะเดินทางไปฟังคำพิพากษา ซึ่งขณะนี้ นายเกริกเกียรติ สบายดี ไม่เครียดอะไร และหากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนให้จำคุกและปรับ นายเกริกเกียรติ จะใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาพร้อมยื่นประกันตัวตามกระบวนการทางกฎหมาย
เมื่อถามว่า นายเกริกเกียรติ ไปเยี่ยม นายราเกซ บ้างหรือไม่ นายผดุงพันธ์ กล่าวว่า นายเกริกเกียรติ ไม่เคยคุยกับ นายราเกซ ซึ่งคดีที่ นายราเกซ จะถูกฟ้องเป็นคนละส่วนกับคดี นายเกริกเกียรติ ที่ผ่านมาสำนวนที่ นายเกริกเกียรติ นำสืบในชั้นศาลเป็นเรื่องการต่อสู้ว่าอนุมัติสินเชื่อโดยชอบ ซึ่งเป็นเรื่องภายในธนาคาร แต่ส่วนของ นายราเกซ เป็นเรื่องที่จะต้องนำสืบต่อไป ว่าเกี่ยวข้องในส่วนใดบ้าง อย่างไร
ด้าน นายสมพร แย้มนิล อัยการพิเศษฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 3 กล่าวว่า หากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ซึ่งการยกฟ้องจำเลยบางคนจะมีการยื่นฎีกาหรือไม่ อัยการจะพิจารณาอีกครั้ง ส่วนคดี นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษาบีบีซี ที่ร่วมกันยักยอกทรัพย์ จำนวน 1,657 ล้านบาท ที่คณะทำงานอัยการมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแปลเอกสารนั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังไม่ส่งผลสอบเพิ่มเติมมาให้ อาจยื่นฟ้องไม่ทัน มีแนวโน้มสูงที่อัยการจะต้องยื่นคำร้องฝากขัง นายราเกซ เป็นครั้งที่ 2 อีก 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-23 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากเมื่อรับผลสอบเพิ่มแล้ว คณะทำงานต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่ให้เกิดความผิดพลาดเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตปล่อยกู้ บ.ซิตี้เทรดดิ้ง พนักงานอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร และธนาคารบีบีซี ผู้เสียหาย ร่วมกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพิเศษ พานิชสมบัติ , นายเกริกเกียรติ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) , บริษัทซิตี้ เทรดดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด , น.ส.สุนันทา หาญวรเกียรติ กรรมการบริษัทซิตี้ฯ , นายเอกชัย อธิคมนันทะ อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายเทอร์รี่ อีสเตอร์ กรรมการบริษัทซิตี้ฯ เป็นจำเลย 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ มูลค่า 1,657,000,000 บาท และเป็นกรรมการกระทำผิดหน้าที่หรือรับของโจร (คดีหมายเลขดำที่ 4714/2539 , 5443/2539 และ1604/2540 ) ที่เมื่อปี 2538 นายเกริกเกียรติ อนุมัติเงินสินเชื่อให้กับ บริษัท ซิตี้ เทรดดิ้ง ฯ จำนวน 1,657,500,000 บาท เกินกว่าเกณฑ์ซึ่ง ธปท. กำหนดให้สินเชื่อได้เพียง 30 ล้านบาท โดยจำเลยยังร่วมกันประเมินราคาหลักทรัพย์ที่ดินสูงเกินกว่ามูลค่าความเป็นจริง
โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2548 ให้จำคุก นายเกริกเกียรติ 10 ปี ปรับ 2,264 ล้านบาท และปรับบริษัทซิตี้ เทรดดิ้งฯ จำเลยที่ 3 จำนวน 1 ล้านบาท ส่วน น.ส.สุนันทา กรรมการบริษัทซิตี้ ฯ และนายเทอร์รี่ กรรมการบริษัทซิตี้ฯ จำเลยที่ 4 และ 6 ให้จำคุกคนละ 7 ปี ปรับคนละ 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังให้จำเลยที่ 2 , 4 และ 6 ร่วมกันชดใช้เงินจำนวน 1,132 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.25 ต่อปี คืนธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ด้วย ส่วน นายเอกชัย จำเลยที่ 5 ให้จำคุก 8 ปี ปรับ 1 ล้านบาท พร้อมให้ชดใช้เงิน 75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.25 ต่อปี คืนธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ด้วย สำหรับ นายพิเศษ จำเลยที่ 1 ศาลพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากทางนำสืบโจทก์ยังไม่ชัดเจนว่า นายพิเศษ ร่วมลงชื่ออนุมัติสินเชื่อ