ศบค. ลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5 ทุ่ม-ตี 3 ปรับจำนวนพื้นที่สีแดงเข้มลงเหลือ 23 จังหวัด
"ศบค." เคาะปรับลดเวลา "เคอร์ฟิว" เป็น 5 ทุ่ม-ตี 3 เตรียมพร้อม 1 พ.ย.นี้ เปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศเสี่ยงต่ำเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว
วันนี้ (14 ต.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 16/2564 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล
ล่าสุด นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงผลการประชุมที่สำคัญว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติปรับลดเวลาการห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานในช่วงเวลากลางคืน หรือเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00 น. ถึง 04.00 น. มาเป็น 23.00 น. ถึง 03.00 น. รวมถึงมีการพิจารณาปรับจำนวนจังหวัดในแต่ละระดับสีใหม่ ดังนี้ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) เหลือ 23 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) 30 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) 24 จังหวัด ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ต.ค. เป็นต้นไป โดยจะดำเนินการเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณามาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแบบไม่ต้องกักตัว ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ และมีแนวโน้มความเป็นไปได้ว่า ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ จะยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์
ส่วนกิจการ/กิจกรรมในพื้นที่สีแดงเข้ม มีการผ่อนคลายและปรับมาตรการ คือ ให้สามารถจัดการประชุมรวมถึงงานประเพณีในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ และสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมได้ โดยปรับจำนวนการรวมกลุ่มคนตามระดับพื้นที่สี
สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 200 คน รวมถึงให้เปิดสถานดูแลผู้สูงอายุแบบไป-กลับได้ แต่ต้องได้รับการพิจารณาอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด หรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ซึ่งกิจการ/กิจกรรมที่จะปรับมาตรการในครั้งนี้ให้เปิดดำเนินการได้ไม่เกินเวลา 22.00 น.
ที่ประชุม ศบค. มีมติสำคัญ ดังนี้
1. เห็นชอบปรับระดับของพื้นที่สถานการณ์ย่อยในพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ดังนี้
-
พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 23 จังหวัด ขณะจังหวัดที่ไม่อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มแล้ว ได้แก่ สุพรรณบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี เพชรบูรณ์ สิงห์บุรี อ่างทอง และลพบุรี นครราชสีมา แต่จังหวัดที่เพิ่มมาใหม่ ได้แก่ จันทบุรี นครศรีธรรมราช
-
พื้นที่ควบคุมสูงสุด 30 จังหวัด
-
พื้นที่ควบคุม 24 จังหวัด
2. ปรับมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 ในพื้นที่
- สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด
- ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) เป็น 23.00 น. - 03.00 น. อย่างน้อย 15 วัน (เริ่มตั้งแต่ 16 ต.ค. 64)
- ปรับเวลาเปิดกิจการ/กิจกรรมต่างๆ ตามกำหนด จาก 21.00 น. เป็น 22.00 น.
- จัดการประชุม และจัดงานตามประเพณีนิยมได้ ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือ สถานที่จัด นิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้า และโรงแรมได้
- สถานดูแลผู้สูงอายุให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับ ได้
- สำหรับทุกพื้นที่
- ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ให้เปิด ตู้เกม เครื่องเล่น ร้านเกม ที่เล่นรายบุคคล หรือแข่งเป็นคู่ได้ (ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังไม่เปิดบริการ)
- การจัดกิจกรรมรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ปรับเป็น 50, 100, 200, 300, 500 คน
ในส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ นั้น ที่ประชุม ศบค. ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และ กทม. ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เร่งกำหนดมาตรการสำหรับเตรียมการให้แล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม นี้
3. เห็นชอบให้จัดหายา Molnupiravir จำนวน 50,000 คอร์สการรักษา โดยมอบหมายให้กรมการแพทย์ นำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติกรอบวงเงินสำหรับการจัดซื้อยาต่อไป
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค. เพิ่มจังหวัดนำร่องการท่องเที่ยว ระยะที่ 1 (1-30 พฤศจิกายน 2564 ) จาก 10 จังหวัดเป็น 15 จังหวัด ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร
- สมุทรปราการ (สนามบินสุวรรณภูมิ)
- กระบี่ (ทั้งจังหวัด)
- พังงา (ทั้งจังหวัด)
- ประจวบคีรีขันธ์ (ตำบลหัวหิน หนองแก)
- เพชรบุรี (เทศบาลเมืองชะอำ)
- ชลบุรี (พัทยา อำเภอบางละมุง ตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่ เกาะสีชัง อำเภอศรีราชา)
- ระนอง (เกาะพยาม)
- เชียงใหม่ (อำเภอเมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า)
- เลย (เชียงคาน)
- บุรีรัมย์ (เมือง)
- หนองคาย (เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบอ สังคม)
- อุดรธานี (เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง)
- ระยอง (เกาะเสม็ด) และ
- ตราด (เกาะช้าง)
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ