แม่ใจสลายซ้ำสอง รกพันคอลูกตายในท้อง ฝากศพไว้กับ รพ. พอมารับบอก "เผาไปแล้ว"

แม่ใจสลายซ้ำสอง รกพันคอลูกตายในท้อง ฝากศพไว้กับ รพ. พอมารับบอก "เผาไปแล้ว" ขอให้หมอส่งรูปลูกให้ดู ก็บอกส่งรูปจากไอโฟนไปยังมือถือธรรมดาไม่ได้

วันนี้ (11 ต.ค. 64) มีคุณแม่คนหนึ่งมาร้องเรียนกับ อีจัน ว่า “ทำยังไงดีคะ ทางโรงพยาบาลนำศพน้องไปเผา โดยที่ไม่ได้บอกเราเลย ทั้งที่นัดให้เรามารับร่างลูกเองแท้ๆ”

โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครสวรรค์ สอบถามกับทางคุณแม่ได้ความว่า คุณแม่ตั้งครรภ์เข้าสัปดาห์ที่ 31 แล้ว รู้สึกว่าทารกไม่ดิ้น จึงได้ปรึกษาแพทย์ที่ตนฝากครรภ์ไว้ ในวันที่ 21 ก.ย. 64 แพทย์ที่ดูแลจึงได้ทำการอัลตร้าซาวน์เพื่อเช็กว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์หรือไม่ ผลคือ ทารกตายแล้วเนื่องจากสายรกพันคอ ซึ่งเหตุการณ์นี้จะสามารถเกิดขึ้นได้มากที่สุดในช่วงที่ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 30 เป็นต้นไป

หลังจากรู้ว่าทารกตายแล้ว แพทย์ไม่ได้ทำการนำร่างของทารกน้อยออกจากท้องแม่โดยทันที เนื่องจากมีคุณแม่อีกคนหนึ่งที่อาการหนักกว่า จึงนัดผ่านำร่างลูกออกให้วันที่ 23 ก.ย. 64 คุณแม่พักฟื้นและออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 27 ก.ย. 64 แต่เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเป็นผลให้ไม่สะดวกที่จะนำร่างทารกกลับไปด้วย จึงขอฝากไว้ที่โรงพยาบาลก่อน พยาบาลก็รับปากว่าจะเก็บร่างทารกไว้ให้ พร้อมกับเขียนใบนัดรับร่างทารกให้กับคุณแม่ท่านนี้ไว้ ในใบนัดระบุวันที่ต้องมารับร่างของทารก คือวันที่ 11 ต.ค. 64 ทางคุณแม่จึงได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และได้นำใบนัดไปยื่นให้กับทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล แต่แพทย์ที่ดูแลแจ้งว่าได้นำศพของทารกไปเผาแล้ว โดยจะมีพยาบาลคนหนึ่งที่จะรับหน้าที่ในการนำศพเด็กไปเผา เพราะพยาบาลจะทำแบบนี้ทุกปี เป็นการทำบุญให้กับร่างเด็กเหล่านี้

ซึ่งคุณแม่ได้เล่าว่า “วันนี้ (11 ต.ค.64) หนูนำใบนัดรับศพลูกไปยื่นที่โรงพยาบาล แต่คุณหมอกลับบอกว่า พยาบาลเอาศพไปเผาแล้ว เสียใจมาก หนูยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกเลย แต่คุณหมอถ่ายรูปไว้เลยให้หนูดู หนูบอกให้คุณหมอส่งรูปที่ถ่ายร่างลูกหนูไว้ให้หนูหน่อย เขาบอก เขาส่งรูปจากไอโฟนไปยังมือถือธรรมดาไม่ได้ พยาบาลก็พูดจาไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนเป็นแม่เลย บอกว่ายุ่งมาก คนไข้ก็เห็นนี่ ตอนนั้นอ่ะมีคนเดินเปลมารับไป เพราะเอาศพไปไว้ที่เดียวกัน เลยไม่รู้ว่าเป็นศพที่ฝากไว้แล้วจะมีคนมารับ หนูเสียใจมาก จึงส่งเรื่องเพื่ออยากให้เป็นอุทาหรณ์กับคุณแม่คนอื่นๆที่เจอเหตุการณ์แบบหนู”

คุณแม่ท่านนี้บอกอีกว่า ทางโรงพยาบาลเผาศพลูกของเธอ โดยที่เธอยังไม่ได้อนุญาต เนื่องจากไม่มีการแจ้งว่าจะเผา เพราะได้ตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วว่า ขอฝากไว้ก่อนแล้วจะมารับ แถมพยาบาลยังให้ใบนัดรับมาอีกด้วย คุณหมอเอ่ยขอโทษแต่ไม่ได้บอกว่าจะรับผิดชอบใดๆ กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นี้ เพียงแต่ได้เรียกประชุม คุยกันถึงเรื่องรับฝากศพ ว่าครั้งหน้าให้รับฝากไว้แค่ 3 วัน

สุดท้ายนี้ ส่วนตัวคุณแม่บอกไม่ต้องการให้ทางโรงพยาบาลมารับผิดชอบ หรือเรียกค่าเสียหายใดๆ แต่อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณแม่คนอื่นๆที่ต้องการจะฝากร่างทารกไว้กับโรงพยาบาล ว่าควรสื่อสารกันให้ชัดเจนและควรมีหลักฐานการเซ็นรับเรื่องขอฝากไว้ให้ละเอียดถูกต้อง และเพื่อให้ทางแพทย์และพยาบาลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ได้ปรับปรุง ประสานงานกันให้ดี ต่อไปจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์นี้กับใครอีก แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ทางคุณแม่ยังสงสัย คือ ไอโฟนมันส่งรูปให้มือถือเครื่องอื่นไม่ได้จริงๆ หรือ?